เอเจนซีส์ - พระราชินีคามิลลาบ่ายวานนี้ (27 ม.ค.) เสด็จพระราชดำเนินเข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ที่โรงพยาบาลลอนดอนคลินิกกลางกรุงลอนดอน หลังทรงรับการถวายผ่าตัดโรคต่อมลูกหมากโต พบหลังผ่าตัดทรงมีพระหทัยดีและทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีการตั้งคณะปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ แต่สื่อแท็บลอยด์อังกฤษตีข่าว เจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มาร์เคิล อาจริษยาหากพระราชบิดาทรงเกิดปัญหาจนต้องสละราชสมบัติและตั้งเจ้าชายวิลเลียมขึ้นเป็นคิงองค์ใหม่แทน
หนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวานนี้ (27 ม.ค.) ว่า พระราชินีคามิลลาทรงเสด็จพระราชดำเนินมาเข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ในบ่ายวันเสาร์ (27) ที่โรงพยาบาลลอนดอนคลินิก (London Clinic ) ย่านใจกลางกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเดียวกันกับที่เจ้าหญิงแคทเธอรีน แห่งเวลส์ทรงยังคงประทับพักฟื้นหลังการผ่าตัดพระนาภี
อ้างอิงจากบีบีซี สื่ออังกฤษ สำนักพระราชวังเคนซิงตันออกแถลงการณ์ว่า การถวายผ่าตัดแด่เจ้าหญิงแห่งเวลส์ที่เกิดขึ้นสัปดาห์ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ ซึ่งก่อนการผ่าตัดพระองค์เสด็จเยี่ยมเจ้าหญิงเคทที่ประทับเพื่อพักฟื้นที่โรงพยาบาลแห่งนี้
วันพฤหัสบดี (25) พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเสด็จพระราชดำเนินจากพระตำหนักซานดริงแฮมไปกรุงลอนดอนเพื่อเข้ารับการถวายการผ่าตัดรักษาโรคต่อมลูกหมากโต
ดิอินดีเพนเดนท์รายงานว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาทรงเสด็จพระราชดำเนินมาที่โรงพยาบาลลอนดอนคลินิกในเช้าวันศุกร์ (26) ก่อนหน้าคณะแพทย์จะถวายการผ่าตัด
พระราชินีคามิลลาทรงตรัสเปิดเผยแก่ประชาชนที่อยู่ด้านในโรงพยาบาลว่า พระเจ้าชาร์ลส์ทรงมีพระหทัยที่ดีและทรงแข็งแรงปลอดภัยดีหลังการผ่าตัดเสร็จสิ้น
ตามการรายงานกล่าวว่า วันเสาร์ (27) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการเสด็จไปโรงพยาบาล พระราชินีคามิลลาเสด็จเข้าเฝ้าที่โรงพยาบาลลอนดอนคลินิกด้วยรถยนต์พระที่นั่งออดี้สีดำสนิท โดยทรงชุดฉลองพระองค์สีขาวและมีเสื้อกันหนาวไหมพรมถักทับอยู่ด้านบน ดิอินดีเพนเดนท์รายงานว่า เป็นที่เข้าใจว่าพระองค์เสด็จกลับออกไปหลังจากประทับเข้าเฝ้าพระราชสวามีนาน 3 ชั่วโมง
มีรายงานภาพพระราชินีแย้มพระสรวลด้วยความสุขระหว่างการเสด็จกลับ
ด้านโฆษกถนนดาวนิงกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ริชี ซูแน็ก ได้ถวายพระพรแด่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ขอให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์โดยไวหลังจากคณะแพทย์เข้าถวายการรักษา
บีบีซีรายงานว่า การผ่าตัดไม่ยุ่งยากซับซ้อนน่าเป็นกังวลจนถึงขั้นที่ต้องมีการแต่งตั้งคณะผู้แทนเพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์
แต่อย่างไรก็ตาม มีสื่อแท็บลอยด์แดนผู้ดีบางสำนักประโคมข่าวโยงการประทับโรงพยาบาลของพระองค์หลังจากที่เพิ่งครองราชย์ต่อจากพระราชชนนี สมเด็จพระราชินีนาถเอลีซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรที่ทรงสวรรคตเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ปี 2022 และโยงเข้าความระหองระแหงภายในราชสำนักที่มีต้นเรื่องมาจากดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ที่ประทับอยู่ในสหรัฐฯ
สื่อดิเอ็กซ์เพรสของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (27) ว่า จากการที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ที่มีพระชนมายุสูงถึง 75 พรรษา และทรงต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรับการถวายการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดทำให้มีเสียงออกมาเรียกร้องให้พระองค์ทรงสละพระราชสมบัติเปิดทางให้มกุฎราชกุมารแห่งสหราชอาณารจักร เจ้าชายวิลเลียม แห่งเวลส์ ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่แทน
คล้ายกับในช่วงเวลาที่อดีตสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์กที่ทรงถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเดนมาร์กทรงสละพระราชสมบัติให้พระราชโอรสเจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์กเสด็จขึ้นครองบัลลังก์ต่อ สร้างแรงกระเพื่อมและกลายเป็นแรงกดดันต่อราชวงศ์อังกฤษ นิวส์วีกจากสหรัฐฯ จั่วหัวรายงานเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ว่า กระแสนี้จะส่งผลให้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 สละพระราชสมบัติแก่พระราชโอรส เจ้าชายวิลเลียมหรือไม่
ดิเอ็กซ์เพรสรายงานว่า ในรายการโทรทัศน์ของสถานี GB ชื่อดังมีการตั้งคำถามและมีหนึ่งในแขกรับเชิญออกมาแสดงความเห็นท่ามกลางความตกตะลึงแก่แขกคนอื่นๆ ว่า เขาเห็นว่าควรที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะสละพระราชสมบัติให้แก่เจ้าชายวิลเลียม
ปีเตอร์ ลอยด์ (Peter Lloyd) กล่าวอ้างในรายการว่า เขาพูดเช่นนี้เป็นเพราะเพื่อต้องการที่จะได้เห็นปฏิกิริยาที่ออกมาจากเจ้าชายแฮร์รี และเมแกน มาร์เคิล
และลอยด์ยังกล่าวเป็นนัยโดยชี้ไปที่พระพลานามัยของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ชี้ว่า สมควรที่จะให้เจ้าชายวิลเลียมขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์ต่อไปแทน
ลอยด์ซึ่งเป็นทั้งนักข่าวและนักเขียนชื่อดังในอังกฤษยืนยันว่า ข่าวที่เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคทจะทรงเป็นพระราชาและพระราชินีพระองค์ใหม่จะทำให้ทั้งดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ทรงริษยา