รัฐบาลแคนาดาประกาศมาตรการจำกัดการรับนักศึกษาต่างชาติเป็นเวลา 2 ปี และจะงดออกใบอนุญาตทำงานให้นักศึกษาบางส่วนที่จบการศึกษาแล้ว เพื่อควบคุมจำนวนประชากรใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นจนก่อวิกฤตที่อยู่อาศัย
ภายใต้มาตรการใหม่ที่ถูกประกาศเมื่อวันจันทร์ (22 ม.ค.) แคนาดาจะเปิดรับนักศึกษาต่างชาติเพียงราว 360,000 คนในปี 2024 หรือลดลง 35% จากในปี 2023 ตามข้อมูลจากกระทรวงคนเข้าเมือง
มาร์ก มิลเลอร์ รัฐมนตรีกระทรวงคนเข้าเมืองแคนาดา ระบุว่า รัฐบาลกลางจะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่กำกับดูแลระบบการศึกษาของรัฐต่างๆ เพื่อบังคับใช้ข้อจำกัดนี้
มิลเลอร์ ชี้แจงว่า เหตุผลหลักๆ ที่รัฐต้องกำหนดเพดานก็เพื่อช่วยปกป้องนักศึกษาที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งบางครั้งได้รับบริการไม่เพียงพอทั้งที่จ่ายแพง รวมถึงต้องการบรรเทาวิกฤตด้านที่อยู่อาศัยและบริการด้วย
“สถาบันเอกชนบางแห่งเอาเปรียบนักศึกษาต่างชาติด้วยการเปิดการเรียนการสอนทั้งที่มีทรัพยากรจำกัด ไม่ให้บริการที่เพียงพอต่อนักศึกษา แต่กลับเรียกเก็บค่าเทอมสูงมาก และยังคงเปิดรับนักศึกษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” มิลเลอร์ บอกกับสื่อมวลชน
“การรับนักศึกษาเพิ่มเช่นนี้ยังก่อปัญหาด้านที่อยู่อาศัย สุขภาพ และบริการอื่นๆ ด้วย”
การขยายตัวอย่างรวดเร็วของประชากรแคนาดาอันมีปัจจัยจากจากการอพยพย้ายเข้าเริ่มส่งผลกระทบต่อบริการด้านต่างๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา และยังทำให้ราคาที่อยู่อาศัยพุ่งสูงขึ้น
ปัญหาเหล่านี้กำลังสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด และมีผลสำรวจพบว่าเขาจะพ่ายแพ้หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในตอนนี้
ในช่วงไตรมาส 3 ปีที่แล้ว ประชากรแคนาดาเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในรอบกว่า 60 ปี โดยมีจำนวนผู้พำนักชั่วคราว (non-permanent residents) ซึ่งส่วนใหญ่คือนักศึกษาต่างชาติเพิ่มขึ้นถึง 312,758 คน
ที่มา : รอยเตอร์