จีนโค่นบัลลังก์แชมป์ญี่ปุ่นก้าวสู่การเป็นประเทศผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2023 ตามข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งญี่ปุ่น (Japan Automobile Manufacturers Association - JAMA)
อุตสาหกรรมยานยนต์จีนเฟื่องฟูอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพื่อพัฒนา “รถยนต์ไฟฟ้า” ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่บรรดาค่ายรถญี่ปุ่นยังเลือกที่จะก้าวเดินอย่างระมัดระวัง
JAMA แถลงวันนี้ (31 ม.ค.) ว่า ญี่ปุ่นส่งออกรถยนต์รวมทั้งสิ้น 4.42 ล้านคันในปี 2023 ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับตัวเลขการส่งออกรถยนต์ของจีนที่พุ่งสูงถึง 4.91 ล้านคัน ตามตัวเลขของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีน (China Association of Automobile Manufacturers - CAAM)
ด้านสำนักงานศุลกากรจีนได้ออกมาให้ตัวเลขส่งออกรถยนต์ในปีที่แล้วมากถึง 5.22 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 57% เมื่อเทียบปีต่อปี โดย 1 ใน 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
ก่อนหน้านี้เป็นที่รู้กันแล้วว่า จีนส่งออกรถยนต์ต่อเดือนมากกว่าญี่ปุ่น ทว่าตัวเลขที่ JAMA เปิดเผยวันนี้ (31) เป็นเครื่องยืนยันว่าจีนยังก้าวสู่การเป็นผู้ส่งออกรถยนต์เบอร์ 1 ของโลกตลอดปีที่แล้วด้วย
อย่างไรก็ดี บริษัท โตโยต้า (Toyota) ของญี่ปุ่นยังคงครองแชมป์ค่ายรถที่มียอดขายสูงสุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 4 โดยทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 11.2 ล้านคันในปี 2023
แทนที่จะผันตัวไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ค่ายรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่เลือกที่พัฒนารถยนต์ไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีรถยนต์อย่าง Toyota Prius เป็นหนึ่งในรุ่นบุกเบิก
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในญี่ปุ่นมีสัดส่วนเพียง 1.7% ในปี 2022 เมื่อเทียบกับ 15% ในยุโรปตะวันตก 5.3% ในสหรัฐฯ และเกือบ 20% ในจีน
อย่างไรก็ตาม ค่ายรถญี่ปุ่นหลายเจ้าเตรียมกระโจนเข้าร่วมวงแข่งขันในสมรภูมิอีวี โดยโตโยต้าประกาศตั้งเป้าจำหน่ายรถยนต์อีวีให้ได้ถึงปีละ 1.5 ล้านคันภายในปี 2026 และจะเพิ่มเป็น 3.5 ล้านคันภายในปี 2030
BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครเซินเจิ้น เพิ่งจะแซงหน้าเทสลา (Tesla) ของอีลอน มัสก์ ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2023 ผงาดขึ้นมาเป็นบริษัทที่มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดในโลก โดยได้อานิสงส์จากการที่รัฐบาลจีนมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างชัดเจน
ที่มา : รอยเตอร์