xs
xsm
sm
md
lg

PLANET #3: เจาะลึกสาเหตุร่มชูชีพไม่กาง พาร่างหนุ่มอังกฤษโหม่งพัทยา พลาดเหลือเชื่อ ร่มนำร่องติดคาสายนิรภัย ไม่อาจทำหน้าที่ให้ร่มหลักร่อนลม!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หนุ่มอังกฤษ นามว่า นาธี โอดินสัน จบชีวิตโลดโผนเสี่ยงภัยกลางเวหา ณ อายุเพียง 33 ปี ขณะกระโดดอากาศจากยอดอาคาร 29 ชั้น ลงมาดำดิ่งเวิ้งฟ้า แต่เครื่องมือรักษาชีวิตผจญภัยของเขา อันได้แก่ ร่มชูชีพ มีเหตุขัดข้อง ส่งผลให้ร่มไม่กางและจึงไม่สามารถร่อนลม แล้วค่อยๆ นำส่งเขาลงสู่แผ่นดินอย่างปลอดภัย พี่ชายของเขาให้สัมภาษณ์ เดอะซัน สื่อจอมยักษ์แดนผู้ดี ว่าเมื่อดูในคลิปวิดีโอที่เพื่อนน้องชายถ่ายไว้ปฏิบัติการ BASE Jumping แล้ว ก็ฟันธงเลยว่า เจ้าร่มชูชีพเล็กที่เป็นร่มนำร่อง (ผืนสีขาวตุ่นๆ ในมือของ นาธี) ไปติดคาที่สายนิรภัยซึ่งรัดกระเป๋าร่มไว้กับลำตัวและขา มันจึงไม่สามารถทำหน้าที่ช่วยให้ร่มชูชีพผืนหลักกางตัวและแผ่ขึงลอยลมได้ ทั้งนี้ ต้องนับว่าเป็นอุบัติเหตุที่ยากจะป้องกัน เพราะสิ่งที่เห็นในคลิปก็คือ นาธี ทำทุกขั้นตอนอย่างครบถ้วนแล้ว รวมทั้งการเช็กสภาพของร่มนำร่อง ก่อนจะสตาร์ทปฏิบัติการกระโจนอากาศลงสู่เวิ้งฟ้าอันมืดหม่นไร้แสงตะวัน
หนุ่มนักดำดิ่งเวิ้งฟ้าและเหินเวหาชาวอังกฤษผู้ไปพลาดพลั้งโหม่งพสุธา ณ คอนโดมีเนียม 29 ชั้น ริมถนนพัทยา-นาเกลือ ที่แท้พลั้งพลาดในทางเทคนิคเพียงเล็กน้อย แต่ก็เป็นอะไรที่อันตรายขั้นสุด และจึงเสียท่าให้แก่มัจจุราช ทั้งที่เป็นมืออาชีพด้านการกระโดดร่อนลมจากที่สูง - BASE Jumping โดยมีประสบการณ์โชกโชนในการกระโดดเหินเวหาประเภทต่างๆ มากกว่า 5,000 ครั้งทั่วโลก พี่ชายของนักผจญภัยนิสัยดี ให้ข้อมูลไว้กับเดอะซัน สื่อยักษ์ใหญ่แห่งแดนผู้ดี

การกลับสู่ดาวผู้กล้าหาญของหนุ่มฉกรรจ์นักเหินเวหา นามว่า นาธี โอดินสัน วัย 33 ปีซึ่งเสียชีวิตอย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น อุบัติอย่างคาดไม่ถึงหลังจากที่เขาและเพื่อนคนอังกฤษด้วยกันหนึ่งนาย กับเพื่อนชาวไทยหนึ่งนาย ลักลอบขึ้นไปยังจุดสูงสุดของอาคารคอนโดมีเนียมหรูระฟ้าใกล้เซ็นทรัล พัทยา เฟสติวัล เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2024

พร้อมนี้ เพื่อนทั้งสองนายต่างช่วยกันถ่ายคลิป และตัว นาธี โอดินสันเองก็เดินกล้องโกโปรไว้ที่หมวกนิรภัยด้วย ซึ่งจะกลายเป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ระทึกสนุกตื่นเต้น ไว้เผยแพร่แก่บรรดาชาวโซเชียลมีเดียที่นิยมความสูงความเสี่ยงทั้งปวง

