รัฐบาลสหรัฐฯ แสดงความไม่สบายใจวานนี้ (5 ม.ค.) หลังทราบข่าวว่าประธานาธิบดี เอวาริสต์ เอ็นดายิชิมิเย แห่งบุรุนดี ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนลงโทษกลุ่มคนรักเพศเดียวกันด้วยการ “ปาหิน”
คำพูดดังกล่าวสะท้อนความพยายามที่จะยกระดับกวาดล้างผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศในบุรุนดี ซึ่งกลุ่มคน LGBT นั้นนอกจากจะถูกสังคมคว่ำบาตรแล้ว และยังมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 2 ปี หากถูกพบว่ากระทำความผิดฐานรักร่วมเพศ
“สหรัฐฯ รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งกับคำพูดของประธานาธิบดี เอวาริสต์ เอ็นดายิชิมิเย ซึ่งพุ่งเป้าไปยังพลเมืองบุรุนดีที่เป็นกลุ่มคนชายขอบและเปราะบาง” แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุ
“เราขอเรียกร้องให้คณะผู้นำบุรุนดีทุกคนเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่มีมาแต่กำเนิด (inherent dignity) และสิทธิที่จะแยกออกจากบุคคลมิได้ (inalienable rights) ซึ่งรวมถึงสิทธิในการเข้าถึงความยุติธรรมสำหรับทุกๆ คนในสังคมบุรุนดี”
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ธ.ค.) เอ็นดายิชิมิเย ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนลงโทษชาวเกย์ด้วยการปาหิน โดยกล่าวกับสื่อมวลชนว่า “ถ้าพวกคุณอยากดึงดูดคำสาปแช่งมาสู่ประเทศของเรา ก็จงยอมรับการมีรสนิยมรักร่วมเพศ”
“ผมยังคิดด้วยซ้ำว่า หากเราพบคนเหล่านี้ในบุรุนดี ก็พาตัวพวกเขาไปยังสนามกีฬาแล้วช่วยกันปาหินใส่จะดีกว่า ทำแบบนี้ไม่บาปด้วย”
ผู้นำบุรุนดียังอ้างว่าการมีรสนิยมรักร่วมเพศนั้นคือสิ่งที่ถูก “นำเข้า” มาจากโลกตะวันตก
ทัศนคติของผู้นำบุรุนดีเป็นอีกหนึ่งตัวบ่งชี้ถึงกระแสต่อต้าน LGBT ที่กำลังแผ่ขยายในภูมิภาคแอฟริกา
เมื่อเดือน พ.ค. รัฐบาลยูกันดาได้ออกกฎหมายลงโทษประหารชีวิตสำหรับผู้กระทำความผิดฐานรักร่วมเพศบางอย่าง และกำหนดระวางโทษจำคุกเป็นเวลายาวนานสำหรับความผิดรักร่วมเพศในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงประณามรุนแรงจากชาติตะวันตกและบรรดานักสิทธิมนุษยชน
สหรัฐฯ ตอบโต้เรื่องนี้ด้วยมาตรการแซงก์ชันหลายอย่าง เช่น ใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง และถอดยูกันดาออกจากข้อตกลงยกเว้นภาษีศุลกากร ขณะที่ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ก็ระงับการอนุมัติเงินกู้ในอนาคตให้ชาติแอฟริกาตะวันออกแห่งนี้
นักการเมืองบางคนในเคนยา ซูดานใต้ และแทนซาเนีย ก็พยายามผลักดันกฎหมายต่อต้าน LGBT ในประเทศของตนเช่นกัน โดยอ้างว่าทำไปเพื่อปกป้องอธิปไตยและค่านิยมดั้งเดิมของชาวแอฟริกาจากอิทธิพลของชาติตะวันตกที่พยายามกดดันให้สังคมแอฟริกาต้องเปิดกว้างในเรื่องนี้
ที่มา : รอยเตอร์