รัฐบาลไต้หวันออกมาแสดงความไม่พอใจกรณีจีนปรับเส้นทางการบินเข้าใกล้เส้นมัธยฐาน (median line) ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนแบบไม่เป็นทางการในช่องแคบไต้หวันมากขึ้น ชี้เป็น “การกระทำฝ่ายเดียว” ที่ส่อเจตนาท้าทายสถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน (status quo) เพื่อจุดประสงค์ทางการทหาร
สำนักงานการบินพลเรือนจีนระบุในคำแถลงสั้นๆ วานนี้ (30 ม.ค.) ว่าตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไปจะยกเลิกมาตรการชดเชย (offset measure) สำหรับปฏิบัติการของแนวเส้นทางบิน M503 ริมชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของเส้นมัธยฐานในช่องแคบไต้หวัน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เส้นมัธยฐานถูกถือกันว่าเป็นเส้นแบ่งเขตแดนจีน-ไต้หวันแบบไม่เป็นทางการ ทว่ารัฐบาลจีนไม่เคยยอมรับการมีอยู่ของเส้นนี้ และเครื่องบินขับไล่ของกองทัพจีนก็บินข้ามเส้นมัธยฐานอยู่เป็นประจำเพื่อสำแดงอิทธิพลกดดันให้ไต้หวันยอมรับว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน
จีนยังประกาศว่าจะเปิดเส้นทางบิน “จากตะวันตกไปยังตะวันออก” หรือพูดให้ชัดก็คือในทิศทางมุ่งตรงไปยังไต้หวันสำหรับ 2 เที่ยวบินที่เดินทางออกจากนครเซี่ยเหมิน (Xiamen) และฝูโจว (Fuzhou) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับหมู่เกาะจินเหมิน (Kinmen) และหมาจู่ (Matsu) ที่ไต้หวันควบคุมอยู่
สำนักงานการบินพลเรือนไต้หวันและสภากิจการแผ่นดินใหญ่ต่างออกมาวิจารณ์ และประท้วงความเคลื่อนไหว “ฝ่ายเดียว” ของจีนอย่างรุนแรง
สภากิจการแผ่นดินใหญ่ของไต้หวันระบุว่า จีนกำลังมองข้ามความปลอดภัยทางการบิน ไม่เคารพไต้หวัน และจงใจผูกโยงการบินพลเรือนเข้ากับเป้าหมายทางการเมืองและการทหารเพื่อที่จะเปลี่ยน status quo ภายในช่องแคบไต้หวัน
“หากจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงดื้อรั้นจะทำเช่นนี้ต่อไป ก็จะต้องรับผิดชอบผลกระทบร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบที่จะตามมา” สภาฯ ระบุ
เจีย จ้ง (Chieh Chung) นักวิจัยด้านการทหารจากสถาบัน National Policy Foundation ของไต้หวันระบุว่า แนวเส้นทางบินใหม่นี้จะอยู่ห่างจากเส้นมัธยฐานเพียง 7 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้ระบบป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันเหลือกรอบเวลาในการแจ้งเตือน หรือปฏิบัติการตอบโต้ได้น้อยลงกว่าเดิม
“จีนกำลังพยายามลบล้าง หรือปฏิเสธการมีอยู่ของเส้นมัธยฐานอย่างสิ้นเชิง” เจีย กล่าว
ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงว่า การกระทำที่ “หยาบคายและไร้เหตุผล” ของจีนในครั้งนี้อาจกระพือความตึงเครียดได้ง่ายๆ
“หากมีอากาศยานซึ่งไม่ทราบที่มาที่ไปรุกล้ำเข้ามาในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) เราก็จะดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติและกฎระเบียบฉุกเฉินเพื่อป้องกันความปลอดภัยน่านฟ้าของเรา” กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุ
สำนักงานกิจการไต้หวันของจีนออกมาปฏิเสธข้อกังวลที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าการปรับเปลี่ยนเส้นทางบินในลักษณะนี้ “เกิดขึ้นเป็นประจำ” อยู่แล้วเพื่อบรรเทาความหนาแน่นของน่านฟ้า และรัฐบาลจีนไม่จำเป็นที่จะต้องปรึกษาหารือกับไต้หวันก่อน
เฉิน ปินหวา (Chen Binhua) โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน ระบุในงานแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งวันนี้ (31) ว่า “สิ่งที่เรียกว่าเส้นมัธยฐานไม่มีอยู่จริง”
“แนวเส้นทางบิน M503 ถูกใช้เพื่อการบินพลเรือน และอยู่ในอาณาเขตแถลงข่าวการบินเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Flight Information Region) จุดประสงค์ของมันก็เพื่อลดความแออัดของน่านฟ้าและเส้นทางการบิน และเพื่อรับรองความปลอดภัยทางการบิน” เฉิน กล่าว
นอกจากสายการบินของจีนเองแล้ว เส้นทางบิน M503 ยังถูกใช้โดยสายการบินต่างชาติสำหรับเที่ยวบินที่เดินทางไปกลับจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่เมืองต่างๆ ของจีน เช่น นครเซี่ยงไฮ้ เป็นต้น
ที่มา : รอยเตอร์