บรรยายคลิปที่ 1
วิดีโอฟุตเทจมรณะที่ เดอะซัน สื่อหัวสีระดับเจ้าพ่อแดนผู้ดี นำขึ้นเผยแพร่บนยูทูป ซึ่งจะเผยให้เห็นครึ่งหนึ่งคลิปทั้งหมดที่เพื่อนชาวอังกฤษของ นาธี โอดินสัน บันทึกปฏิบัติการ BASE Jumping ของ นาธี ณ ดาดฟ้าของคอนโดมีเนียมสูง 29 ริมถนนพัทยา-นาเกลือ ตั้งแต่ช่วงเตรียมความพร้อม เช็กความแน่นอนของอุปกรณ์ทั้งปวง ช่วงกระโดด แต่ก็ต้องตัดไว้แค่นั้น แต่มีหลายฝ่ายที่ได้เห็นหลายๆ วินาทีสำคัญยิ่งยวด อันประกอบด้วย ช่วงดำดิ่งสู่ปฐพี จนกระทั่งช่วงของความผิดพลาดที่ร่มชูชีพไม่กาง และช่วงวินาทีที่ร่างแข็งแกร่งของ นาธี กระแทกตูมไปต้นไม้ ก่อนจะต่อด้วยอีกหนึ่งตูมบนพื้นถนนวนรอบคอนโดมีเนียม โดยจะเห็นว่าร่มนำร่องสีขาวไม่สามารถกางกินลม หากแต่แค่สะบัดๆ กระพือๆ ไปตลอดเส้นทางสู่ความตายนักท้ามฤตยูคนหนึ่ง ผู้ที่ได้เดินทางออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือก ไปสู่ดาวผู้กล้าในวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2024 โดยเป็น BASE Jumper รายที่ 472 ซึ่งเสียชีวิตขณะดำเนินปฏิบัติการ ตามสถิตินับตั้งแต่เดือนเมษายน 1981 เป็นต้นมา

คลิปมรณะความยาวไม่ถึงหนึ่งนาทีนี้ ทำให้ เอ็ดเวิร์ด แฮร์ริสัน พี่ชายของ นาธี โอดินสัน กล่าวฟันธงกับเดอะซันว่า ร่มชูชีพตัวเล็กซึ่งเป็นตัวนำร่องและดึงให้ร่มชูชีพหลักออกมากางขึงรับลมนั้น ไปติดคากับสายนิรภัยที่รัดกายและรัดขา ซึ่งนั่นหมายความว่า “ไม่มีโอกาสเลย” ที่ร่มชูชีพตัวหลักจะสามารถทำหน้าที่พยุงให้ นาธี ค่อยๆ เคลื่อนลงสู่ผืนปฐพีอย่างปลอดภัย

โดยในวิดีโอฟุตเทจดังกล่าวที่เป็นเวอร์ชันเต็ม จะเห็น ร่มชูชีพเล็กที่เป็นตัวนำร่องนี้ ได้แต่สะบัดกระพือไปตลอดทาง

พี่ใหญ่แฮร์ริสัน ซึ่งมาจากเทศมณฑลเคมบริดจ์เชอร์ ประเทศอังกฤษ เช่นเดียวกับ นาธี โอดินสัน บอกว่าแม้น้องชายคนเก่งของตนจะมีประสบการณ์มากมาย เคยกระโดดจากที่สูงประเภทต่างๆ มาแล้วมากกว่า 5,000 แห่งทั่วโลก แต่เขาได้ทำความพลาดพลั้งแสนอันตรายวายป่วง “โดยไม่รู้ตัว”

ในระหว่างให้สัมภาษณ์แก่เดอะซัน พี่ใหญ่วัย 39 ปี บอกด้วยว่าน้องชายคนนี้เป็นที่ชื่นชมของผู้คนมากมาย เขารักความสนุกสนาน เป็นคนร่าเริง และใจดีมีเมตตากับเด็กๆ เขาเป็นคุณอาฮีโร่ขวัญใจลูกๆ ทั้งสามของพี่แฮร์ริสัน

