xs
xsm
sm
md
lg

“ลาซาดา” เตรียมประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่กลางเดือนนี้ หลังปลด พนง.ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม “ไทย” ลูกค้ามาเลย์โอด “ซื้อไม่ได้แม้แต่กางเกงใน” หลังเจอภาษีอีคอมเมิร์ซใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - แหล่งข่าวเปิดเผยบริษัทอีคอมเมิร์ซชื่อดัง ลาซาดา (Lazada) ของอาลีบาบา กรุ๊ป เตรียมประกาศแผนการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม “ไทย” พบพนักงานลาซาดาที่สำนักงานใหญ่สิงคโปร์สั่งปลดมาตั้งแต่เริ่มต้นปี ส่วนลูกค้าลาซาดามาเลเซียโอด เจอภาษีนำเข้าสินค้าอีคอมเมิร์ซราคาต่ำใหม่เริ่มประเดิมใช้ กระทบการใช้ชีวิตทำราคาพุ่งตอนนี้ซื้อไม่ได้แม้กระทั่งกางเกงในแล้ว

TnGlobal สื่อธุรกิจของจีนรายงานวันจันทร์ (8 ม.ค.) ว่า บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ ลาซาดา (Lazada) ภายใต้อาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) ของมหาเศรษฐีจีน แจ็ค หม่า ได้สั่งปลดพนักงานไม่เพียงแต่ในสิงคโปร์ที่มีสำนักงานใหญ่ของลาซาดาตั้งอยู่แต่ทว่าทั่วทั้งทุกตลาดของลาซาดาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แหล่งข่าวจากลาซาดา มาเลเซียเปิดเผยกับ TnGlobal ในวันอาทิตย์ (7)

“ไม่ใช่เฉพาะแต่สิงคโปร์ มาเลเซียเองได้รับผกระทบ...และทุกตลาด ผมเห็นแผนกด้านการตลาด แผนก marketing solutions แผนกการพาณิชย์ แผนกการเติบโต ทั้งหมดได้รับผลกระทบ” แหล่งข่าวกล่าวและเสริมว่า “แต่ผมไม่มีตัวเลข (ตัวเลขของพนักงานที่ถูกปลดออก)”

แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า “แผนการปรับโครงสร้างใหม่จะถูกประกาศภายในวันที่ 15 มกราคม” และเสริมว่า “สำหรับตลาดมาเลเซีย ผมได้ยินว่าการชดเชยนั้นเป็นที่ยอมรับได้ แต่สิ่งที่เลวร้ายคือการประชุมจะไม่เกิดขึ้นก่อนสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ผู้คนต่างพากันตกตะลึงต่อข่าวการประกาศ”

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อสิงคโปร์ Edge Singapore รายงานว่า ลาซาดาได้สั่งปลดออกพนักงานบางส่วนในสิงคโปร์ในวันที่ 3 ม.ค. โดยพนักงานระดับล่างและระดับอาวุโสจากหลายแผนกรวมทีมพาณิชย์และทีมการตลาดได้รับผลกระทบ อ้างอิงจากรายงาน

สื่อสิงคโปร์รายงานเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 2 ม.ค.ซึ่งเป็นวันทำงาน พนักงานที่คาดว่าจะโดนสั่งปลดได้รับการนัดหมายล่วงหน้าสำหรับการพบเป็นการส่วนตัวกับแผนกบุคคลในวันที่ 3 ม.ค.

ในรายงานยังระบุว่า ลาซาดา สิงคโปร์นั้นดำเนินการโดยไม่มีแผนกประชาสัมพันธ์ของตัวเองมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ก่อนหน้า CNBC ของสหรัฐฯ รายงานว่า คาดว่าการปลดออกนี้จะกระทบทุกระดับ และจำนวนที่คาดว่าจะโดนปลดออกนั้นจะเป็นจำนวนหลายร้อยคน ซึ่งสิงคโปร์จะได้รับผลกระทบหนักสุด

สำหรับในไทย สื่อไทยภาคภาษาอังกฤษรายงานว่า แหล่งข่าวยืนยันว่า ลาซาดาไทยจะมีการสั่งปลดพนักงานออกเช่นกัน รวมไปถึงจะมีการให้พนักงานย้ายไปทำในตำแหน่งที่เหมาะสมมากขึ้นทั่วทั้งแผนกและระบบ

แหล่งข่าวในไทยยืนยันว่า ถึงแม้บริษัทจะทำกำไร แต่ทว่าอุตสาหกรรมมีการแข่งขันสูงและบริษัทจำเป็นต้องต้นทุนคงที่ (Fixed Cost)

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลาซาดาต้องแข่งขันอย่างดุเดือดกับบริษัทช้อปปี้ (Shopee) ที่มีฐานอยู่ในสิงคโปร์ และบริษัทอีคอมเมิร์ซอินโดนีเซีย Tokopedia รวมไปถึงตลาดอีคอมเมิร์ซอื่นๆ

เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แดนเสือเหลืองเริ่มต้นปี 2024 ด้วยการประกาศใช้มาตรการภาษีนำเข้าสินค้าอีคอมเมิร์ซราคาต่ำใหม่ เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่คลังมาเลเซีย และเป็นการปกป้องธุรกิจภายในประเทศสู้กับการทะลักเข้ามาของสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างแดน

หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ รายงานวันที่ 6 ม.ค.ก่อนหน้าว่า ผู้บริโภคมาเลเซียต่างเป็นเดือดเป็นแค้นต่อรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม เกือบทั้งสัปดาห์หลังจากจากภาษีสินคาราคาต่ำ LVG (Low Value Goods Tax) อัตรา 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมูลค่า 500 ริงกิตมาเลเซีย (3,776 บาท) หรือต่ำกว่านั้นที่ขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังทั้งหลายรวม ลาซาดา ช้อปปี้ เริ่มต้นบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค 

รัฐมนตรีการคลังมาเลเซียได้เคยประกาศเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ก่อนหน้าที่อัตราภาษีนำเข้าใหม่จะเริ่มบังคับใช้ว่า เป้าหมายเพื่อเปิดพื้นที่การแข่งขันให้ธุรกิจภายในประเทศเพื่อให้สามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศที่จำหน่ายทางออนไลน์

บรรดาผู้บริโภคแดนเสือเหลืองที่เป็นลูกค้าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซออนไลน์ทั้งหลายต่างไม่เห็นด้วย พร้อมโอดครวญว่า ภาษีนำเข้าจะทำให้กลายเป็นภาระเพิ่มต่อผู้บริโภคปลายทาง

ซึ่งสื่อภายในประเทศมาเลเซียได้รวบรวมผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นเป็นวงกว้างต่อราคาสุดท้ายหลังภาษีนำเข้าสินค้าอีคอมเมิร์ซราคาต่ำถูกนำมาใช้ทั้งบนลาซาดาและช้อปปี้ พบว่ามีสินค้าบางส่วนราคาเพิ่มขึ้นถึง 20%

“ใช่ ..เก็บภาษีพวกเราจนกระทั่งพวกเราไม่สามารถที่จะซื้อได้แม้กระทั่งกางเกงใน” หนึ่งในความเห็นผู้บริโภคแดนเสือเหลืองกล่าวอย่างโอดครวญบนเฟซบุ๊กที่มีต่อภาษีนำเข้าอีคอมเมิร์ซใหม่




กำลังโหลดความคิดเห็น