สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นออกมาเตือนเมื่อวันจันทร์ (8 ม.ค.) ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงซ้ำที่จังหวัดอิชิคาวะ (Ishikawa) ภายในช่วง 1 เดือนข้างหน้า ตามหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.6 เมื่อวันขึ้นปีใหม่ ขณะที่ยอดผู้สูญหายเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 300 คน
จำนวนพลเมืองในจังหวัดอิชิคาวะที่ยังตามหาตัวไม่พบเพิ่มขึ้นจาก 103 เป็น 323 คน ทว่าทางจังหวัดยังคงเร่งติดตามข่าวคราวของผู้สูญหายเหล่านี้ และมีความเป็นไปได้ที่บางคนอาจย้ายไปอยู่ที่อื่น หรือติดต่อไม่ได้ แต่ยังคงปลอดภัยดี
ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 168 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตในเมืองวาจิมะ (Wajima) และซูซุ (Suzu) เมืองละ 70 คน ขณะที่ภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยยังต้องเผชิญอุปสรรคจากหิมะและอุณหภูมิที่ลดต่ำลง
แผ่นดินไหวขนาด 7.6 แมกนิจูดที่คาบสมุทรโนโตะในจังหวัดอิชิคาวะเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมาได้ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิซัดฝั่ง อาคารบ้านเรือนพังถล่มเสียหาย และเกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ที่เมืองวาจิมะ และจนถึงขณะนี้ยังคงมีรายงานอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นอยู่เป็นระยะๆ
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเตือนว่า อาจจะยังมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีก
“แม้ความถี่ของแผ่นดินไหวจะค่อยๆ ลดลงในภาพรวม แต่ก็ยังสูงอยู่เมื่อเทียบกับเหตุแผ่นดินไหวที่นีงาตะเมื่อปี 2004 และแผ่นดินไหวที่คุมาโมโตะเมื่อปี 2016” ชินยะ ทสึคาดะ เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุฯ ญี่ปุ่น ระบุในงานแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (8)
เขาย้ำว่า แม้โอกาสในการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเหมือนเมื่อช่วงปีใหม่จะลดลงแล้ว “แต่ยังคงมีกิจกรรมแผ่นดินไหวเกิดขึ้นอยู่”
“ในช่วง 1 เดือนข้างหน้า ยังจำเป็นจะต้องเฝ้าระวังแผ่นดินไหวที่อาจมีความแรงตั้งแต่ระดับ 5 ขึ้นไป” เขากล่าว
พายุหิมะและสภาพอากาศที่หนาวเหน็บทำให้การกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก ขณะที่ทางการยังเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังอันตรายจากการสะสมของหิมะที่อาจทำให้บ้านเรือนซึ่งไม่มั่นคงอยู่แล้วพังถล่มเพิ่มเติม
ทางการญี่ปุ่นระบุว่า จนถึงเมื่อวานนี้ (8) ยังคงมีประชาชนกว่า 3,300 คนใน 24 เขตของเมืองต่างๆ ที่เข้าไม่ถึงความช่วยเหลือ เนื่องจากถนนหลายสายบนคาบสมุทรโนโตะได้รับความเสียหายจากทั้งแผ่นดินไหวและดินถล่มที่เกิดขึ้นมากถึง 1,000 จุด
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้เผยแพร่คลิปวิดีโอขณะที่กองกำลังป้องกันตนเองกลุ่มย่อยๆ ออกเดินเท้าเข้าไปยังพื้นที่ห่างไกลเพื่อจัดส่งความช่วยเหลือและอพยพประชาชน โดยทางกระทรวงได้ประกาศเสริมกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจบรรเทาทุกข์เพิ่มขึ้นเป็น 6,100 นาย และมีการใช้เรือ 9 ลำ และเครื่องบินอีก 40 ลำด้วย ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ยังไม่รวมตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากทั่วประเทศที่ถูกส่งเข้ามาช่วยในภารกิจกู้ภัยครั้งนี้
ที่มา : Japan Times