Mini pilot chute หรือก็คือร่มนำร่อง (ภาพมุมซ้ายบน) ที่พี่ชายของเนธี โอดินสัน ระบุว่าไปติดคาที่สายรัดกระเป๋าร่มชูชีพนั้น ไม่สามารถกางตัว แล้วจึงไม่สามารถช่วยให้ร่มชูชีพหลักสามารถกางและแผ่ตัวขึงออกได้เต็มที่ ผลที่ตามมาคือร่มชูชีพหลักก็ไม่สามารถทำหน้าที่ร่อนลมเพื่อพยุงให้ เนธี ลงสู่ปฐพีอย่างปลอดภัย (แบบในภาพใหญ่ด้านบน) ร่มนำร่องนับได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของระบบร่มชูชีพ โดยร่มนำร่องจะออกมาจากกระเป๋าก่อน แล้วจะช่วยให้ร่มชูชีพหลักกางขึงออกรับลม ผู้สันทัดกรณีจะเตือนเสมอว่าจะต้องคอยเปลี่ยนร่มนำร่องตัวใหม่ เพื่อความชัวร์ว่าระบบสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ภาพตัวอย่างที่ร่มนำร่องทำงานกลางเวิ้งฟ้า เป็นภาพของคุณริชาร์ด ชไนเดอร์ (ภาพล่าง) ซึ่งมีภาพงดงามอลังการให้ชมมากมาย

บรรยายคลิปที่ 2
คลิปตัวอย่างการแก้ปัญหาเมื่อผู้ฝึกกระโดด BASE Jump ประสบวิกฤติ ไม่สามารถกระตุกร่มชูชีพได้ ในคลิปนี้ ครูฝึกต้องช่วยแก้ไขกันกลางเวิ้งฟ้า และในที่สุดก็รักษาชีวิตอันทรงคุณค่าของมนุษย์คนหนึ่งให้หนีเงื้อมมือมัจจุราชได้สำเร็จ

ด้านเดลิเมลออนไลน์ อีกหนึ่งสื่อยักษ์ใหญ่จอมขยี้ข่าว บอกว่า นาธี โอดินสัน เป็นนักกระโดดอากาศและเหินฟ้ามืออาชีพที่ศึกษาเรียนรู้และพัฒนาตนเอง และมีความสุขกับการเล่นโลดโผนให้อะดรีนาลีนหลั่ง ในระดับเสพติดกันเลยทีเดียว

ในวิดีโอฟุตเทจแห่งการเล่นโลดโผนท้ามัจจุราชครั้งสุดท้ายของชีวิต เขาแสดงให้เห็นความรอบคอบในรายละเอียดต่างๆ ตลอดจนความมั่นใจต่อสิ่งที่ทำอยู่ พร้อมนี้ เขาประกาศให้เพื่อนได้มั่นใจไปกับเขาว่า “สาม สอง หนึ่ง เดี๋ยวเจอกันนะ” ก่อนจะกระโจนเข้าสู่เวิ้งฟ้ายามราตรีหัวค่ำ

และแล้ว นาธี โอดินสัน ก็ถูกแรงดึงดูดของโลกส่งเขาไปสู่สถานการณ์ควงสว่านหมุนติ้วสู่เบื้องล่างอันน่าสะพรึงขั้นสุด โดยมีร่มชูชีพเล็กตัวนำร่อง สะบัดกระพือไปตลอดทางที่แหวกอากาศเข้าไปผนวกกับพสุธา เดลิเมลออนไลน์รายงาน

สำหรับผู้ที่ได้ดูคลิปสุดท้ายและท้ายสุดเวอร์ชันเต็มของ นาธี โอดินสัน จะได้ยินเสียงตอนที่ร่างกายแข็งแกร่งของเขากระแทกเข้ากับต้นไม้ ก่อนจะร่วงสู่แผ่นดินเสียงดังตูมเบ้อเร้อ สยองขวัญเกินพรรณนา โดยน่าจะเป็นได้ว่าในระหว่างทางที่ควงสว่านหมุนติ้วลงไปแบบที่ยากจะควบคุมสถานการณ์ได้นั้น เจ้าตัวผู้เป็นนักแหวกว่ายเวิ้งฟ้า ยังมีสติและเล็งให้ร่างของตนไปชนกับต้นไม้ก่อน เผื่อว่าจะเหลือโอกาสให้รอดเงื้อมมือท่านมัจจุราช

กระนั้นก็ตาม หน่วยกู้ภัยประกาศว่าเขาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เดลิเมลออนไลน์ระบุอย่างนั้น

ตำรวจท่องเที่ยวแห่งเมืองพัทยาได้รับแจ้งเรื่องอุบัติเหตุเมื่อเวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย และรีบรุดไปยังอาคารคอนโดมีเนียมแสนสวยของตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยได้พบร่างของ นาธี โอดินสัน ผนวกอยู่กับพื้นถนนที่วนรอบตัวอาคาร

