เอพี/เอเจนซีส์ – สำนักพระราชวังบักกิงแฮมแถลงวันพุธ(17 ม.ค)ว่า สัปดาห์หน้าพระเจ้าชาร์ลส์จะทรงรับถวายการผ่าตัดเพื่อรับการรักษาโรคต่อมลูกหมากประเภทไม่ใช่เนื้อร้าย แถลงวันเดียวกันประกาศ เจ้าหญิงแคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์จะทรงประทับต่อที่โรงพยาบาลชื่อดังในกรุงลอนดอนอีก 2 สัปดาห์เพื่อประทับพักฟื้นหลังการผ่าตัดพระนาภีที่ไม่เปิดเผยในรายละเอียด ระหว่างพระสวามีเจ้าชายวิลเลียมทรงต้องวุ่นกับการดูแลพระโอรสและพระธิดาและเสด็จโรงพยาบาลเยี่ยม เกิดขึ้นหลังวันอังคาร(16 ม.ค)มีการเปิดตัวภาพพระบรมฉายาลักษณ์ทางการของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 สำหรับการประดับประดาไว้ตามอาคารสำนักงานรัฐและอาคารสาธารณะต่างๆ
.
เอพีรายงานวานนี้(17 ม.ค)ว่า กลายเป็นข่าวด่วนรายงานไปทั่วโลกเมื่อสำนักพระราชวังบักกิงแฮมในเวลาราว 15.30 น.ของวันพุธ(17) ประกาศว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษจะต้องทรงเข้ารับการถวายการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดโรคต่อมลูกหมากโตสัปดาห์หน้า ถือเป็นโรคที่พบได้มากในกลุ่มผู้ป่วยชายที่สูงอายุ
.
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน ป่วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากและเข้ารับการผ่าตัดในเดือนธันวาคมล่าสุด และเพิ่งออกจากโรงพยาบาลหลังถูกส่งเข้าโรงพยาบาลรอบใหม่เพื่อรักษาอาการแทรกซ้อนจากการผ่าตัดและกลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกในประเด็นไม่แจ้งให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน รับทราบ
.
ในแถลงการณ์สำนักพระราชวังบักกิงแฮมกล่าวว่า ผลจากการวินิจฉัยพบว่าการป่วยโรคนี้ไม่ใช่เนื้อร้าย (benign) หรือมะเร็ง
.
เนื้อหาตามแถลงการณ์ที่ออกมาเมื่อเวลา 15.30 น.ตามเวลากรุงลอนดอนกล่าวว่า
.
“เป็นเช่นปกติสำหรับชายจำนวนมากของทุกปี พระเจ้าแผ่นดินอังกฤษทรงแวงหาการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต ผลการวินิจฉัยของพระองค์เป็นลบและพระองค์จะเสด็จโรงพยาบาลสัปดาห์หน้าเพื่อเข้ารับการถวายการรักษา ทั้งนี้พระราชกรณียกิจทั้งหมดได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นระยะเวลาอันสั้นสำหรับการพักฟื้น” อ้างอิงจากเดลีเมลของอังกฤษ
.
เอพีชี้ว่า บรรดาสาธารณะที่ใกล้ชิดกับการผ่าตัดถวายครั้งนี้ต่างมองเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะรณรงค์ให้บรรดาชายชาวอังกฤษที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปต้องเข้ารับการตรวจเช็ก
.
อย่างไรก็ตามการประกาศข่าวพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะเข้ารับการถวายผ่าตัดในช่วงเวลาเดียวกันกับที่เจ้าหญิงแคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ที่ทรงถูกมองว่าเป็นพระราชินีอังกฤษในอนาคตนั้น ต้องทรงต้องประทับต่อในโรงพยาบาลคลินิกลอนดอน(The Clinic London)ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแดนผู้ดีต่ออีก 2 สัปดาห์หลังจากการเข้ารับการถวายผ่าตัดพระนาภี
.
