xs
xsm
sm
md
lg

เหตุผลเบื้องลึกที่ทำไมการถล่มโจมตีของสหรัฐฯ จะไม่สามารถหยุดยั้งพวกฮูตีก่อกวนทะเลแดงได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ซาราห์ จี ฟิลลิปส์


ชาวชนเผ่าที่ภักดีต่อกลุ่มฮูตี เดินย่ำไปบนธงของสหรัฐฯและอิสราเอลระหว่างการสวนสนามต้อนรับทหารเกณฑ์รุ่นใหม่ของฮูตี ซึ่งมาจากชาวชนเผ่า ณ เขตบานี ฮูชาอิช ในจังหวัดซานา ของเยเมน เมื่อวันจันทร์ (22 ม.ค.) ขณะที่กลุ่มฮูตี ซึ่งประกาศโจมตีเรือในทะเลแดงเพื่อหนุนช่วยกลุ่มฮามาส เผชิญหน้ากับฝ่ายตะวันตกอย่างดุเดือดเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Why US strikes won’t stop the Houthis
By SARAH G PHILLIPS
22/01/2024

กลุ่มนักรบที่อิหร่านหนุนหลังอยู่กลุ่มนี้ สามารถอยู่รอดปลอดภัยมาเป็นแรมปีจากการโจมตีทางอากาศของพันธมิตรซึ่งนำโดยซาอุดีอาระเบียและได้รับการหนุนหลังจากฝ่ายตะวันตก โดยที่ในเวลานี้พวกเขาก็กำลังยกระดับสงครามกาซาไปสู่ผลลัพธ์ใหม่ๆ ในเชิงยุทธศาสตร์

จากการที่กลุ่มนักรบ “ฮูตี” (Houthi) ในเยเมน เพิ่มทวีการโจมตีเล่นงานเรือต่างๆ ที่แล่นอยู่ในทะเลแดง –โดยโอ่อวดว่าเป็นการตอบโต้สิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “การก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ของอิสราเอลในกาซา [1] — สหรัฐฯและสหราชอาณาจักรก็ได้ตอบโต้ด้วยการเข้าโจมตีทางทหารหลายต่อหลายครั้ง [2] ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนั้นสหรัฐฯยังนำเอากลุ่มฮูตีกลับเข้าไปอยู่ในบัญชีรายชื่อองค์การก่อการร้ายระดับโลก [3] อีกคำรบหนึ่งด้วย

ความหวังของวอชิงตันและลอนดอนก็คือ การโจมตีเช่นนี้จะบีบคั้นกดดันให้พวกฮูตีซึ่งจับมือเป็นพันธมิตรอยู่กับอิหร่าน ต้องยอมถอยหลังกลับ อย่างไรก็ตาม มันจะไม่เป็นเช่นนั้นหรอก หากสงครามของอิสราเอลในกาซายังไม่หยุดยั้งลงอย่างสิ้นเชิง และแบบแผนวิธีที่ฝ่ายตะวันตกให้ความสนับสนุนอิสราเอลยังคงไม่มีการปรับเปลี่ยนอย่างชนิด 180 องศาแล้ว ก็แทบไม่มีอะไรเลยที่จะสามารถดึงรั้งพวกฮูตีให้ยินยอมเปลี่ยนแปลงเส้นทางของพวกเขาในอนาคตระยะใกล้ๆ นี้ได้

เรื่องนี้มีเหตุผลใหญ่ๆ อยู่ 3 ประการ โดยที่ไม่มีข้อไหนเลยซึ่งมีความเกี่ยวข้องอย่างสำคัญยิ่งยวดกับยุทธศาสตร์ในภูมิภาคนี้ของอิหร่าน

