ชมคลิป: สื่อตะวันตกชี้ “พม่า” แห่จองเที่ยวบินหนีตายออกจาก "รัฐยะไข่" ไฟลท์เต็มยาวจนถึงสิ้นมีนาฯ อาเซียนรับรอง “ข้อเสนอไทย” สร้างเซฟโซนพรมแดนตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือมนุษยธรรมรับผู้ลี้ภัย

เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – การประชุมอาเซียนในวันจันทร์(29 ม.ค)ประกาศรับรองข้อเสนอไทยให้มีการจัดตั้งเขตเซฟโซนบริเวณพรมแดนไทย-พม่าเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ผู้ลี้ภัย หลังการสู้รบในรัฐยะไข่เดือดประชาชนหลายพันแห่หนีออกจากเมืองเอกของรัฐบินไปยังเมืองย่างกุ้งร่วม 4 – 5 เที่ยวต่อวัน พบเที่ยวบินเต็มยาวถึงสิ้นเดือนมีนาคม บางส่วนตัดสินใจใช้เครื่องเช่าเหมาลำหนีออกไปแทน ขณะที่มีทหารรัฐบาลพม่าแห่หนีแปรพักตรมาหลบภัยในฝั่งไทยพุ่ง พบหนึ่งในนั้นเป็นอดีตทหารหน่วยแม่นปืนไรเฟิลวัย 30 ปีหนีแปรพักตรเข้ามาตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว


สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานวันนี้(30 ม.ค)ว่า การประชุมอาเซียนระดับรัฐมนตรีต่างประเทศปิดฉากการประชุมในวันจันทร์(29)ที่เมืองหลวงพระบางของลาว ภายในที่ประชุมมีการรับรองข้อเสนอจากรัฐบาลไทยในการตั้งเขตปลอดภัยที่บริเวณพรมแดนของ 2 ชาติเพื่อให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ผู้ลี้ภัยพม่าที่หนีภัยการสู้รบในสงครามกลางเมืองภายในประเทศ

ทั้งนี้รัฐมนตรีต่างประเทศลาว สะเหลิมไซ กมมะสิด( Saleumxay Kommasith) ซึ่งเป็นประธานการประชุม 2 วันที่เริ่มมาตั้งแต่วันเสาร์(27) ได้เปิดเผยว่า ไทยเสนอแผนการสร้างเส้นทางเพื่อมนุษยธรรมเพื่อการให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ต่อผู้พลัดถิ่นภายในเมียนมาและผู้ที่หนีเข้าไทย

สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า ถือเป็นครั้งแรกที่มีตัวแทนจากกองทัพเมียนมาเข้าร่วมการประชุมด้วย กมมะสิดกล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศสมาชิกอาเซียนแสดงความยินดีต่อการปรากฎตัวการเข้าร่วมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเมียนมาครั้งนี้

รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร ได้เปิดเผยต่อนักข่าวว่า การให้ความช่วยเหลือจากไทยจะเริ่มขึ้นในช่วงปลายกุมภาพันธ์หลังจากที่รัฐบาลทหารพม่าและรัฐบาลไทยได้ตกลงพื้นที่สำหรับเป็นเขตเซฟโซนการบรรเทาทุกข์แล้ว

ซึ่งข้อเสนอสร้างโซนปลอดภัยสำหรับการให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์สำหรับประชาชนเมียนมาที่หนีภัยสงครามนี้รวมอยู่ในการหารือระหว่างตัวแทนจากฝ่ายไทยและที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐฯ เจค ซัลลิแวน ในวันศุกร์(26) อ้างอิงจากแถลงการณ์ของสถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงเทพฯ

ในแถลงการณ์ระบุว่า

“ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงฯ ยังกล่าวถึงประเด็นระดับภูมิภาคและระดับโลก เช่น ความพยายามในการแก้ไขวิกฤตการณ์ที่เลวร้ายลงในประเทศพม่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนพม่า และยินดีที่มีการดำเนินการเพื่อยกระดับการดำเนินงานที่สำคัญตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน”

ซึ่งรายละเอียดการจัดตั้งเซฟโซนนี้ สื่อไทยภาคภาษาอังกฤษรายงานว่า ศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในการบริหารวิกฤต AHA (ASEAN Coordinating Centre for Humanitarian Assistance on Disaster Management) จะมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้สังเกตการณ์ ส่วนสภากาชาดไทยและองค์กรกาชาดเมียนมาจะจับมือร่วมกันในการทำหน้าที่บรรเทาทุกข์

สถานการณ์การรบในพม่ายังส่งผลกระทบต่อไทยเพราะ NHK ของญี่ปุ่นรายงานวันพุธ(24)ทางยูทูบว่า พบมีกองกำลัทหารรัฐบาลพม่าในอัตราสูงมากขึ้นหนีแปรพักตรเข้ามาหลบที่ไทยประเทศเพื่อนบ้าน โดยอาศัยอยู่ที่เมืองติดพรมแดนระหว่าง 2 ชาติภายในศูนย์ให้ความช่วยเหลือทหารพม่าแปรพักตร 