ร่มชูชีพกลมที่เป็นร่มตัวหลักสีฟ้าซึ่งน่าจะถูกจอมท้ามฤตยูดึงออกมาในระหว่างเส้นทางแหวกเวิ้งฟ้า แต่ก็ไม่สามารถจะกางขึงขึ้นรับลมได้ นั้น แผ่กระเจิงหมดสภาพอยู่ข้างกายเขา

ด้านพนักงานรักษาความปลอดภัย คเนตร จันทร์ส่อง ซึ่งยังมีอาการสะเทือนใจกับเหตุการณ์ เล่าว่า

“ผมได้ยินเสียงต้นไม้หัก ผมคิดว่าคงเป็นกิ่งใหญ่ๆ กระแทกลงพื้น

“แล้วก็มีเสียงผู้หญิงกรีดร้องดังขึ้นมา ผมรีบเดินไปตรวจเหตุการณ์ แล้วจึงเห็นว่าเป็นคน และท่าทางว่าเสียชีวิตแล้ว พวกเค้าเคยมากระโดดจากยอดตึกแล้วน่ะครับ” เดลิเมลออนไลน์รายงานว่า รปภ.คเนตร เล่าอย่างนั้น

นาธี โอดินสัน เป็นนักกระโดดดำดิ่งเวิ้งฟ้ามืออาชีพที่มีความสุขกับการเล่นโลดโผนให้อะดรีนาลีนหลั่งในระดับเสพติด เดลิเมลออนไลน์บอก ทั้งนี้ผู้มีประสบการณ์ตรงเล่าว่าความรู้สึกขณะเหินเวหาท่ามกลางกระแสลมเย็นกระโชก เป็นความสนุกตื่นเต้นเร้าใจที่ยากจะหาได้จากกิจกรรมอื่น ยิ่งกว่านั้น เมื่อกลับมาเดินดินดั่งเดิม ร่างกายก็กระชุ่มกระชวยกระฉับเฉงเหลือเกินด้วยอานิสงส์ของอะดรีนาลีน (ขอบคุณภาพจาก Nathy Odinson)
ในคลิปสุดท้ายนี้ นาธี โอดินสัน ซึ่งปีนข้ามกำแพงของดาดฟ้าอาคาร ไปปักหลักที่แนวทางเดินชายขอบตึกขนาดความกว้างประมาณไม่ถึงครึ่งเมตร และเตรียมตัวปฏิบัติการ นั้น ได้เงยหน้าคุยกับเพื่อนด้วยภาษาไทยชัดเจน ว่ากล้องที่หมวกนิรภัยของตนขึ้นแสงสีแดงหรือไม่ เพื่อจะได้แน่ใจว่ากล้องเดินเครื่องอยู่


เสียงที่ตอบกลับไปเป็นภาษาไทยปนภาษาอังกฤษสำเนียงดี บอกว่าน่าจะยังไม่ขึ้นแสงแดงนะ นาธี จึงถอดหมวกกันน็อกออกมาตรวจสอบ และทำการเปิดระบบบันทึก ก่อนจะสวมกลับไปดั่งเดิม พร้อมกับเช็กสภาพการณ์ของร่มชูชีพตัวเล็กที่อยู่ในมือ

จากนั้น นาธี แสดงอาการว่าทุกอย่างเรียบร้อย และขยับเท้าหาจุดเหมาะๆ เสียงสหายชาวอังกฤษด้วยกันอวยพรแกมเชียร์ให้ได้ยินว่า โชคดีนะเพื่อน นาธี นับถอยหลัง สาม สอง หนึ่ง เดี๋ยวเจอกันนะ แล้วโดยไม่ลังเล เขากระโจนออกไปดำดิ่งนภาอากาศที่มืดหม่นไร้แสงตะวัน

แล้วคลิปก็ถูกตัดไปเป็นภาพสถานการณ์รถฉุกเฉินและคณะตำรวจทำการตรวจสอบจุดโศกนาฏกรรม โดยมีการนำผ้าขาวไปคลุมร่างกายและพื้นถนนนองโชกด้วยโลหิตแดงฉานของ นาธี โอดินสัน ผู้เป็นนักดำดิ่งเวิ้งฟ้า BASE Jumper รายที่มากกว่า 471 รายซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติการ ตามสถิติของเว็บไซต์ bfl.baseaddict.com/list ณ เดือนมกราคม 2024 นับจากเมื่อเมษายน 1981

