xs
xsm
sm
md
lg

มะกันย้ำจะถล่มลิ่วล้ออิหร่านต่ออีก บอกที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ – ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวลั่นการโจมตีเมื่อวันศุกร์ (2 ก.พ.) เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการตอบโต้กลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลางที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และอเมริกามีแผนโจมตีต่อรวมถึงดำเนินการขั้นตอนต่อไป ซึ่งบางอย่างอาจเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน เพื่อย้ำว่า สหรัฐฯ จะตอบโต้หากกองกำลังถูกโจมตีหรือพลเมืองอเมริกันถูกสังหาร

อเมริกาและอังกฤษผนึกกำลังโจมตีเป้าหมายของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน 36 แห่งเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว และก่อนหน้านั้นหนึ่งวันกองทัพอเมริกายังโจมตีกลุ่มติดอาวุธในอิรักและซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านเพื่อล้างแค้นที่กำลังพลของสหรัฐฯ ถูกโจมตีในจอร์แดน

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4 ก.พ.) เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ในรายการ “มีต เดอะ เพรสส์” ของเครือข่ายซีเอ็นบีซีว่า อเมริกามีแผนโจมตีและดำเนินการต่อไปเพื่อส่งสัญญาณอย่างต่อเนื่องว่า อเมริกาจะตอบโต้หากกองกำลังของประเทศถูกโจมตีและพลเมืองอเมริกันถูกสังหาร

เหตุการณ์เหล่านี้เป็นผลกระทบล่าสุดจากความขัดแย้งที่ลุกลามทั่วตะวันออกกลางนับจากวันที่ 7 ต.ค. ที่ฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน บุกข้ามแดนเข้าไปในอิสราเอลและสังหารผู้คนกว่า 1,000 คน รวมทั้งจับตัวประกันกว่า 200 คนกลับไปยังกาซา และเป็นจุดเริ่มต้นการตอบโต้ของอิสราเอลด้วยปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ในกาซา

หลังจากนั้นกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านพร้อมใจประกาศสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ โดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เปิดฉากยิงเป้าหมายในอิสราเอลจากพรมแดนเลบานอน-อิสราเอล กลุ่มติดอาวุธในอิรักโจมตีกองกำลังอเมริกันในอิรักและซีเรีย และกบฏฮูตีในเยเมนยิงเรือสินค้าในทะเลแดง

ทว่า อิหร่านยังคงหลีกเลี่ยงการมีส่วนร่วมโดยตรงในความขัดแย้งนี้ และเพนตากอนประกาศว่า ไม่ต้องการทำสงครามกับเตหะราน และเชื่อว่า เตหะรานไม่ต้องการทำสงครามกับอเมริกาเช่นเดียวกัน

ซัลลิแวนปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นว่า อเมริกาอาจโจมตีเป้าหมายในอิหร่านหรือไม่ โดยระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการ “เฟซ เดอะ เนชัน” ของเครือข่ายซีบีเอส เขาระบุว่า การโจมตีเมื่อวันศุกร์ (2 ก.พ.) เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการตอบโต้ และอเมริกาจะดำเนินการขั้นตอนต่อไป ซึ่งบางอย่างอาจเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน

เพนตากอนแถลงว่า เมื่อวันเสาร์ (3 ก.พ.) อเมริกาได้ถล่มเป้าหมาย 13 แห่งและทำลายคลังเก็บอาวุธ ระบบขีปนาวุธ แท่นยิงจรวด และอุปกรณ์อื่นๆ ที่กบฏฮูตีใช้โจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง

ทางด้านยาห์ยา ซาเรีย โฆษกกองทัพฮูตี ประกาศตอบโต้การโจมตีของอเมริกา และโมฮัมเหม็ด อับดุลซาลาม โฆษกอีกคนสำทับว่า การโจมตีเหล่านั้นไม่สามารถป้องปรามฮูตีได้ นอกจากนี้เยเมนยังตัดสินใจให้การสนับสนุนกาซาต่อไป

การโจมตีเยเมนยังเกิดขึ้นควบคู่กับปฏิบัติการล้างแค้นแทนทหารอเมริกัน 3 นายที่เสียชีวิตจากการโจมตีฐานทัพในจอร์แดนของกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน โดยในวันศุกร์สหรัฐฯ เริ่มการตอบโต้ระลอกแรกด้วยการโจมตีเป้าหมายกว่า 85 แห่งในอิรักและซีเรียที่เชื่อมโยงกับกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) และสามารถสังหารสมาชิกกลุ่มติดอาวุธเกือบ 40 คน

มาฮ์จูบ ซเวรี ผู้อำนวยการกัลฟ์ สตัดดีส์ เซ็นเตอร์ของมหาวิทยาลัยกาตาร์ ไม่คิดว่า การโจมตีระลอกล่าสุดของอเมริกาจะทำให้อิหร่านเปลี่ยนกลวิธี โดยเตหะรานจะไม่ยอมชักศึกเข้าบ้านด้วยการมีส่วนร่วมในการเผชิญหน้าทางทหารโดยตรงที่อาจทำให้บ้านเมืองของตนเองถูกโจมตี

ทั้งนี้ กระทรวงต่างประเทศอิหร่านเตือนว่า การโจมตีเยเมนระลอกล่าสุดของอเมริกาและอังกฤษเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งหากยังมีการโจมตีต่อไปจะถือเป็นภัยคุกคามที่น่ากังวลต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ

แอนเดรียส์ เคร็ก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ของคิงส์ คอลเลจในลอนดอน ตั้งข้อสังเกตว่า แม้การโจมตีของอเมริกาในอิรักและซีเรียบ่งชี้สถานการณ์ความขัดแย้งที่ลุกลามในแง่ระดับความรุนแรงและจำนวนอาวุธที่ใช้ แต่อเมริกายังไม่เคยโจมตีเป้าหมายในอิหร่านหรือพลเมืองอิหร่าน เนื่องจากไม่ต้องการให้สถานการณ์บานปลาย

เขายังคาดว่า จะเห็นการตอบโต้ของกลุ่มติดอาวุธเหล่านั้นหรือการตอบโต้ของอิหร่านต่อฐานทัพสหรัฐฯ ในซีเรียและอิรัก แต่จะเป็นดำเนินการอย่างรอบคอบเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น