เหตุผลประการแรก และก็เป็นข้อที่มองเห็นกันได้อย่างชัดเจนที่สุด ก็คือว่า ขบวนการฮูตี ซึ่งมีองค์กรทางการเมืองที่รู้จักกันในชื่อว่า อันซาร์ อัลเลาะห์ (Ansar Allah) [4] นั้น แสดงให้เห็นแล้วถึงความสามารถที่จะยืนหยัดต้านทานการถูกโจมตีทางอากาศเป็นปีๆ ในสงครามที่พวกเขาทำกับกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียและหนุนหลังโดยฝ่ายตะวันตก ระหว่างปี 2015 จนถึงปี 2022

ก่อนหน้านั้นไปอีก พวกฮูตีก็ได้สู้รบในสงครามต่อต้านรัฐบาลกลางของเยเมนรวม 6 ครั้ง ระหว่างปี 2004 ถึงปี 2010 สงครามจรยุทธ์ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่เลยสำหรับพวกเขา และการก่อกวนเรือที่แล่นอยู่นอกชายฝั่งของพวกเขาก็ไม่ได้เรียกร้องต้องการอาวุธอันสลับซับซ้อนอะไร

ความพยายามที่จะเข้าปิดล้อมพวกเขา [5] ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาจำนวนมากของสงครามที่ปะทุตัวหลังๆ นี้ (โดยที่ในปัจจุบัน สงครามนี้กำลังอยู่ในระยะของการสงบศึกกัน ถึงแม้จะง่อนแง่นทำท่าล้มมิล้มแหล่ก็ตามที) มีส่วนช่วยเหลือให้ฮูตีสามารถปรับแต่งยกระดับพวกเครือข่ายลักลอบขนอาวุธ [6] จากอิหร่านของพวกเขาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยที่การผลิตอาวุธภายในประเทศ [7] ของพวกเขาเองก็อยู่ในสภาพอย่างเดียวกัน

ผลก็คือ การโจมตีทางอากาศเพียงอย่างเดียว ไม่น่าที่จะสามารถเป็นหมัดน็อกเอาต์ซึ่งทำลายศักยภาพทางทหารของพวกเขาได้ แต่กลับแทบเป็นการแน่นอนทีเดียวว่าจะทำให้พวกเขาเกิดความกระหายที่จะสู้รบมากยิ่งขึ้น

ภาพที่สำนักข่าวเอเอฟพีถ่ายไว้ ระหว่างร่วมคณะทัวร์ซึ่งจัดโดยพวกกบฎฮูตีของเยเมนเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2023 แสดงให้เห็นเรือสินค้า “แกแลคซี ลีดเดอร์” (Galaxy Leader) (ลำขวา) ขณะกำลังแล่นเข้าสู่ท่าเรือในทะเลแดง ด้านนอกของจังหวัดโฮไดดา (Hodeida)  เรือแกแลคซี ลีดเดอร์ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าพวกรถยนต์ลำนี้ ชักธงบาฮามาส เจ้าของเป็นบริษัทสหราชอาณาจักร และมีบริษัทญี่ปุ่นเป็นผู้ดำเนินงาน แต่มีนักธุรกิจชาวอิสราเอล รามี อังเกอร์ เกี่ยวข้องเป็นเจ้าของเรืออยู่ด้วย ได้ถูกพวกนักรบฮูตียึดเอาไว้เมื่อวันที่ 19 เดือนเดียวกัน ขณะเดินทางจากตุรกีมุ่งหน้าไปอินเดีย ทางฮูตีบอกว่ายึดเรือลำนี้เพื่อตอบโต้อิสราเอลที่ก่อสงครามกับฮามาสเข่นฆ่าชาวปาเลสไตน์. ทั้งนี้กรณีนี้ยิ่งทำให้ฝ่ายตะวันตกเพ่งเล็งมุ่งกำราบพวกฮูตี
นี่ก็เพราะว่าพวกเขาสามารถ—เป็นครั้งแรก— ที่จะวางกรอบการกระทำต่างๆ ของพวกเขาอย่างมีความหนักแน่นน่าเชื่อถือ เข้าไปอยู่ในบริบทแห่งการสู้รบต่อต้านสหรัฐฯและอิสราเอล สมดังคำขวัญ [8] ของพวกเขาที่ว่า “อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่, อเมริกาจงตายเสีย, อิสราเอลจงตายเสีย, ขอสาปแช่งพวกยิว ขอชัยชนะเป็นของอิสลาม”