ตามการรายงาน หนึ่งในอดีตทหารพม่าที่หันมาแปรพักตรและหนีหลบภัยเป็นอดีตหน่วยแม่นปืนไรเฟิลของกองทัพพม่าวัย 30 ปีที่หนีแปรพักตรเมื่อต.ค ปีที่แล้วกล่าวว่า เป็นเพราะการสู้รบยื้ดเยื้อทำให้ทหารพม่าแนวหน้าเหนื่อยอ่อนและขวัญกำลังใจตกต่ำ เขากล่าวว่ามีทหารในหน่วยจำนวน 100 นายแต่เสียชีวิตไปถึง 90 นายปีที่แล้วทำให้ทุกกคนที่เหลือขาดขวัญกำลังใจในการสู้รบและต้องการกลับบ้าน

ที่ประชุมอาเซียนรับรองข้อเสนอตั้งเขตเซฟโซนล่าสุดนี้เกิดขึ้นในขณะเดียวกันกับที่เรดิโอฟรีเอเชีย RFA ของสหรัฐฯรายงานวันศุกร์(26)ว่า ประชาชนเมียนมาหลายพันคนกำลังพยายามหนีออกจากรัฐยะไข่จากการสู้รบระหว่างกองทัพอาระกัน(Arakan Army)และกองกำลังทหารรัฐบาลพม่า พยานชาวบ้านหลายปากให้ข้อมูลกับ RFA

กองกำลังทหารพม่าได้ปิดกั้นเส้นทางถนนไฮเวย์และเส้นทางน้ำทั่วทั้งรัฐยะไข่มาตั้งแต่พฤศจิกายนปีที่แล้ว ทำให้ประชาชนที่อยู่ด้านในประสบปัญหายากลำบากในการหลบหนีออกไป

“ในเมืองซิตตเว คุณไม่สามารถใช้ทั้งถนนหรือเส้นทางน้ำได้” หนึ่งในประชาชนในเมืองเอกของรัฐเปิดเผยกับ RFA พร้อมกล่าวต่อว่า “ดังนั้นมีบางส่วนหนีไปเมืองร่างกุ้ง และคนเหล่านี้เดินทางไปที่นั่นทางอากาศ”

สื่อสหรัฐฯรายงานว่า มีเที่ยวบินราว 4 เที่ยวต่อวันโดยมีผู้โดยสารราว 50 คนในแต่ละเที่ยวในการออกไป อ้างอิงจากประชาชนในพื้นที่คนหนึ่งที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อเพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้พบว่าชาวบ้านไม่กี่คนได้เปิดเผยว่า ตั๋วเครื่องบินจากซิตตเวไปยังร่างกุ้งถูกจองจนเต็มไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม และมีบางส่วนหันไปใช้บริการเครื่องเช่าเหมาลำเพื่อหนีออกจากรัฐยะไข่แทน

RFA รายงานว่า มีชาวบ้านบางส่วนยังประเมินว่า การสู้รบภายในรัฐทำให้มีประชากรร่วม 30% ของทั้งหมดได้อพยพออกไปก่อนหน้าแล้ว

ซึ่งสำหรับคนที่ตัดสินใจจะอยู่ในรัฐต่อไปได้ขุดบังเกอร์หลบภัยที่บ้าน วางถุงทรายไว้ที่บริเวณใกล้เคียงและเสาะแสวงหาที่ปลอดภัยให้กับตัวเองหรือหลบไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกลในบรืเวณใกล้เคียง

ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไปยังเมืองร่างกุ้งตกราว 350,000 เงินจัตพม่า - 500,000 เงินจัตพม่า หรือราว (166 ดอลลาร์ – 238 ดอลลาร์) หนึ่งในชาวซิตตเวเปิดเผย

“คนจนและประชาชนที่ไม่สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินได้ไม่สามารถหนีไปที่ไหน” แหล่งข่าวในพื้นที่กล่าว และเปิดเผยต่อว่า “พวกเขาไม่สามารถที่จะแบกภาระค่าใช้จ่ายเพื่ออาศัยที่เมืองร่างกุ้ง ดังนั้นจึงมีคนเป็นจำนวนมากต้องอาศัยอยู่ที่นี่”

ประชาชนชาวพม่ากล่าวว่า พวกเขาต้องรอราว 1 – 2 วันเพื่อที่จะสามารถถอนเงินสดออกจากธนาคารในเมืองซิตตเว และมีความยากลำบากในการซื้อสิ่งของขั้นพื้นฐานเพื่อการยังชีพเช่น อาหาร และน้ำมันจากที่ราคาถีบตัวสูงขึ้น

RFA ของสหรัฐฯยังรายงานต่อว่า โทรศัพท์บ้านและสัญญาณอินเตอร์เนตถูกปิดในหลายเมืองรวม เมืองซิตตเว ภายในรัฐยะไข่