แต่สำหรับคลิปเต็ม จะมีรายละเอียดครบถ้วน อันได้แก่

ในไม่กี่วินาทีหลังจากที่ นาธี โอดินสัน ออกสตาร์ทแล้วนั้น เสียงของเพื่อนชาวไทยดังขึ้นเป็นเสียงอุทานตกใจว่า “โอ ฟ..ก” โดยตอนนั้นเป็นเสี้ยววินาทีที่เขาได้ยิน นาธี โอดินสัน กระแทกร่างเข้าใส่พื้นแผ่นดิน เดลิเมลออนไลน์รายงาน

ภาพตั้งต้นของคลิปประกอบข่าวอุบัติเหตุกรณี BASE Jumper นาธี โอดินสัน หนุ่มเมืองฮันติงดอน จังหวัดเคมบริดจ์เชอร์ ที่เดลิเมลออนไลน์ จอมขยี้ข่าวระดับเจ้าพ่อสุดฮอตแห่งแดนผู้ดี นำไปรายงานบนเว็บไซต์ข่าวว่า ‘สยดสยอง นักกระโดดอากาศดำดิ่งปฐพี ตกลงไปโหม่งพสุธาถึงแก่ความตาย จากยอดอาคารสูงในประเทศไทย หลังจากร่มชูชีพไม่สามารถกางออกร่อนลมได้’ โดยสองภาพซ้ายขวาที่เดลิเมลออนไลน์ระบุว่าเป็นไม่กี่นาทีสุดท้ายของชีวิต ก่อนที่เขาจะกระโดดไปสู่ความตายนั้น สำหรับภาพขวา นาธี ชี้ไปที่กล้องโกโปรและถามเพื่อนเป็นภาษาไทยชัดเจนว่า กล้องที่หมวกนิรภัยของตนขึ้นแสงสีแดงหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่ากล้องเดินเครื่องอยู่ ส่วนภาพซ้าย คือ จังหวะกระโดดออกจากขอบอาคาร โดยในมือซ้าย ถือร่มนำร่อง ซึ่งเขาได้เช็กแล้วว่าสภาพแล้วว่าเรียบร้อยน่าพอใจ ทั้งนี้ การนำร่มนำร่องออกมาถือเตรียมไว้เลย เป็นเทคนิคที่จะขว้างร่มเล็กออกรับลมโดยไว เพื่อให้ร่มหลักมีเวลามากขึ้นในการกางตัวและร่อนลม แต่น่าเสียใจที่กลายเป็นว่าร่มเล็กไปติดกับสายรัดกระเป๋าร่มไว้กับร่างกาย ร่มตัวหลักก็จึงไม่สามารถร่อนลมและช่วยพยุงให้ นาธี ค่อยๆ ลงสู่พื้นโลกอย่างปลอดภัย

ทีมนิติบุคคลของคอนโดมีเนียมแจ้งขอความช่วยเหลือจากตำรวจและหน่วยกู้ภัยในพัทยาโดยทันทีที่ นาธี โอดินสัน ตกกระแทกพื้น คือเวลา 19.30 น. โดยตำรวจและหน่วยกู้ภัยใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการไปถึง และพบว่าอาการของ นาธี สาหัสมาก หน่วยกู้ภัยจึงไม่สามารถยื้อชีวิตของจอมเหินฟ้าท้ามฤตยูได้สำเร็จ ตำรวจบอกว่าผลการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย พร้อมกันนี้ก็ได้วิเคราะห์สถานการณ์ว่าร่มชูชีพที่ นาธี ใช้ในการกระโดดดิ่งเวหานั้น ไม่ทำงานและไม่อยู่ในสมดุลอย่างที่ควรเป็น ทั้งนี้ ร่างไร้วิญญาณของ นาธี ถูกคลุมด้วยผ้าสีขาว และข้างๆ กันคือร่มชูชีพแบบกลมสีฟ้าที่เป็นร่มตัวหลักซึ่งไม่สามารถจะกางตัวขึงขึ้นรับลมได้นั้น แผ่กระเจิงราบไปกับพื้นหมดสภาพอย่างน่าสลดใจ (ขอบคุณภาพจาก Pattaya Rescue)
เบื้องหลังการสร้างคอนเทนต์: เล่นกับความเสี่ยงตั้งแต่ก้าวแรก คือ รอให้ปลอดคน แล้วลักลอบขึ้นตึก