ฮูตี ‘เสมือนกับมีความชอบธรรม’ ขึ้นมา

เหตุผลประการที่สองที่ว่าการโจมตีทิ้งระเบิดอย่างเดียวไม่น่าจะป้องปรามพวกเขาได้นั้น เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากยิ่งกว่าเสียด้วยซ้ำ ทว่าก็เป็นสิ่งที่เข้าอกเข้าใจกันน้อยกว่า เนื่องจากมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองภายในของเยเมนเอง

สมาชิกกองกำลังความมั่นคงของกลุ่มฮูตี ยืนรักษาการณ์ขณะมีการชุมนุมต่อต้านอิสราเอลและต่อต้านสหรัฐฯ ในเมืองหลวงซานา ที่อยู่ในความควบคุมของฮูตี เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อแสดงการประท้วงที่สหรัฐฯกลับมาตีตราประทับให้พวกกบฏฮูตีเป็น “ผู้ก่อการร้าย” อีกครั้งหนึ่ง
พวกฮูตีในปัจจุบันครอบครองพื้นที่จำนวนมากของเยเมนเอาไว้ รวมทั้งเมืองหลวงซานา โดยที่มีจำนวนประชากรคิดเป็นราวๆ 70% ของประชากรทั้งประเทศทีเดียว ประชาชนในภูมิภาคเหล่านี้ต่างตกเป็นเหยื่อของการใช้ความรุนแรงระดับโครงสร้างอย่างเลวร้ายของพวกฮูตีมาเป็นปีๆ อาทิเช่น

*การใช้อำนาจบังคับทำให้พวกปรปักษ์ทางการเมือง [9] และชนกลุ่มน้อยทางศาสนา [10] หายตัวไป
*การใช้อำนาจนอกกระบวนการยุติธรรมเข่นฆ่าพวกนักหนังสือพิมพ์ [11] และประหารชีวิตพลเรือน รวมทั้งผู้เยาว์ [12]
*การระดมกะเกณฑ์เด็กเข้าเป็นทหาร[13]
*การระงับไม่จ่ายเงินเดือนภาคสาธารณะ [14] มาตั้งแต่ปี 2016
*การวางกับระเบิด [15] ในพื้นที่ซึ่งมีประชากรพำนักอาศัย, การใช้พวกพลแม่นปืน [16]โจมตีเล่นงานพลเรือน, และการใช้วิธีทำสงครามปิดล้อม (siege warfare) [17]
*การรีดไถขู่กรรโชก [18] ธุรกิจต่างๆ อย่างเป็นระบบ และการนำเอาระบบจัดเก็บภาษีที่อิงอยู่กับระบบชั้นวรรณะ [19]มาใช้ปฏิบัติ
*การนำเอากฎเกณฑ์ที่ให้ผู้หญิงต้องมีผู้ดูแลที่เป็นผู้ชาย [20] มาใช้ปฏิบัติ
*และการทำให้อาหาร [21] และน้ำ [22] กลายสภาพเป็นอาวุธ รวมไปถึงการยักย้ายนำเอาความช่วยเหลือด้านอาหาร [23] ไปสร้างความมั่งคั่งส่วนตัว

เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องชี้เอาไว้ด้วยว่า พวกกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย และรัฐบาลเยเมนที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ ก็ถูกกล่าวหาเช่นกัน [24] ว่าประกอบอาชญากรรมสงครามในด้านต่างๆ [25] และมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง [26] ในเยเมน ซึ่งก็รวมไปถึงการถล่มทิ้งระเบิดตามอำเภอใจ [27] ใส่พลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานฝ่ายพลเรือน

