รอยเตอร์/เอพี - ประธานกรรมการบริษัทซัมซุง อิเล็กทริก เจย์ วาย. ลี (Jay Y. Lee) วันจันทร์(5 ก.พ) ถูกศาลเกาหลีใต้ตัดสินพ้นผิดคดีการวบรวมบริษัทก่อสร้าง Samsung C&T และบริษัท Cheil Industries ปี 2015 อัยการโซลอ้างเพื่อเอื้อลีให้การถ่ายโอนอำนาจการคุมบังเหียนซัมซุงได้ง่ายขึ้น
รอยเตอร์รายงานวันนี้(5 ก.พ)ว่า คำตัดสินที่ออกมาสร้างความประหลาดใจให้กับนักวิเคราะห์บางส่วนที่คาดว่าอาจจะได้เห็นการพิพากษาการงดโทษ
ทั้งนี้ เจย์ วาย ลี (Jay Y. Lee) วัย 55 ปีและอดีตผู้บริหารคนอื่นถูกกล่าวหาอยู่เบื้องหลังการควบรวมที่อื้อฉาวปี 2015 ระหว่างบริษัทก่อสร้าง Samsung C&T และบริษัท Cheil Industries
อัยการเกาหลีใต้เรียกร้องให้ศาลลงโทษตัดสินจำคุก 5 ปีในเรือนจำ แต่ทว่าลีซึ่งเป็นทายาทซัมซุงในเวลานั้นปฎิเสธว่าตัวเองและอดีตผู้บริหารคนอื่นๆไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นแค่ “การทำธุรกิจตามปกติ” และอีกทั้งเชื่อว่าการควบรวมจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น
เอพีชี้ว่า ศาลเกาหลีใต้กล่าวว่า อัยการไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าการควบรวมบริษัททั้งสองนั้นกระทำอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยมีเป้าหมายไปที่เพิ่มความแข็งแกร่งของการควบคุมบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ของลี
รอยเตอร์กล่าวว่า คณะผู้พิพากษา 3 คนของศาลแขวงโซลกลางแถลงว่า การตัดสินใจควบรวมนั้นเกิดขึ้นโดยบอร์ดของทั้ง 2 บริษัท
“มันไม่สามารถที่จะสรุปได้ว่าเป้าหมายเดียคือการเพิ่มความแข็งแกร่งสิทธิการบริหารของจำเลย ลี แจยอง (Lee Jae-yong) และทำให้การรับช่วงต่อกิจการภายในกลุ่มธุรกิจซัมซุง กรุ๊ปมีความง่ายขึ้น” ผู้พิพากษา ปาร์ก จอง-เจ (Park Jeong-je)พิพากษาภายในห้องพิจารณาคดี
รอยเตอร์รายงาน จำเลยทั้ง 14 คนในคดีนี้ถูกตัดสินพ้นความผิด
เอพีวิเคราะห์ว่า คำพิพากษาที่ออกมาโดยศาลแขวงโซลกลางนั้นช่วยให้ปัญหาทางคดีความที่สุมรุมล้อมรอบตัวประธานลีผ่อนคลายลง
คิม คี-ชาน (Kim Ki-chan) ศาสตราจารย์ทางธุรกิจประจำมหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่งเกาหลี (the Catholic University of Korea) ได้แสดงความเห็นต่อรอยเตอร์ว่า “สำหรับผู้ประกอบการและผู้นำทางธุรกิจ งานของพวกเขาคือการขับเคลื่อนการสร้างสรรค์และการสร้างงาน แต่ซัมซุงกลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้มากนักมานานร่วม 9 ปีเป็นเพราะความเสี่ยงทางกฎหมาย”
เขาเสริมต่อว่า จากปัญหาทางคดีความของลีส่งผลทำให้บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์กลายเป็นเอื่อเฉื่อยเหมือนระบบราชการและตกอยู่ในความเสี่ยงต่ออันตราย