รัสเซียแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นอย่างแท้จริง ไม่ก้มหัวให้แก่แรงกดดันจากต่างประเทศ จากคำคุยโวของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ พร้อมเน้นว่ารัสเซียคือ "ประเทศที่พึ่งพาตนเอง" เศรษฐกิจกำลังตอบโต้แม้ว่าถูกคว่ำบาตรต่างๆ ขณะที่รัฐสมาชิกอียู กลุ่มที่กำหนดบทลงโทษต้องเผชิญกัยช่วงเวลาที่ยากลำบากเสียเอง
ประธานาธิบดีปูติน แสดงความคิดเห็นดังกล่าวระหว่างพบปะกับพวกชาวบ้านในภูมิภาคชูคอตตา ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย โดยนอกเหนือจากคำถามอื่นๆ นั้น กลุ่มอาสามัครท้องถิ่นได้สอบถามเกี่ยวกับภัยคุกคามต่างๆ ที่ประเทศต้องเผชิญ ท่ามกลางความขัดแย้งในปัจจุบันระหว่างรัสเซียกับยูเครน
ปูติน บอกว่าชาวรัสเซียต้องเจอกับคำขู่จากต่างประเทศเป็นประจำอยู่แล้ว "แต่เหล่านี้ไม่ทำให้เราหวาดกลัว" พร้อมกับแนะนำเชิงเย้ยหยัน ให้สหภาพยุโรป (อียู) หันไปให้ความสำคัญกับประเด็นปัญหาต่างๆ ภายในของตนเองจะดีกว่า "พวกเขาควรคิดเกี่ยวกับเรื่องของตนเอง วันพรุ่งนี้พวกเขาจะกินอะไร พวกเขาจะสวมใส่อะไร" ปูตินกล่าว "พวกเขาล้วนมีปัญหามากมายก่ายกอง ซึ่งปัญหาของเรานั้นเทียบไม่ได้เลย"
รัสเซียกลายเป็นประเทศที่ถูกคว่ำบาตรมากที่สุดในโลก หลังเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 บรรดาชาติตะวันตกหลายประเทศได้กำหนดมาตตรการคว่ำบาตรลงโทษมอสโกหลายต่อหลายรอบ โดยล่าสุดเป็นการออกข้อจำกัดเล็งเป้าหมายเล่นงานการค้าเพชรของรัสเซีย
แม้ ปูติน ไม่ได้ชี้นิ้วไปที่ประเทศไหนโดยเฉพาะ แต่ถ้อยแถลงของเขาดูเหมือนจะเป็นการพาดพิงถึงเยอรมนี ผุ้เป็นมหาอำนาจของอียูมาอย่างยาวนาน โดยรายงานข่าวล่าสุดของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานสถิติรัฐบาลกลางของเยอรมนี ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่เยอรมนีจะได้เข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายน
พวกนักเศรษฐศาสตร์ของบลูมเบิร์กเตือนว่า "ข้อมูลการผลิตที่น่าผิดหวังในเดือนพฤศจิกายน และคาดการณ์ภาคธุรกิจทรุดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ บ่งชี้ถึงการเริ่มต้นปีที่เป็นหลุมเป็นบ่อสำหรับภาคอุตสาหกรรม" พร้อมคาดหมายเศรษฐกิจของเยอรมนีจะดีขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสแรก แต่เตือนว่าจะดำดิ่งหนักกว่าเดิมหลังจากนั้นในปี 2024
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)