ประมาณการกันว่ามีผู้คนอย่างน้อยที่สุด 150,000 คน [28] เสียชีวิตไปจากความรุนแรงในสงครามซึ่งเริ่มต้นขึ้นมาในปี 2015 ถึงแม้มีข้อท้าทายอย่างมากมายเช่นกันเกี่ยวกับเรื่องวิธีการในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล [29] ดังกล่าวนี้ ขณะเดียวกัน ตัวเลขนี้ยังไม่ได้ครอบคลุมถึงผู้คนอีกเป็นพันๆ หมื่นๆ ซึ่งเสียชีวิตจากภาวะอดอยากที่สามารถป้องกันได้ [30] และโรคภัยต่างๆ

พฤติกรรมของพวกฮูตีระหว่างครองอำนาจ ทำให้พวกเขาไม่เป็นที่นิยมชมชื่นและถูกชิงชังอย่างล้ำลึก แต่การแสดงตนเป็นผู้ไม่เห็นด้วยกับฮูตีนั้นเป็นเรื่องอันตรายมาก สืบเนื่องจากระบบกดขี่อันประณีตซับซ้อน [31] รวมทั้งระบบการให้เพื่อนบ้านจับตาจับผิดกันและกัน [32]ซึ่งฮูตีนำเอามาใช้ในพื้นที่ซึ่งพวกเขาควบคุมอยู่ กระนั้นชาวเยเมนก็ได้เริ่มออกมาประท้วงกันตามท้องถนนอยู่ดีเมื่อปีที่แล้ว ทั้งที่เมืองอิบบ์ (Ibb) [33] และเมืองตาอิซซ์ (Ta’izz) [34] ที่ถูกปิดล้อม

จากนั้นในวันที่ 26 กันยายน ไม่กี่วันก่อนที่พวกฮามาสเข้าโจมตีภาคใต้ของอิสราเอล และอิสราเอลถล่มแหลกในกาซา ชาวเยเมนก็ได้ออกมาท้าทายทางการผู้มีอำนาจกันเป็นจำนวนมาก

ในการประท้วงที่เมืองหลวงซานา พวกเขาเฉลิมฉลองวาระครบรอบของการปฏิวัติเมื่อปี 1962 ที่มีการโค่นล้มประมุขของประเทศในตอนนั้น นั่นคือ อิหม่ามซายดี โมฮัมเหม็ด อัล-บาดร์ และสิ่งที่ถูกล้มเลิกไปพร้อมๆ กับตัวเขา ซึ่งก็คือ ระบบเผด็จการรวบอำนาจที่อิงอยู่กับเครือญาติ [35] ซึ่งชาวเยเมนจำนวนมาก [36] อ้างว่าเป็นสิ่งที่พวกฮูตีพยายามหาทาง [37] รื้อฟื้นกลับมาใช้ใหม่ [38]

เมื่อมองเห็น (อย่างถูกต้อง) ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้คือการชุมนุมเดินขบวนต่อต้านพวกเขา พวกฮูตีก็บังเกิดความตระหนกเป็นอย่างยิ่ง องค์การนิรโทษกรรมสากล [39] รายงานว่าพวกเขาได้ตอบโต้ด้วย “การออกจับกุมผู้คนระลอกแล้วระลอกเล่าอย่างน่าตกใจ” และ “การใช้วิธีการอันเข้มงวดทารุณเพื่อสำแดงอำนาจ”

ท่ามกลางภูมิหลังของการเกิดผู้ไม่พอใจทางการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ภายในประเทศ การกระทำต่างๆ ของฮูตีและการตอบโต้เอาคืนของฝ่ายตะวันตกซึ่งกำลังกลายเป็นข่าวดังเวลานี้ ก็ได้กลายเป็นการมอบของขวัญ มอบฐานะ “เสมือนกับมีความชอบธรรม” (quasi-legitimacy) [40] แก่พวกฮูตี ทั้งนี้ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ชาวเยเมนหลายราย นอกจากนั้นการโจมตีที่นำโดยสหรัฐฯยังกลายเป็นการให้เครดิตความน่าเชื่อถือแก่ข้อเรียกร้องต้องการของฮูตี ที่ให้พวกนักวิพากษ์วิจารณ์ “ปิดปากของพวกเขา” เสีย [41]

