พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร เมื่อวันอังคาร (6 ก.พ.) ปรากฏพระองค์ในที่สาธารณะเป็นครั้งแรก นับแต่ที่สำนักพระราชวังบัคกิ้งแฮมเปิดเผยว่า ทรงพระประชวรด้วยโรคมะเร็ง ถึงแม้นายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก กล่าวยืนยันว่า โรคร้ายของพระองค์ ถูกตรวจพบตั้งแต่อยู่ในระยะเริ่มต้น ขณะเดียวกัน เจ้าชายแฮร์รีบินกลับถึงลอนดอนแล้ว เพื่อเข้าเยี่ยมพระราชบิดา
สำนักพระราชวังบัคกิ้งแฮมออกคำแถลงเมื่อคืนวันจันทร์ (5) ว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งทรงมีพระชนมายุ 75 พรรษา และทรงเสด็จครองราชย์ได้ไม่ทันถึง 18 เดือนนับจากที่พระราชมารดาคือ พระราชินีนาถเอลิซาเบธ เสด็จสวรรคตนั้น ได้รับการวินิจฉัยจากคณะแพทย์ว่า ประชวรด้วยโรคมะเร็งชนิดหนึ่ง และจะทรงเลื่อนพระราชกรณียกิจต่างๆ เพื่อรับการบำบัดรักษา
คำแถลงยังระบุว่า พระเจ้าชาร์ลส์ ทรงมีกำลังพระทัยดีเยี่ยม และทรงเฝ้ารอที่จะกลับไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจโดยเร็วที่สุด
ในตอนบ่ายวันอังคาร (6) สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ พร้อมพระราชินีคามิลลา เสด็จพระราชดำเนินด้วยรถยนต์พระที่นั่งเป็นระยะทางสั้นๆ จากพระตำหนักคลาเรนซ์เฮาส์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของกรุงลอนดอน ไปยังพระราชวังบัคกิ้งแฮม ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ถือเป็นการปรากฏพระองค์ในที่สาธารณะครั้งแรกนับตั้งแต่มีการประกาศข่าวทรงประชวรด้วยโรคมะเร็ง ทั้งนี้พระราชาธิบดีอังกฤษทรงแย้มพระสรวลและโบกพระหัตถ์ให้แก่พสกนิการขณะรถพระที่นั่งแล่นผ่าน
ด้านนายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็กของอังกฤษ เปิดเผยกับวิทยุบีบีซีตอนเช้าวันอังคาร (6 ) ว่า ตกใจและเศร้าเสียใจกับข่าวนี้ แต่สำทับว่า พสกนิกรอังกฤษทุกคนส่งกำลังใจให้พระเจ้าชาร์ลส์และพระราชวงศ์ และสำทับว่า ตนรู้สึกขอบคุณที่คณะแพทย์ตรวจพบอาการโรคร้ายนี้แต่เนิ่นๆ โดยยังเป็นมะเร็งระยะเริ่มต้น
นายกฯอังกฤษเสริมว่า พระเจ้าชาร์ลส์ทรงมีแผนจะปฏิบัติพระราชกรณียกิจส่วนพระองค์บางอย่างต่อไป ซึ่งรวมถึงการให้นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าถวายรายงานประจำสัปดาห์ และยืนยันว่า เขายังคงมีการติดต่อกับพระเจ้าชาร์ลส์ตามปกติ
ขณะที่รายงานระบุว่า พระเจ้าชาร์ลส์ทรงประทับที่พระตำหนักคลาเรนซ์เฮาส์เมื่อคืนวันจันทร์ หลังจากเริ่มขั้นตอนการรักษาในฐานะผู้ป่วยนอก
ทั้งนี้ คณะแพทย์ตรวจพบว่าทรงเป็นมะเร็ง ระหว่างที่พระเจ้าชาร์ลส์ประทับที่โรงพยาบาล 3 คืนเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อรักษาพระอาการต่อมลูกหมากโต อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากการยืนยันว่า ไม่ใช่มะเร็งต่อมลูกหมากแล้ว สำนักพระราชวังบัคกิ้งแฮมไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ
อย่างไรก็ดี ปกติแล้วสมาชิกราชวงศ์มักไม่เปิดเผยเรื่องราวปัญหาสุขภาพ แต่สำนักพระราชวังระบุว่า พระเจ้าชาร์ลส์ทรงเลือกเปิดเผยเรื่องนี้เพื่อป้องกันการคาดเดาไปต่างๆ นานา รวมทั้งทรงหวังว่า จะทำให้สังคมทั่วโลกมีความเข้าใจผู้ป่วยมะเร็งมากขึ้น ทั้งนี้ พระองค์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์มูลนิธิเกี่ยวกับโรคมะเร็งหลายแห่ง
