เอเจนซีส์ - กลายเป็นเรื่องเมื่อฝรั่งเศสออกมาแสดงความไม่พอใจต่อเยอรมนีในการส่งมอบเงินช่วยเหลือทางการทหารเข้าตรงยูเครน มูลค่า 6 พันล้านปอนด์ โดยที่ไม่ยอมส่งเข้ากองทุนอาวุธเพื่อสันติภาพยุโรป ด้านประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง วันอังคาร (16 ม.ค.) ยืนยันพร้อมลงนามข้อตกลงหลักประกันความมั่นคงร่วมเดือนหน้าที่กรุงเคียฟ หลังอังกฤษประเดิมเป็นชาติแรก ชาติมหาอำนาจอื่น รวม สหรัฐฯ เยอรมนี แคนาดา อยู่ระหว่างเจรจาป้องกันปูตินรุกรานรอบใหม่
เดลีเมลของอังกฤษรายงานวานนี้ (17 ม.ค.) ว่า สมาชิกคณะกรรมาธิการยุโรปจากฝรั่งเศส Thierry Breton ล่าสุดโจมตีนายกรัฐมนตรีเยอรมนี โอลาฟ ชอลซ์ ที่ออกมาประกาศมอบเงินช่วยเหลือยูเครนมูลค่า 6 พันล้านปอนด์สำหรับปี 2024 ในนานเยอรมนีโดยที่ไม่มีสหภาพยุโรปเข้าเกี่ยวข้อง
“พวกเรากำลังเห็นเยอรมนีฉายเดี่ยวตามลำพัง นี่มันไม่สามารถหลอกใครได้ และมันเป็นเสมือนความพยายามที่จะหยุดให้การสนับสนุนต่อกองทุนอาวุธเพื่อสันติภาพยุโรป (European Peace Facility) Breton กล่าวแสดงความเห็นวันจันทร์ (15)
การแสดงความเห็นของเขาเกิดขึ้นจากการที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนีแถลงผ่านแพลตฟอร์ม X หลังชอลซ์ได้โทรศัพท์หารือร่วมประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่ร้องขอให้เยอรมนีช่วยยูเครนต่อระหว่างที่สภาคองเกรสสหรัฐฯ ยังคงไม่ผ่านการอนุมัติเงินช่วยเหลือยูเครน
“ประธานาธิบดีไบเดน และผมตกลงกันว่า พวกเราจะยังคงให้การช่วยยูเครนต่อไปทั้งการเงิน ด้านมนุษยธรรม และการสนับสนุนทางการทหาร” ชอลซ์กล่าวผ่านทางโซเชียลมีเดีย
และเสริมว่า “วันนี้ผมได้หารือ@POTUS (ไบเดน) ทางโทรศัพท์ เยอรมนีจะยังคงมอบให้กว่า 7 พันล้านยูโร (6 พันล้านปอนด์) สำหรับยุทโธปกรณ์ทางการทหารของปี 2024”
ตามหลังด้วยการวิพาษ์วิจารณ์ว่าชาติสมาชิกสหภาพยุโรปให้การสนับสนุนเคียฟไม่มากพอในการสู้รบขับไล่รัสเซียที่มีทั้งกำลังทหารและการเงินเหนือกว่าให้พ้นจากดินแดนไป
สื่ออังกฤษชี้ว่า ความเห็นเป็นเสมือนใบมีดกรีดประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง ที่ให้การสนับสนุนยูเครนน้อยกว่าจากของเยอรมนี ทั้ง 2 ชาติแข่งขันในการสร้างอิทธิพลของตัวเองภายในกลุ่มสหภาพยุโรป
แหล่งข่าวนักการทูตยุโรปเปิดเผยกับเดลีเทเลกราฟของอังกฤษว่า การที่เบอร์ลินตัดสินใจไม่ส่งเงินเข้ากองทุนอาวุธสหภาพยุโรป แต่กลับจ่ายตรงให้เคียฟนั้นเป็นการแสดงให้เห็นถึงรอยร้าวภายใน EU ระหว่างเยอรมนีและยุโรปอย่างชัดเจน
กองทุนอาวุธเพื่อสันติภาพยุโรปนี้เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นการเพิ่มอิทธิพลยุโรปทางความมั่นคงโลก
หนึ่งในแหล่งข่าว EU กล่าวว่า “ชาติสมาชิกในวงกว้างไม่ว่ากระไรในการกระตุ้นของชอลซ์ที่ขอให้พยายามเพิ่ม แต่นั่นเป็นเหมือนการกดดันไปที่ฝรั่งเศสที่ไม่ทำอะไร ส่งผลทำให้ Breton ต้องออกมาตำหนิทางสาธารณะ”
"ฝรั่งเศส" ในขณะเดียวกันที่ออกมาช่วยเหลือยูเครนตามหลังทั้งสหรัฐฯ เยอรมนี และอังกฤษ โดยปารีสบริจาคความช่วยเหลือทางการทหารโดยตรงแก่เคียฟ 544 ล้านปอนด์
เดลีเมลรายงานว่า ประธานาธิบดีมาครง คืนวันอังคาร (16) ประกาศเพิ่มการสนับสนุนเคียฟโดยกล่าวว่า ฝรั่งเศสจะส่งมอบมิสไซล์พิสัยไกล Storm Shadow จำนวน 40 ลูก และระเบิดอีกไม่กี่ร้อยลูก และเขายังประกาศพร้อมจะลงนามข้อตกลงหลักประกันความมั่นคงซึ่งเป็นข้อตกลงทางการทหารระดับทวิภาคีระหว่างการเยือนกรุงเคียฟเดือนหน้า
อ้างอิงจาก Euromaidan Press รายงานวันอาทิตย์ (14) ว่า เคียฟอยู่ระหว่างการเจรจาหารือทำข้อตกลงหลักประกันความมั่นคงร่วมกับหลายชาติในเวลานี้รวมถึงสหรัฐฯ เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส แคนาดา และโปแลนด์ ตามหลังความสำเร็จของการลงนามร่วมกับอังกฤษเมื่อวันที่ 12 ม.ค. วลาดิสลาฟ วลาสยุค (Vladyslav Vlasyuk) ที่ปรึกษาหัวหน้าทำเนียบประธานาธิบดียูเครนเปิดเผย
ซึ่งก่อนหน้าอังกฤษกลายเป็นชาติแรกที่ลงนามข้อตกลงหลักประกันความมั่นคงร่วมกับเคียฟเมื่อวันศุกร์ (12) ระหว่างนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ริชี ซูแน็ก เดินทางไปเยือนกรุงเคียฟ
สื่อ dpa ของเยอรมนีรายงานว่า เป็นข้อตกลงหลักประกันที่อังกฤษจะให้การสนับสนุนยูเครนในปัจจุบันและในอนาคตหากเกิดความขัดแย้งกับรัสเซียรอบใหม่
สื่อเยอรมนีชี้ว่า ขอบเขตของข้อตกลงรวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือทางการทหารอย่างรวดเร็วและในระยะยาว แต่ภายในข้อตกลงไม่มีการส่งกำลังอังกฤษ