และสิ่งที่ต้องถือว่ามีความสำคัญเช่นเดียวกัน การโจมตีของสหรัฐฯยังสามารถที่จะเสริมส่งหนุนช่วยความพยายามในการระดมเกณฑ์ทหารของพวกฮูตีอีกด้วย และเรื่องนี้อาจช่วยเหลือพวกเขาในความพยายามที่จะเข้ายึดบ่อน้ำมันแห่งต่างๆ ที่อยู่ในความยึดครองของฝ่ายรัฐบาลเยเมนในภูมิภาค มาริบ (Marib) [42] อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งฮูตีมีความต้องการเหลือเกินเพื่อให้พวกเขาสามารถพึ่งตนเองได้ในทางเศรษฐกิจ

ทหารเทคนิคด้านอาวุธของกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร ติดตั้งอาวุโจมตีให้แก่เครื่องบินแบบ ไต้ฝุ่น เอฟจีอาร์4 (Typhoon FGR4) ลำหนึ่ง ที่ได้รับมอบหมายภารกิจโจมตีทางอากาศเล่นงานเป้าหมายทางทหารของพวกฮูตีในเยเมน ในภาพนี้ซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร โดยที่ไม่ระบุวันถ่ายภาพ
ความโกรธแค้นต่อต้านตะวันตกกำลังเพิ่มสูงขึ้น

เหตุผลประการที่สามที่พวกฮูตีไม่น่าที่จะยอมถอย ถึงแม้ถูกโจมตีทางอากาศหรือถูกตีตราว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ได้แก่เรื่องที่ว่า การกระทำต่างๆ ของพวกเขาในครั้งนี้เป็นการขบคิดพิจารณามุ่งรองรับตอบสนองความโกรธแค้นของภูมิภาคแถบนี้ในวงกว้าง ต่อสงครามของอิสราเอลในกาซา ซึ่งจวบจนถึงเวลานี้ถูกระบุว่าได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไป 25,000 คน [43] แล้ว ตลอดจนเป็นการตอบสนองความโกรธแค้นต่อระยะเวลาหลายทศวรรษที่ฝ่ายตะวันตกสนับสนุนนโยบายต่างๆ ของอิสราเอลในเขตยึดครองกาซาและเวสต์แบงก์

พวกเขายังกำลังหาประโยชน์จากความคับข้องใจอันลึกล้ำเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ ในวงกว้างมากขึ้นของฝ่ายตะวันตก ตลอดจนสิ่งที่ฝ่ายตะวันตกได้เคยทำไว้ในอดีตในเรื่องที่ส่งเสริมหนุนช่วยระบอบปกครองซึ่งไม่เป็นที่นิยมของประชาชน เมื่อระบอบเหล่านี้เผชิญหน้ากับการปฏิบัติการมุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของประชาชนจำนวนมาก [44] โดยที่เรื่องนี้ก็ครอบคลุมถึงการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ [45] และการมอบความชอบธรรมทางการเมืองให้แก่ระบอบปกครองเผด็จการรวบอำนาจทั้งหลาย เพื่อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่ฝ่ายตะวันตกพิจารณาเห็นว่า เป็นการรักษา “เสถียรภาพ” [46] ของระเบียบโลก

อย่างไรก็ดี ชาวเยเมนก็มีความตระหนักเป็นอย่างดีว่า การที่พวกฮูตีสามารถผงาดขึ้นมาและขยายอำนาจออกไปได้นั้น ก็ด้วยอาศัยแรงผลักดันจากภายนอกที่มุ่งรักษาเสถียรภาพ [47] อย่างเดียวกันนี้แหละ ถึงแม้มันจะเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับที่ชาวเยเมนต้องสูญเสียความสามารถในการวินิจฉัยตัดสินหาทางออกของท้องถิ่นเอง [48] เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ของท้องถิ่นเอง [49]