เจ้าหน้าที่คอนโดมีเนียมทำการตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิด และได้เห็นว่า นาธี โอดินสัน กับเพื่อนหนึ่งคนมาจอดรถด้านนอก แล้วรีรอสักพักหนึ่ง เมื่อปลอดคนก็แอบเข้าไปด้านในอาคาร เดลิเมลเล่าไว้อย่างนั้น

หลังจากนั้นจึงมุ่งหน้าสู่ดาดฟ้าคอนโดมีเนียม แล้ว นาธี โอดินสัน ทำการตะกายข้ามกำแพงคอนกรีตของดาดฟ้า ไปปักหลักที่ทางเดินแคบๆ รอบอาคาร ซึ่งกว้างไม่ถึงครึ่งเมตร

รปภ.คเนตร บอกว่าผู้ตายรายนี้เคยมากระโดดจากอาคารคอนโดมีเนียมหลายครั้งทีเดียว ซึ่งก็ได้ตักเตือนห้ามปราบแล้ว เพราะเกรงจะเกิดอันตรายต่อคนเดินถนนด้านล่าง

“พวกเค้ามาทำคอนเทนต์วิดีโอไปขึ้นโซเชียลมีเดียน่ะครับ พวกเค้าทราบดีว่าเราไม่อนุญาตให้ทำอย่างนั้น” เดลิเมลออนไลน์รายงานว่า รปภ.คเนตร กล่าวอย่างนั้น

ตำรวจและหน่วยแพทย์ฉุกเฉินมาถึงจุดเกิดเหตุหลังเวลา 19.30 น. เพียงนิดเดียว แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตของจอมเหินฟ้าท้ามฤตยูได้สำเร็จ

ร.ต.อ. หญิง กมลพร นาดี รอง สว.สอบสวน สภ.บางละมุง กล่าวว่าตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย

“ร่มชูชีพที่ผู้เสียชีวิตใช้กระโดด ไม่ทำงาน และไม่อยู่ในสมดุลอย่างที่ควรเป็น ตอนที่พวกเรามาถึง อาการของเขาคือสาหัสมากแล้วค่ะ

“ตำรวจได้เชิญเพื่อนของผู้ตายที่เป็นคนบันทึกวิดีโอตอนที่มีการกระโดดลงมา ไปสอบสวน และนำวิดีโอไปตรวจสอบเป็นหลักฐาน

“เจ้าหน้าที่นิติเวชจะตรวจสอบละเอียดต่อไป และจะมีการเช็คดูร่มชูชีพด้วย”

หนุ่มสุดยอดนักท้าทายความตาย ได้จากโลกของเราไปอีกหนึ่งราย โดยไม่มีลางบอกเหตุใดๆ ราวกับว่าเขาต้องเดินทางกลับสู่ดวงดาวแห่งผู้กล้าอย่างปุบปับก็ไม่ปาน

ภาพเหินเวหาบานสุดท้ายที่ เนธี โอดินสัน นักท้ามฤตยูชาวอังกฤษ โพสต์ขึ้นโซเชียลมีเดีย เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2024  เขาอยู่ในท่าแอ่นโค้งแองเกิล ระเบียบร่างกายเป๊ะปัง บินฉิวล้อลมไปอย่างอิสระสุดแสนจะโฉบเฉี่ยว (ขอบคุณภาพจาก Nathy’s Sky Photography)
ทั้งนี้ บนอินสตาแกรม ณ วันเสาร์สุดท้ายของพ่อหนุ่มผู้อิ่มเอมกับอะดรินาลีน เขาเพิ่งโพสต์ภาพตนเองหฤหรรษ์อยู่กับการร่อนเวหาในท่าแอ่นโค้งแองเกิล พุ่งกายขึ้นหน้าไปกับแรงลม พร้อมกับที่สองแขนชี้ขึงตรงไปด้านหลัง ขณะหวือๆๆ ฝ่ามวลอากาศภายใต้การนำพาของร่มชูชีพหลายเฉดเขียว สีเข้าชุดกับหมวกกันน็อกสีมรกต บินล้อลมไปอย่างอิสระสุดแสนจะโฉบเฉี่ยว