เดลีเมลชี้ไปถึง ระยะเวลาการพักฟื้นที่ยาวนานถึง10 วัน - 14 วันที่โรงพยาบาลก่อนที่จะเสด็จกลับไปประทับต่อที่ระราชวังวินด์เซอร์แสดงให้เห็นว่า การรักษาอาการประชวรที่ไม่เปิดเผยนี้น่าจะค่อนข้างร้ายแรง สื่อสกายนิวส์ออสเตรเลียยังชี้ความเชื่อมโนงระหว่างการประชวรและอายุของเจ้าหญิงที่ทรงวัยแค่ 42 พรรษา ทำให้แถลงการณ์วันพุธ(17)นั้นดูน่ากังวล
.
สื่ออังกฤษชี้ว่า แถลงการณ์ข่าวอาการประชวรของเจ้าหญิงแคทเธอรีนออกมาโดยสำนักพระราชวังเคนซิงตันเมื่อเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพุธ(17) และหลังจากนั้นในเวลา 15.30 น. สำนักพระราชวังบักกิงแฮมออกแถลงการณ์พระเจ้าชารลส์ที่ 3 ทรงได้รับการถวายกคำวินิจฉัยโรคต่อมลูกหมากโตหลังจา่กนั้น
.
ทว่าข่าวการอัปเดตด้านสุขภาพของพระเจ้าชาร์ลส์และเจ้าหญิงแคทเธอรีนที่ถือเป็นสมาชิกราชวงศ์สำคัญถึง 2 พระองค์ในเวลาเดียวกันทำให้สื่อแดนผู้ดีเป็นต้นว่า เดลีเมล แสดงความวิตกออกมาโดยจั่วหัวว่า "ทั้งประเทศวิตก...เย็นวาบกระดูกันหลัง"
.
เดลีเมลรายงานว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงได้รับการถวายคำวินิจฉัยป่วยโรคต่อมลูกหมากโตวันอังคาร(16) ระหว่างตรวจพระพลานามัยประจำปีก่อนหน้าภายในสัปดาห์ ส่วนเจ้าหญิงเคททรงเข้ารับการถวายผ่าตัดพระนาภีในวันอังคาร(16)เช่นกันที่โรงพยาบาลคลินิกลอนดอนใน มาร์เลโบน (Marylebone)
.
ระหว่างที่พระองค์ประทับอยู่ในโรงพยาบาล พระสวามี เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ รับทำหน้าที่ดูแลพระโอรสและพระธิดาในการส่งไปโรงเรียนและการเสด็จไปโรงพยาบาลเพื่อเสด็จเยี่ยมเจ้าหญิงเคท ส่งผลทำให้พระองค์ต้องตัดลดพระกรณียกิจลง
.
เดอะซันของอังกฤษรายงานว่า เจ้าชายวิลเลียมเสด็จออกไปจากโรงพยาบาลก่อนที่สำนักพระราชวังจะออกแถลงการณ์
.
ขณะที่เจ้าหญิงแห่งเวลส์นั้นไปทรงยกเลิกพระกรณียกิจทั้งหมดและการเสด็จเยือนต่างประเทศและเป็นที่คาดการณ์ว่าการทรงงานอีกครั้งจะสามารถเกิดขึ้นได้หลังวันอีสเตอร์ไปแล้ว
.
สื่ออังกฤษและสื่อทั่วโลกเมื่อไม่กี่ปีมานี้ต่างให้ความสำคัญต่อประเด็นพระพลานามัยของสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ
.
โดยในวันอังคาร(16) CNN ของสหรัฐฯรายงานว่า สำนักพระราชวังบักกิงแฮมได้เปิดตัวภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ที่จะได้รับการประดับในสถานที่ทำการรัฐและอาคารสาธารณะต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งภาพพระบรมฉายาลักษณ์ใหม่นั้นแสดงให้เห็นท่าประทับยืนของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งทรงอยู่ในชุดฉลองพระองค์เครื่องแบบนายทหารเรือราชนาวีอังกฤษโดยเป็นการฉายพระรูปเกิดขึ้นภายในพระราชวังวินเซอร์ในปี 2023 ซึ่งเป็นภาพพระฉายาลักษณ์เพื่อเฉลิมฉลองศักราชใหม่ในรัชสมัยของพระองค์