ด้วยการมุ่งทำให้การพิทักษ์ปกป้องชาวปาเลสไตน์กลายเป็นศูนย์กลางในการกระทำต่างๆ ของพวกเขา ฮูตีก็ได้ค้นพบหนทางที่จะดิสเครดิตพวกปรปักษ์ภายในประเทศของพวกเขา –อันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทำได้สำเร็จเป็นส่วนใหญ่ในรอบระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา นี่จะทำให้ยิ่งเป็นเรื่องยากลำบากขึ้นไปอีกที่จะขับไสพวกเขาออกจากอำนาจ รวมทั้งน่าที่จะส่งชาวเยเมนสามัญธรรมดาให้ต้องตกอยู่ใต้ความรุนแรงมากขึ้นไปอีกในเงื้อมมือของพวกฮูตี

ซาราห์ จี ฟิลลิปส์เป็นศาสตราจารย์ทางด้านความขัดแย้งและการพัฒนาของทั่วโลก (Global Conflict and Development) ณ มหาวิทยาลัยซิดนีย์, ออสเตรเลีย และเป็นนักวิจัยไม่ประจำ (Non-Resident Fellow) ที่ศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์ศึกษาของซานา (Sana’a Center for Strategic Studies) มหาวิทยาลัยซิดนีย์

ข้อเขียนนี้มาจากเว็บไซต์ เดอะ คอนเวอร์เซชั่น https://theconversation.com/ โดยสามารถติดตามอ่านข้อเขียนดั้งเดิมชิ้นนี้ได้ที่ https://theconversation.com/why-us-strikes-will-only-embolden-the-houthis-not-stop-their-attacks-on-ships-in-the-red-sea-221588

ทั้งนี้ เดอะ คอนเวอร์เซชั่น แถลงเปิดเผยผลประโยชน์และความเกี่ยวข้องของผู้เขียน ในหัวข้อที่เขียนถึงในบทความชิ้นนี้ ดังนี้:

ซาราห์ จี ฟิลลิปส์ ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสภาวิจัยออสเตรเลีย (Australian Research Council) เธอทำงานเป็นนักวิจัยไม่ประจำกับ ศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์ศึกษาของซานา (เยเมน) Sana'a Center for Strategic Studies (Yemen)