มีรายงานว่า เจ้าชายแฮร์รี พระราชโอรสองค์เล็กของพระเจ้าชาร์ลส์ ที่มีเรื่องบาดหมางกับทางสมาชิกราชวงศ์ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ได้รีบเดินทางจากพระตำหนักในแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐฯ กลับอังกฤษโดยด่วนหลังจากทราบข่าวพระราชบิดาประชวรด้วยโรคร้าย และเดินทางถึงกรุงลอนดอนแล้ว
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวราชสำนักรายหนึ่งระบุว่า ไม่มีแผนการใดๆ ในเรื่องที่เจ้าชายแฮร์รี จะเสด็จไปเฝ้าเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐา ระหว่างที่เสด็จมาอังกฤษครั้งนี้
ขณะที่เจ้าชายวิลเลียม ในฐานะที่ทรงเป็นมกุฎราชกุมาร ได้รับการคาดหมายว่าจะปฏิบัติพระราชกรณียกิจบางอย่างแทนพระราชบิดา ระหว่างองค์พระประมุขทรงพระประชวร
ด้านผู้นำออสเตรเลียและแคนาดา ที่พระเจ้าชาร์ลส์ทรงเป็นพระประมุขแห่งรัฐ ต่างส่งสาสน์แสดงความปรารถนาดีและแสดงความหวังว่า พระองค์จะหายจากอาการประชวรโดยเร็ว ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของอเมริกา เผยว่า รู้สึกกังวลเมื่อได้รับรู้ข่าวนี้
ข่าวการประชวรด้วยโรคมะเร็งของพระเจ้าชาร์ลส์ กลายเป็นข่าวที่สื่ออังกฤษทั้งหมดให้ความสนใจ นับจากมีคำแถลงออกมา และถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับราชวงศ์ซึ่งเกิดขึ้นในรอบปีครึ่งนับจากที่ทรงขึ้นครองราชย์
ต้นปีที่แล้ว เจ้าชายแฮร์รีตีพิมพ์หนังสืออัตชีวประวัติในชื่อ “Spare” ที่ตีแผ่ความสัมพันธ์เลวร้ายกับพระราชบิดา และเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐา
นอกจากนั้นพระเจ้าชาร์ลส์ยังต้องทรงรับมือกับข้อกล่าวหาอื้อฉาวของเจ้าชายแอนดรูว์ พระราชอนุชา ที่พัวพันเกี่ยวข้องกับเจฟฟรีย์ เอปสไตน์ ผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์ที่เสียชีวิตไปแล้ว
ทั้งนี้ ก่อนขึ้นครองราชย์ มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า พระเจ้าชาร์ลส์ ซึ่งทรงเป็นผู้สนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมายาวนาน จะสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคนในราชวงศ์อังกฤษ แต่กลับกลายเป็นว่า โดยทั่วไปแล้วพระองค์ทรงเจริญรอยตามพระราชมารดา แต่พยายามเพิ่มเติมแนวทางบางอย่างที่เป็นของพระองค์เอง
ที่ผ่านมาผลสำรวจบ่งชี้ว่า คนอังกฤษส่วนใหญ่มองแง่บวกต่อการครองราชย์ของพระเจ้าชาร์ลส์ แม้คนรุ่นหนุ่มสาวดูเหมือนไม่ค่อยกระตือรือร้นกับราชวงศ์นักก็ตาม
อิงกริด สเวิร์ด บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร มาเจสตี้ แมกกาซีน แสดงความเห็นว่า ด้วยอาการประชวรล่าสุดจะทำให้พระเจ้าชาร์ลส์ต้องยอมลดการทรงงานลง อย่างไรก็ดี เธอมั่นใจว่า พระองค์จะไม่สละราชสมบัติเด็ดขาด
ข่าวการประชวรด้วยโรคมะเร็งของพระเจ้าชาร์ลส์ยังเกิดขึ้นขณะที่ เคต เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ซึ่งเป็นพระชายาของเจ้าชายวิลเลียม เสด็จกลับไปทรงพักฟื้นที่พระตำหนักหลังจากทรงเข้ารับการผ่าตัดช่องท้องและประทับอยู่ที่โรงพยาบาลนาน 2 สัปดาห์ โดยไม่มีการระบุรายละเอียดนอกจากการยืนยันว่า ไม่ใช่โรคมะเร็ง
(ที่มา: รอยเตอร์)