กลายเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความตกตะลึง เมื่อสมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรทรงได้รับการวินิจฉัยจากคณะแพทย์ว่าทรงพระประชวรด้วยโรคมะเร็ง และจำเป็นจะต้องทรงงดพระราชกรณียกิจต่างๆ เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา
แถลงการณ์จากสำนักพระราชวังบักกิงแฮมเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ก.พ. ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 ทรงประชวรด้วยโรคมะเร็งชนิดใด แต่เบื้องต้นเป็นที่เข้าใจกันว่าไม่ใช่มะเร็งต่อมลูกหมาก
ข่าวพระอาการประชวรมีขึ้นไม่ถึง 18 เดือน หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติต่อจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระราชมารดา เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ปี 2022
สมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 ทรงแย้มสรวลและโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนที่มารอเฝ้าฯ ขณะเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักแคลเรนซ์เฮาส์ไปยังพระราชวังบักกิงแฮมเมื่อวันอังคาร (6) ซึ่งถือเป็นการปรากฏพระองค์ครั้งแรกหลังจากมีข่าวการประชวรออกมา จากนั้นพระองค์และสมเด็จพระราชินีคามิลลาได้ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งเสด็จฯ ไปยังพระตำหนักซานดริงแฮมทางตะวันออกของอังกฤษ เพื่อทรงฟื้นฟูพระวรกาย
การพักรักษาพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลสคาดว่าจะทำให้ “เจ้าชายวิลเลียม” มกุฎราชกุมารและพระราชโอรสองค์ใหญ่ ทรงก้าวขึ้นมามีบทบาทในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์แบบเต็มตัว เช่นเดียวกับพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่นๆ
สำนักพระราชวังอังกฤษยืนยันว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส “ยังทรงมีกำลังพระทัยที่ดี” ขณะที่นายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก ก็ให้สัมภาษณ์ยืนยันเมื่อวันอังคาร (6) ว่า พระอาการประชวร “ถูกตรวจพบแต่เนิ่นๆ” และยังทรงมีแผนที่จะทำงานส่วนพระองค์ต่อไปในฐานะพระประมุข ซึ่งรวมถึงการพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ ทุกสัปดาห์ด้วย
“สิ่งเหล่านั้นจะดำเนินไปตามปกติแน่นอน และเราจะค่อยๆ แก้ไขทุกอย่าง” ซูแน็ก ระบุ
สำนักพระราชวังอังกฤษระบุว่า พระโรคมะเร็งถูกตรวจพบระหว่างที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลสทรงประทับรักษาพระอาการประชวรต่อมลูกหมากโตที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 คืนเมื่อเดือน ม.ค. แต่นอกเหนือจากคำยืนยันเรื่องโรคมะเร็งแล้ว ก็ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมอีก
โดยปกติแล้วข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพพลานามัยของสมาชิกราชวงศ์อังกฤษมักไม่เป็นที่เปิดเผย แต่สำนักพระราชวังระบุว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 ทรงตัดสินพระทัยที่จะแถลงเรื่องนี้ต่อสาธารณชน ในฐานะที่ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์มูลนิธิเกี่ยวกับโรคมะเร็งหลายองค์กรด้วยกัน
ในขณะที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 ทรงพักรักษาพระวรกาย ข่าวการประชวรก็ยิ่งกระพือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอังกฤษเกี่ยวกับระยะเวลาที่ผู้ป่วยมะเร็งต้องเข้าคิวรอรับการรักษากับสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ซึ่งนับวันจะยิ่งนานขึ้นเรื่อยๆ จนถูกมองว่าเป็นปัญหาขั้น “วิกฤต” แล้ว
อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งในอังกฤษยังถือว่ารั้งท้ายประเทศอื่นๆ ในยุโรปในกลุ่มโรคมะเร็งที่พบบ่อย 9 ใน 10 ชนิด ตามรายงานของ NHS Confederation ที่เผยแพร่เมื่อเดือน ม.ค.
