จีนส่งเครื่องบินทหารกว่า 20 ลำ ปฏิบัติการรอบเกาะไต้หวัน โดยมีอย่างน้อย 11 ลำที่บินข้ามเส้นมัธยฐาน (median lian) หรือเส้นแบ่งเขตแดนแบบไม่เป็นทางการในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งถือเป็นสำแดงอิทธิพลข่มขู่ครั้งแรกหลัง ไล่ ชิงเต๋อ ชนะศึกเลือกตั้งได้เป็นว่าที่ผู้นำไทเปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุวันนี้ (18 ม.ค.) ว่าตรวจพบเครื่องบินขับไล่จีน 24 ลำ และเรืออีก 5 ลำ เข้ามาปฏิบัติการรอบๆ เกาะไต้หวันในช่วง 24 ชั่วโมง จนถึงเวลา 6.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
“มีเครื่องบิน 11 ลำที่บินข้ามเส้นมัธยฐาน หรือบินเข้ามาในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้และเหนือของไต้หวัน” กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุ
ไต้หวันมีรัฐบาลปกครองตนเองภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งยังมีกองทัพและสกุลเงินเป็นของตัวเอง แต่จีนอ้างว่าเกาะแห่งนี้เป็นดินแดนในอธิปไตยของตน และไม่ปฏิเสธที่จะใช้กำลังทหารเข้ายึดไต้หวันหากมีความจำเป็น
ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (13) ปรากฏว่าชัยชนะตกเป็นของรองประธานาธิบดี ไล่ ชิงเต๋อ จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ซึ่งจีนเรียกว่าเป็น “พวกแบ่งแยกดินแดน” และปักกิ่งก็ได้เตือนคนไต้หวันล่วงหน้าแล้วว่าชัยชนะของ ไล่ จะนำมาซึ่ง “สงครามและความตกต่ำ” ของไต้หวัน
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าจีนยังคงวางท่าทีสุขุม และไม่ได้เปิดปฏิบัติการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่ใช้เครื่องบินและเรือจำนวนมากเพื่อตอบโต้ผลการเลือกตั้งในไต้หวันอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ จีนเคยส่งเครื่องบินรบเข้าไปข่มขู่ไต้หวันมากที่สุดถึง 103 ลำในรอบ 24 ชั่วโมงเมื่อเดือน ก.ย. และบินข้ามเส้นมัธยฐานถึง 40 ลำ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารมองว่า นี่คือกลยุทธ์ “พื้นที่สีเทา” (grey zone tactic) ที่จีนใช้สำหรับป้องปราม โดยไม่ต้องถึงขั้นเปิดสงครามกับไทเปโดยตรง
ที่มา : เอเอฟพี