เอพี/เอเจนซีส์ – อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ วานนี้(23 ม.ค) สามารถเอาชนะคู่แข่งอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ นิกกี เฮลีย์ ไปได้ 54.6% ต่อ 43.2% เก็บแต้มคณะตัวแทนเลือกตั้งต่อเป็นรัฐที่ 2 ทำทั่วโลกจับตาไม่กระพริบศึกเลือกตั้งปลายปีนี้ ผู้นำสหรัฐฯพรรคเดโมแครตออกปากเอง เชื่อทรัมป์จะเป็นคู่แข่งชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้านแคนาดาประกาศ เตรียมพร้อมรับกับรัฐบาลทรัมป์ 2 หากเกิดโผผลิกชนะเลือกตั้ง หลังประธานาธิบดี โจ ไบเดน ย่ำแย่ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ รัสเซียบุกยูเครน สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ปัญหาจีนและไต้หวัน และผู้อพยพหนีเข้าเมืองกว่าล้านคนไหลทะลักข้ามพรมแดนเข้าอเมริกา
เอพีรายงานวันนี้(24 ม.ค)ว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปีนี้เดิมพันสูงลิ่วและระอุหนักท่ามกลางปัญหาวิกฤตทั่วโลกทั้งสงครามและวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำรวมไปถึงปัญหาภายในสหรัฐฯเองที่เห็นอาชญากรรมความรุนแรงภายในประเทศพุ่งทั้งโจรปล้นชิงและการกราดยิงรายวัน ปัญหายาเสพติดเฟนทานิลระบาด ปัญหาคนตกงานหลังภาคไฮเทคประกาศเลย์ออฟและรวมไปถึงปัญหาวิกฤตพรมแดนใต้ของสหรัฐฯที่มีรายงานว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งมีคนเข้าเมืองผิดกฎหมายหนีเข้ามาผ่านเม็กซิโกมากกว่า 1 ล้านคน
การเลือกตั้งรอบแรกรัฐนิวป์แฮมเชียร์รอบไพรมารีในวันอังคาร(23)จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ นิกกี เฮลีย์ (Nikki Haley) และชัยชนะ 2 ครั้งติดต่อกันของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยทรัมป์ชนะไปด้วย 163,396 คะแนนหรือคิดเป็น54.6% ขณะที่เฮลีย์ได้ไป 129,104 คะแนน หรือ 43.1%
ซึ่งในรายการโทรทัศน์สถานี MSNBC ของสหรัฐฯ ได้รายงานว่า เฮลีย์ประกาศว่า “การเสนอชื่อทรัมป์เป็นตัวแทนเท่ากับเป็นชัยชนะของไบเดน” ซึ่งอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็นที่มีเชื้อสายอินเดียยืนกรานว่า เธอจะไม่ยอมถอดใจและจะยังคงต่อสู้กับทรัมป์ต่อไปเพราะยังมีอีกหลายรัฐให้ทั้งเธอและทรัมป์ต้องเก็บคะแนนคณะเลือกตั้งสหรัฐฯต่อ
ด้านประธานาธิบดีไบเดนที่คาดกันว่าเขาจะเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชี้ว่า ผลการเลือกตั้งรัฐนิวแฮมป์เชียร์ชี้ชัดว่า ทรัมป์จะเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันเพื่อลงชิงแข่งกับเขาในปลายปีนี้
ไบเดนยังกล่าวต่อว่า “สารของผมต่อประเทศคือ เดิมพันไม่สามารถสูงไปกว่านี้” และกล่าวต่อว่า “ประชาธิปไตยของ
พวกเรา เสรีภาพส่วนบุคคล มาจากสิทธิที่จะเลือกสู่สิทธิที่จะโหวต เศรษฐกิจของพวกเรา ที่เห็นว่ามีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่โควิด-19 ทุกสิ่งนั้นคือเดิมพัน”
เอพีรายงานว่า ในปาร์ตี้ฉลองชัยชนะของทรัมป์ที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์คืนวันอังคาร(24)นั้นมีภาพส.ส หญิงสายเหยี่ยวชื่อดัง มาร์จอรี เทเลอร์ กรีน (Marjorie Taylor Greene) กำลังคุยกับผู้สมัครลงชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯพรรครีพับลิกันที่เพิ่งถอนตัวไป นักธุรกิจเชื้อสายอินเดีย วิเวค รามาสวามีย์ (Vivek Ramaswamy) และยังมีอดีตส.ส พรรครีพับลิกันที่โดนขับออกเนื่องจากปัญหาฉ้อโกงอื้อฉาว จอร์จ แซนโตส(George Santos)
เอพีวิเคราะห์ว่า เป็นที่น่าเสียดายสำหรับเฮลีย์เพราะรัฐนิวแฮมป์เชียร์ถือเป็นรัฐที่สามารถทำให้ทรัมป์พ่ายแพ้ได้ เป็นเพราะรัฐนี้มีค่านิยมทางสายกลาง การเข้าร่วมของกลุ่มสายอิสระ และแม้กระทั่งผู้ว่าการรัฐที่โด่งดังที่นั้นทำงานอย่างหนักเพื่อขวางทรัมป์ แต่กลับกลายว่าทีมหาเสียงของทรัมป์สามารถทำลายขวากหนามทั้งหมด และทำให้เขากลายเป็นผู้สมัครคนแรกที่สามารถเอาชนะ 2 รัฐแรกในการเลือกตั้งรอบแรกได้เหมือนเช่นทรัมป์
การเลือกตั้งสหรัฐฯเป็นที่จับตาไปทั่วโลก โดยที่รัฐไอโอวามีนักการเมืองอังกฤษ ไนเจล ฟาราจ (Nigel Farage) มาปรากฏการณ์ที่เวทีประกาศชัยชนะของทรัมป์ และสำหรับการเลือกตั้งรอบไพรมารีรัฐนิมแฮมป์เชียร์นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ออกมาเอ่ยปากว่า รัฐบาลแคนาดาวันอังคาร(23)ต้องเตรียมพร้อมรับรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ชุดใหม่
เอพีรายงานว่า ทรูโดยืนยันว่า ทรัมป์แสดงถึงความไม่แน่นอน “พวกเราไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่” อย่างไรก็ตามผู้นำแคนาดากล่าวว่า ทางแคนาดาสามารถจัดการรัฐบาลทรัมป์ก่อนหน้าได้โดยแสดงให้เห็นว่าทั้งสหรัฐฯ-แคนาดาจะสามารถสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกันได้ทั้ง 2 ฝั่งพรมแดน
เป็นการหารือของทรูโดและคณะรัฐมนตรีของเขาถึงความเป็นไปได้ที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์จะสามารถกลับคืนตำแหน่งในสมัยที่ 2 ปลายปี 2024 เอพีชี้ว่า ในครั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2020 พันธมิตรของสหรัฐฯรวมถึงแคนาดาต่างโล่งอกที่ไบเดนสามารถคว้าชัยได้สำเร็จ
ทรูโดกล่าวว่า “ไม่ว่ามันเป็นการโจมตีของเขา(อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์)ต่อเกษตรกรทั่วแคนาดา หรือมันเป็นการโจมตีของเขาต่อคนงานเหล็กกล้าและอลูมิเนียม หรือมันเป็นความตั้งใจของเขาในการทำลายข้อตกลงการค้าเสรีร่วมกับเม็กซิโกและแคนาดา พวกเรานั้นที่ผ่านมาสามารถยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งและทำการเจรจา NAFTA” ซึ่งผู้นำแคนาดาชี้ว่า “มันเป็นเรื่องยาก”