พระอาการประชวรครั้งนี้ถือเป็นมรสุมครั้งใหญ่อีกลูกหนึ่งสำหรับสถาบันกษัตริย์อังกฤษในช่วงระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 ทรงครองสิริราชสมบัติมา โดยเมื่อต้นปีที่แล้ว “เจ้าชายแฮร์รี” พระราชโอรสองค์รอง ก็ก่อประเด็นดราม่าจากการตีพิมพ์หนังสืออัตชีวประวัติ ‘Spare’ ที่มีการแฉข้อมูลเชิงลบเกี่ยวกับพระบิดาและพระเชษฐา “เจ้าชายวิลเลียม” อีกทั้งพระเจ้าชาร์ลสยังต้องทรงเผชิญคำถามต่างๆ นานาเกี่ยวกับพฤติกรรมอื้อฉาวของ “เจ้าชายแอนดรูว์” พระราชอนุชาที่ทรงเข้าไปพัวพันกับนักค้ากามเด็ก เจฟฟรีย์ เอปสตีน
ขณะเดียวกัน “เจ้าหญิงแคทเธอรีน” พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม ก็ทรงอยู่ระหว่างพักรักษาพระวรกาย หลังจากที่ทรงเข้ารับการผ่าตัดช่องพระอุทร (ช่องท้อง) ด้วยพระโรคที่ไม่ใช่มะเร็งเมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา และคาดว่าจะยังคงไม่สามารถปฏิบัติพระกรณียกิจตามปกติได้จนกว่าจะพ้นเทศกาลอีสเตอร์ไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ เจ้าชายวิลเลียม พระชันษา 41 ปี ทรงงดพระราชกรณียกิจต่างๆ ชั่วคราวเพื่อทรงอยู่ดูแลพระชายาและพระโอรส-ธิดาทั้ง 3 พระองค์ แต่คาดว่าจะทรงกลับมาปฏิบัติพระกรณียกิจอีกครั้งในวันพุธ (7) และน่าจะต้องทรงรับหน้าที่ต่างๆ แทนสมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 อยู่ไม่น้อย โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงอย่างเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ และสมเด็จพระราชินีคามิลลา ทรงช่วยแบ่งเบาด้วยอีกแรง
ที่ผ่านมาสมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 ทรงมีนโยบายลดขนาดสถาบันพระมหากษัตริย์ลง ทว่าเมื่อขาดเจ้าชายแอนดรูว์และเจ้าชายแฮร์รีไป สมาชิกราชวงศ์ที่ยังทรงปฏิบัติพระกรณียกิจอยู่ทุกวันนี้นอกจากเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคตแล้ว ก็ล้วนแต่มีพระชนมายุเกิน 50 พรรษาทั้งสิ้น และบางพระองค์ก็มีพระชันษาล่วงเลยถึง 80 กว่าแล้ว
แมทธิว เดนนิสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ราชวงศ์ เอ่ยถึงสมเด็จพระเจ้าชาร์ลสว่าทรงเป็นผู้ที่“คลั่งไคล้การทำงาน” (workaholic) และเชื่อว่าจะทรงพยายามฟื้นฟูพระวรกายเพื่อกลับมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจตามปกติให้ได้โดยเร็วที่สุด
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าชายแฮร์รีซึ่งบาดหมางไม่ลงรอยกับสมาชิกราชวงศ์หลายพระองค์นับตั้งแต่ทรงถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงเมื่อเกือบ 4 ปีก่อน ได้เดินทางจากสหรัฐฯ กลับมายังพระตำหนักแคลเรนซ์เฮาส์ในกรุงลอนดอนเมื่อวันอังคาร (6) และเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลสเป็นเวลาสั้นๆ ก่อนที่พระองค์จะเสด็จฯ ไปทรงพักรักษาพระวรกายที่พระตำหนักซานดริงแฮม
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวใกล้ชิดราชวงศ์ยืนยันว่า เจ้าชายแฮร์รีไม่ทรงมีแผนที่จะพบกับเจ้าชายวิลเลียมระหว่างที่ประทับอยู่ในอังกฤษ
ริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ ผู้สันทัดกรณีเรื่องราชวงศ์อังกฤษ เอ่ยถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายแฮร์รีกับเจ้าชายวิลเลียมและบรรดาพระญาติพระวงศ์ในขณะนี้ว่าเป็นความแตกแยกที่ “ร้าวลึกมาก”
ขณะเดียวกัน ชาวอังกฤษจำนวนไม่น้อยบอกว่ารู้สึกเห็นใจเจ้าชายวิลเลียมที่ต้องทรงแบกรับภาระหนักทั้งการดูแลครอบครัวของพระองค์เอง และยังต้องปฏิบัติพระกรณียกิจทางการต่างๆ ในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้
“พระองค์ต้องรับภาระหนัก เพราะพระชายาก็ยังประชวรอยู่ด้วย ก็เลยยิ่งเป็นแรงกดดันสำหรับเจ้าชายวิลเลียม แต่ฉันเชื่อว่าพระองค์จะรับมือได้” ซู เฮเซลล์ ชาวอังกฤษวัยเกษียณคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเอเอฟพีที่ด้านนอกพระราชวังบักกิงแฮม