สโลวะเกียจะขัดขวางยูเครนจากการเข้าเป็นสมาชิกพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และจะยืนหยัดจุดยืนนี้ด้วยการตัดสินใจหยุดป้อนอาวุธแก่ประเทศแห่งนี้ โดยชี้มันนำมาซึ่งความเป็นไปได้ของการปะทะกันโดยตรงระหว่างนาโตกับรัสเซีย ที่อาจกลายเป็นจุดกำเนิดของสงครามโลกครั้งที่ 3
ความเห็นดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก แห่งสโลวะเกีย มีขึ้นเมื่อวันเสาร์ (20 ม.ค.) ก่อนหน้าที่เขาจะพบปะกับ เดนิส ชมีฮาล นายกรัฐมนตรียูเครน ในเมืองอุซโกรอด ทางตะวันตกของยูเครน ทั้งนี้ ฟิโก เน้นย้ำว่าการเดินทางเยือนครั้งนี้ของเขามีจุดประสงค์ด้านมนุษยธรรมเพียวๆ และสัญญาว่าจะสื่อสารอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับท่าทีของสโลวะเกียที่มีต่อเคียฟในประเด็นต่างๆ ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ในการเข้าเป็นสมาชิกอียูหรือนาโต
"ผมจะบอกกับเขาว่า มีหลายสิ่งที่เรามีความเห็นต่างกันโดยสิ้นเชิง" ฟิโกให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ RTVS "ผมจะบอกกับเขาว่า เราเคารพพวกเขา ในเรื่องที่พวกเขาจะเข้าร่วมอียู แต่พวกเขาต้องทำตามเงื่อนไขต่างๆ" เขากล่าว พร้อมอธิบายว่า "สถานการณ์หนึ่งซึ่งประเทศหนึ่งใดไม่สามารถทำตามข้อบังคับต่างๆ สำหรับการเข้าร่วมอียู แต่ยังได้เข้าร่วมอียู เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้"
นอกจากนี้ เขายังปฏิเสธความเป็นไปได้ใดๆ ที่ยูเครนจะเข้าร่วมนาโต โดยยืนยันว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวรังแต่จะก่อหายนะระดับโลก สืบเนื่องจากความเป็นไปได้ของการเผชิญหน้ากันโดยตรงระหว่างนาโตกับรัสเซีย
ฟิโก รับปากว่าจะเน้นย้ำกับ ชมีฮาล ว่าระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งนั้น เขาได้หาเสียงว่าจะหยุดจัดหาอาวุธแก่เคียฟ และการตัดสินใจดังกล่าวยังคงมีผลอยู่ อย่างไรก็ตามข้อจำกัดนี้จะใช้กับเฉพาะความช่วยเหลือด้านการทหารจากภาครัฐและอาวุธยุทโธปกรณ์จากคลังแสงของประเทศเท่านั้น แต่บรรดาบริษัทผู้ผลิตอาวุธทั้งหลายยังคงมีเสรีในการขายอาวุธแก่ยูเครนได้ตามที่ต้องการ "หากบรรดาบริษัทสโลวะเกียไม่โกยเงิน บริษัทต่างๆ ของอเมริกาจะเป็นฝ่ายโกยเงิน"
ก่อนหน้าที่ ฟิโก จะเข้ารับตำแหน่ง หลังพรรคของเขาคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายน สโลวะเกียเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนลำดับต้นๆ ของยูเครน จัดหาอาวุธล้ำสมัยอย่างสุรุ่ยสุร่ายมอบแก่เคียฟ ในนั้นรวมถึงเครื่องบินรบและระบบต่อต้านอากาศยาน นโยบายของรัฐบาลชุดก่อนทำให้ยุทธศาสตร์กลาโหมของประเทศได้รับความเสียหายอย่างเลวร้าย จากคำกล่าวอ้างของ โรเบิร์ต คาลินัค รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์
"รัฐบาลชุดเก่าทำให้เราไม่เหลือระบบป้องกันภัยต่อต้านอากาศยาน ไม่เหลือเครื่องบินประจัญบาน และเราไม่มีแม้กระทั่งเงิน 700 ล้านที่ตกปากคำรับสำหรับเครื่องบิน MiG ที่รัฐบาลได้ส่งมอบไปให้แก่ยูคเรนเช่นกัน" คาลินัค ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)