เชิงอรรถ
[1]https://www.washingtonpost.com/world/2023/12/19/houthi-shipping-red-sea-oil-alliance/
[2] https://abcnews.go.com/Politics/us-carries-new-airstrike-houthis-yemen/story?id=106414037
[3] https://abcnews.go.com/Politics/us-redesignates-houthis-terrorist-group-means/story?id=106451725
[4]https://www.acaps.org/fileadmin/Data_Product/Main_media/20200617_acaps_yemen_analysis_hub_the_houthi_supervisory_system_0.pdf
[5]https://reliefweb.int/report/yemen/torture-slow-motion-economic-blockade-yemen-and-its-grave-humanitarian-consequences
[6]https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1080/03071847.2022.2148557
[7]https://www.conflictarm.com/perspectives/iranian-technology-transfers-to-yemen/
[8] https://waleedmahdi.com/echoes-of-a-scream/
[9]https://www.hrw.org/news/2015/09/15/yemen-houthis-disappear-political-opponent
[10]https://www.hrw.org/news/2023/05/30/yemen-houthis-forcibly-disappear-bahais
[11]https://www.newarab.com/news/poisoned-yemeni-journalist-was-investigating-houthi-owned-companies
[12] https://www.bbc.com/news/world-middle-east-58630071
[13]https://www.amnesty.org/en/latest/press-release/2017/02/yemen-huthi-forces-recruiting-child-soldiers-for-front-line-combat/
[14]https://www.mei.edu/publications/dilemma-public-sector-salary-payments-yemen
[15]https://www.hrw.org/news/2019/04/22/yemen-houthi-landmines-kill-civilians-block-aid
[16]https://www.npr.org/sections/pictureshow/2023/06/21/1183192685/yemeni-civil-war-frontline-photos
[17] https://www.saferworld-global.org/multimedia/a-city-under-siege-the-realities-of-yemenas-war-in-taiz
[18]https://reliefweb.int/report/yemen/final-report-panel-experts-yemen-established-pursuant-security-council-resolution-2140-2014s2023130-enar
[19]https://sanaacenter.org/publications/analysis/11628
[20]https://www.amnesty.org/en/latest/news/2022/09/yemen-huthis-suffocating-women-with-requirement-for-male-guardians/
[21] https://www.mwatana.org/reports-en/starvation-makers-e
[22]https://www.hrw.org/report/2023/12/11/death-more-merciful-life/houthi-and-yemeni-government-violations-right-water
[23] https://www.theguardian.com/global-development/2019/jan/02/aid-officials-aware-for-months-of-widespread-food-aid-theft-in-yemen
[24]https://www.theguardian.com/news/2022/aug/25/yemen-war-victims-stories-they-robbed-me-of-my-children
[25]https://www.hrw.org/news/2022/04/18/yemen-latest-round-saudi-uae-led-attacks-targets-civilians
[26]https://www.amnesty.org/en/location/middle-east-and-north-africa/yemen/report-yemen/
[27]https://sites.tufts.edu/wpf/files/2018/10/Strategies-of-Coalition-in-Yemen-War-Final-20181005-1.pdf
[28] https://acleddata.com/middle-east/yemen/
[29]https://sanaacenter.org/reports/humanitarian-aid/15353
[30] https://www.unicef.org/press-releases/yemen-acute-hunger-unprecedented-levels-funding-dries
[31]https://www.acaps.org/fileadmin/Data_Product/Main_media/20200617_acaps_yemen_analysis_hub_the_houthi_supervisory_system_0.pdf
[32]https://almashareq.com/en_GB/articles/cnmi_am/features/2022/07/07/feature-02
[33]https://www.arabnews.com/node/2275026/middle-east
[34]https://www.arabnews.com/node/2338366/middle-east
[35]https://www.researchgate.net/publication/362540450_The_Religious-Political_Ideology_of_Houthis'_Rebellion_in_Yemen_Theoretical_Perspective_of_the_Divine_Right_to_Rule
[36]https://www.leidenarabichumanitiesblog.nl/articles/a-stray-bullet-from-the-seventh-century-hit-yemen-anti-zaydi-polemics-and-the-politics-of-genealogy-in-al-ghobaris-al-qab%25C4%25ABlah-al-h%25C4%2581shimiyyah
[37]https://www.commonspace.eu/analysis/analysis-origins-houthi-supremacist-ideology
[38] https://sanaacenter.org/the-yemen-review/june-2022/18144
[39]https://www.amnesty.org/en/latest/news/2023/09/yemen-wave-of-arrests-by-huthi-de-facto-authorities-following-demonstrations/
[40]https://sanaacenter.org/publications/analysis/21726
[41]https://sanaacenter.org/publications/analysis/21726
[42]https://carnegieendowment.org/sada/84588
[43]https://www.sbs.com.au/news/article/gazas-death-toll-just-passed-25-000-for-the-survivors-hunger-is-the-biggest-threat/kjx1e3r65
[44]https://foreignpolicy.com/2020/12/17/betrayed-by-their-leaders-failed-by-the-west-arabs-still-want-democracy/
[45]https://www.taylorfrancis.com/chapters/edit/10.4324/9780429317873-46/violence-david-wearing
[46]https://academic.oup.com/book/2981/chapter-abstract/143677536?redirectedFrom=fulltext
[47]https://www.theguardian.com/world/2012/jan/10/us-backs-yemen-immunity-for-saleh
[48] https://merip.org/2014/12/the-breakdown-of-the-gcc-initiative/
[49]https://www.mei.edu/publications/yemens-peace-process-hodeida-agreement-never-was
กำลังโหลดความคิดเห็น