ภายใต้ภาพเท่ๆ เปี่ยมพลัง นาธี โอดินสันใส่แฮชแทกไว้เยอะเลย อาทิ “กีฬาสุดโต่ง” “เสพติดอะดรินาลีน” “เหินเวหา” “ไชนีสติ๊กต๊อก” และ “ไทยสกายแอดเวนเจอร์ส”ซึ่งเป็นชื่อบริษัทของเขาที่ให้บริการความตื่นเต้นท้ามัจจุราช

ภาพเดียวกันนี้ปรากฏบนเฟซบุ๊กเมื่อเสาร์ 28 มกราคมเช่นกันนั้น มีคำไว้อาลัยจากบรรดาฟอลโลเวอร์ของเขาหลั่งไหลเข้าไปท่วมท้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำไว้อาลัยจากเพื่อนหนุ่มคนคอร์นวอลล์ นาม จอร์แดน คอลวิลล์ ช่างภาพคู่บารมีของ นาธี บอกว่า

“รักคุณตลอดกาลเพื่อนเอ๋ย - จะคิดถึงคุณมากโคตรๆ - ไม่อยากจะเชื่อเลย”

นาธี โอดินสัน เป็นนักท้ามฤตยู และทำการเหินเวหา (ซึ่งตั้งต้นจากอากาศยานซึ่งอยู่ระหว่างการบินในระดับสูง) ตลอดจนการกระโดดอากาศดำดิ่งเวิ้งฟ้า BASE Jump เป็นประจำในจุดต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งก็มีทั้งแบบที่กระโดดจากอาคาร (Building) กระโดดจากหอคอยเสาอากาศ (Antenna) กระโดดจากสะพาน (Span/bridge) และแบบกระโดดจากสถานที่สูงๆ ของโลก (Earth) อาทิ หน้าผา

นอกจากนั้น นาธี โอดินสัน ดำเนินกิจการถ่ายภาพกลางอากาศ Nathy’s Sky Photography และพาลูกค้าไปรับประสบการณ์เหินเวหาแบบตัวต่อตัว ซึ่งมีภาพน่าสนุกน่าทึ่งให้ชมกันที่ https://thaiskyadventures.com/?gclid=CjwKCAiAtt2tBhBDEiwALZuhAGXBNm1nsTQFebrE38oguar7DvPkHVAX7RqyaWCgQduHj2xuCqsQgxoCp-IQAvD_BwE

โดยกิจกรรมบริการแสนประทับใจนี้ยังดำเนินการอยู่ แม้บุคคลสำคัญของบริษัท คือ นาธี โอดินสัน เดินทางออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือกไปแล้ว

ในส่วนของประเทศไทยนั้น มีนัก BASE Jump ที่เสียชีวิต 1 ราย ขณะกระโดดลงมาในประเภท Earth กล่าวคือจากหน้าผาเขาจีนแล จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2021 ได้แก่ เรืออากาศตรีณฐพันธุ์ จันทร์คีรี วัย 52 ปี ซึ่งเป็นรายที่ 407 ของเว็บไซต์ https://bfl.baseaddict.com/list เรื่องราวที่เกิดขึ้นถูกบันทึกในปูมประวัติบุคคลของเว็บไซต์ด้วย ว่าเป็นผลจากการที่ลมเปลี่ยนทิศปุบปับและรุนแรงในขณะที่ร่มชูชีพกางเต็มที่แล้ว แล้วพัดพาไปปะทะกับหน้าผา โดยติดค้างกับกิ่งก้านของต้นไม้ซึ่งสูงจากพื้น 40 เมตร ขณะที่มีการประสานขอความช่วยเหลือ กิ่งก้านต้นไม้รับน้ำหนักได้นานเพียง 10 นาที ก็หัก นำไปสู่โศกนาฏกรรมที่น่าสะเทือนใจอย่างที่สุด

นาธี โอดินสัน ดำเนินกิจการถ่ายภาพกลางอากาศ Sky Photography กับธุรกิจการให้บริการพาลูกค้าไปรับประสบการณ์เหินเวหาแบบตัวต่อตัว ลูกค้าประทับใจมากมายเพียงใดต้องชมที่แกลเลอรีของ Nathy’s Sky Photography (ขอบคุณภาพจาก Nathy’s Sky Photography)
คอลัมน์ PLANET No.3


โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา: เดอะซัน เดลิเมลออนไลน์)
กำลังโหลดความคิดเห็น