เครื่องบินโดยสารของสายการโคเรียนแอร์ลำหนึ่ง เฉี่ยวชนกับเครื่องบินสายการบินคาเธย์ แปซิฟิก ที่ไม่มีผู้โดยสาร ขณะที่กำลังแล่นอยู่บนแท็กซี่เวย์ ณ ท่าอากาศแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่มีหิมะตกลงมาในวันอังคาร (16 ม.ค.) อย่างไรก็ตาม สายการบินทั้ง 2 ยืนยันว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บใดๆ
เหตุการณ์ที่สนามบินนิวชิโตเซะ ในเมืองซัปโปโร ทางเหนือของญี่ปุ่น เกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์หลังเกิดเหตุเครื่องบินของสายการบินแจแปน แอร์ไลน์ส เฉี่ยวชนกับเครื่องบินของยามชายฝั่งที่มีขนาดเล็กกว่า ณ สนามบินฮาเนกะของกรุงโตเกียว จนหวิดเกิดโศกนาฏกรรมเลวร้าย
"เครื่องบินของเราซึ่งจอดอยู่กับที่ในช่วงเวลาดังกล่าว ไม่มีลูกค้าหรือลูกเรือ ถูกชนโดยเครื่องบิน A330 ของสายการบินโคเรียนแอร์ ที่กำลังแท็กซี่ผ่านไป" สายการบินคาเธย์ แปซิฟิก ของฮ่องกงระบุในถ้อยแถลง
ส่วนโคเรียนแอร์ ก็ยืนยันเช่นกันว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บในบรรดาผู้โดยสาร 276 คน และลูกเรือ 13 คน บนเครื่องบินแอร์บัส A330-300 ที่เตรียมออกเดินทางจากท่าอากาศยานชิโตเซะ บนเกาะฮอกไกโด ทางเหนือของญี่ปุ่น ไปยังสนามบินอินชอน ของกรุงโซล
สายการบินแห่งนี้ระบุว่าเครื่องบินของพวกเขาเฉี่ยวชนกับเครื่องบินคาเธย์ ตอนเวลา 17.35 น. (ตรงกับเมืองไทย 15.35 น.) ระหว่างถูกลากกลับ แต่รถลากเครื่องบินเกิดลื่นไถลสืบเนื่องจากหิมะตกหนักทำให้ไปเฉี่ยวชนกับเครื่องบินลำที่จอดอยู่ "ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทางสายการบินกำลังให้ความร่วมมือกับพวกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง"
โฆษกของผู้ปฏิบัติการสนามบิน ยืนยันว่ามีการสัมผัสกันระหว่างเครื่องบินทั้ง 2 แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ในนั้นรวมถึงสาเหตุของอุบัติเหตุ
ทั้ง 2 สายการบินไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเสียหาย แต่บอกว่าจำเป็นต้องนำผู้โดยสารขึ้นเครื่องบินลำอื่นแทน
ภาพข่าวของสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค เป็นภาพเครื่องบินของสายการบินโคเรียนแอร์ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และมีความเสียหายเกิดขึ้นบริเวณปีก ขณะที่สื่อแห่งนี้รายงานว่าปลายปีกหลุดออกมาและส่วนท้ายของเครื่องบินคาเธย์ได้รับความเสียหาย
หน่วยดับเพลิงของสนามบินเตรียมพร้อมจัดการกับไฟไหม้หลังเกิดอุบัติเหตุ แต่สุดท้ายแล้วได้รับการยืนยันว่าไม่พบน้ำมันรั่วหรือไฟไหม้ใดๆ
ฮอกไกโดกำลังโดนเล่นงานจากแนวปะทะอากาศเย็นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จนต้องมีการประกาศเตือนหิมะตกหนักในหลายเมือง ทั้งนี้รวมแล้วมีเที่ยวบิน 46 เที่ยวที่ถูกยกเลิกในวันอังคาร (16 ม.ค.) สืบเนื่องจากหิมะตกหนัก
ก่อนหน้านี้ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 2 มกราคม ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 379 คนของเครื่องบินแอร์บัส สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส รอดพ้นโศกนาฏกรรมอย่างฉิวเฉียด หนีออกมาได้ก่อนไฟลุกท่วม หลังชนกับเครื่องบินของยามชายฝั่งที่มีขนาดเล็กกว่า อย่างไรก็ตามในบรรดา 6 คนที่อยู่บนเครื่องบินยามชายฝั่ง มีอยู่ 5 คนเสียชีวิต
รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าพวกเขาได้กระชับกฎระเบียบการควบคุมการสัญจรทางอากาศตามหลังอุบัติเหตุ
ภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่ๆ ที่บังคับใช้ทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องจับตาระบบเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ระบบนี้จะคอยแจ้งเตือนหอควบคุมการบินเครื่องที่มีการรุกล้ำขึ้นไปบนรันเวย์ และเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด พวกเจ้าหน้าที่หอควบคุมการบินต้องไม่แจ้งเครื่องบินเกี่ยวกับจำนวนที่พวกเขาต่อแถวสำหรับเทกออฟ
"หนึ่งในภารกิจใหญ่หลวงที่สุดของผมคือกอบกู้ความเชื่อมั่นในภาคการบิน ในฐานะการขนส่งสาธารณะ" เทตสึโอะ ไซโตะ รัฐมนตรีคมนาคมญี่ปุ่นกล่าว พร้อมบอกว่าจะมีการตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อยกระดับด้านความปลอดภัย
ในบทสนทนาส่วนหนึ่งที่เผยแพร่โดยกระทรวงคมนาคม บ่งชี้ว่าเครื่องบินเจแปน แอร์ไลน์ส ได้รับอนุญาตให้ลงจอด ส่วนเครื่องบินของยามชายฝั่งได้รับคำสั่งให้หยุดก่อนขึ้นรันเวย์
หอควบคุมการบินแจ้งกับเครื่องบินยามชายฝั่งว่าพวกเขาเป็น "หมายเลข 1" ซึ่งหมายถึงเป็นลำถัดไปที่จะเทกออฟ แต่นักบินของเครื่องบินยามชายฝั่ง ซึ่งเป็นเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต เชื่อว่าตนเองได้รับอนุญาตให้เคลื่อนเข้าสู่รันเวย์ และเครื่องบินของเขาขึ้นไปจอดบนรันเวย์ได้ราว 40 วินาที ก่อนเกิดอุบัติเหตุ
(ที่มา : เอเอฟพี)