เมืองใหญ่ที่สุดทั้ง 2 เมืองของยูเครนถูกโจมตีจากขีปนาวุธ ของรัสเซีย ในตอนเช้าวันอังคาร (2 ม.ค.) สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 5 รายและบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน ทั้งนี้ตามการแถลงของพวกเจ้าหน้าที่ ขณะที่สงครามนี้กำลังใกล้ถึงหลักหมายครบรอบ 2 ปี และกองกำลังฝ่ายหมีขาวเพิ่มระดับการถล่มโจมตีใส่พื้นที่เขตตัวเมืองใหญ่ในช่วงฤดูหนาว
กระทรวงมหาดไทยยูเครนแถลงในตอนค่ำวันอังคาร (2) ว่า การโจมตีซึ่งพุ่งเป้าเล่นงานกรุงเคียฟ และเมืองคาร์คิฟ ทำให้พลเรือนเสียชีวิตไป 5 คน และบาดเจ็บอีก 127 คน โดยที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถสอยขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก “คินซัล” ได้ทั้งหมด
ก่อนหน้านั้นหลายชั่วโมง ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวผ่านช่องของเขาบนแพลตฟอร์มเทเลแกรมว่า มีพลเรือน 4 คนเสียชีวิตและบาดเจ็บอีก 92 คนในเมืองหลวงเคียฟ และในเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก “คินซัล” ที่สามารถบินด้วยความเร็วเหนือเสียง 10 เท่าตัวของรัสเซีย พุ่งเข้าใส่กลุ่มอาคารต่างๆ ของเมืองทั้งสอง
เซเลนสกี้ยังกล่าวในโพสต์บนแพลตฟอร์ม เอ็กซ์ หรือทวิตเตอร์เดิมว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธชนิดต่างๆ รวมแล้วเกือบ 100 ลูก เขาอ้างว่ามีอย่างน้อย 70 ลูกถูกยิงตก แทบทั้งหมดเกิดขึ้นในพื้นที่ของกรุงเคียฟ พร้อมกับยกยอว่าพวกระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ฝ่ายตะวันตกจัดส่งให้ เป็นต้นว่า แพทริออต และ NASAMS ช่วยรักษาชีวิตผู้คนได้หลายร้อยคน
ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า ได้ยิงขีปนาวุธและใช้โดรนโจมตีใส่พวกสิ่งปลูกสร้างด้านอุตสาหกรรมทางทหารทั้งในและรอบๆ กรุงเคียฟ รวมทั้งยังเล็งเป้าใส่พวกคลังเก็บขีปนาวุธและเครื่องกระสุนซึ่งเหล่าชาติพันธมิตรตะวันตกส่งให้ยูเครน
“การโจมตีครั้งนี้บรรลุเป้าหมาย จุดที่ถูกกำหนดเป็นเป้าถูกเล่นงานทั้งหมด” คำแถลงของกระทรวงแดนหมีข่าวกล่าวโดยไม่ให้รายละเอียด โดยที่การตรวจสอบเพื่อยืนยันอย่างเป็นอิสระต่อการกล่าวอ้างของแต่ละฝ่ายนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถกระทำได้
เซเลนสกี้กล่าวว่า ตั้งแต่วันอาทิตย์ (31 ธ.ค.) กองกำลังรัสเซียได้ใช้โดรน “ชาเฮด” โจมตีราวๆ 170 ลำ และ “ขีปนาวุธประเภทต่างๆ รวมหลายสิบลูก” ในการระดมถล่มใส่เป้าหมายต่างๆ ของฝ่ายยูเครน โดยเขากล่าวหาว่าส่วนใหญ่ที่สุดมุ่งไปยังพวกพื้นที่พลเรือน
สำหรับขีปนาวุธทิ้งตัวไฮเปอร์โซนิกแบบยิงจากอากาศแบบ Kh-47M2 คินเซล เป็นอาวุธราคาแพงที่ฝ่ายรัสเซียน้อยครั้งจะนำมาใช้เล่นงานใส่ยูเครน สืบเนื่องจากในสต็อกของแดนหมีขาวมีขีปนาวุธชนิดนี้อยู่จำกัด
การโจมตีครั้งนี้ก่อให้เกิดบรรยากาศที่หดหู่อ้างว้างขึ้นมาในเมืองหลวงยูเครนในตอนเช้า โดยที่ร้านคาเฟ่และร้านอาหารแทบทั้งหมดยังคงปิดทำการ ผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะอยู่ภายในอาคาร หรือหาที่พักพิงตามสถานที่หลบภัยต่างๆ ขณะที่การระเบิดขนาดรุนแรงเขย่าเมืองกันเป็นระยะตั้งแต่ตอนเช้าตรู่
เสียงไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศแผดก้องอยู่เป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง และตามสถานีรถไฟใต้ดินแห่งต่างๆ ซึ่งถูกใช้เป็นที่หลบภัย มีผู้คนไปพักพิงกันอย่างแออัด
การถล่มในวันอังคาร ยังถือเป็นการขยายช่วงเวลาแห่งการยกระดับโจมตีใส่ยูเครนของฝ่ายรัสเซีย ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันศุกร์ (29 ธ.ค.) ด้วยการกระหน่ำถล่มใส่ยูเครนครั้งใหญ่ที่สุดหากนับกันเป็นรายครั้ง ตั้งแต่ที่สงครามคราวนี้เปิดฉากขึ้น โดยที่มีรายงานว่ามีพลเรือนถูกสังหารไปอย่างน้อย 41 คน
ในวันรุ่งขึ้น เมืองเบลโกร็อด ที่เป็นเมืองชายแดนของรัสเซียซึ่งอยู่ใกล้ๆ ยูเครน ก็ถูกระดมยิงใส่ด้วยปืนใหญ่และจรวด คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 20 คน รัสเซียได้ประณามยูเครนว่าเป็นตัวการทำการโจมตีคราวนี้ และจากนั้นก็ตอบโต้เอาคืนครั้งแล้วครั้งเล่านับแต่นั้น
การโจมตีใส่เบลโกร็อดในวันเสาร์ (30 ธ.ค.) ดังกล่าว คือหนึ่งในเหตุการณ์ครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่เกิดขึ้นบนดินแดนรัสเซีย นับตั้งแต่มอสโกเปิดการรุกรานอย่างเต็มขั้นใส่ยูเครนเมื่อกว่า 22 เดือนก่อน พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียระบุว่า นับจนถึงวันจันทร์ (1 ม.ค.) จำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 25 คน ในนี้เป็นเด็ก 5 คน
เมืองต่างๆ ทางด้านตะวันตกของรัสเซียได้ถูกโจมตีอยู่เป็นประจำโดยเฉพาะจากโดรนนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ถึงแม้พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนไม่เคยอ้างความรับผิดชอบในการโจมตีใส่ดินแดนของรัสเซียหรือใส่คาบสมุทรไครเมียซึ่งถูกแดนหมีขาวประกาศผนวกไปเป็นของตน
ปูติน แถลงในวันจันทร์ (1) โดยเรียกการโจมตีที่เบลโกร็อดว่าเป็น “พฤติการณ์ของผู้ก่อการร้าย” ซึ่งมุ่งเล่นงานพลเรือน และกล่าวด้วยว่า “พวกเขาต้องการที่จะข่มขู่ทำให้เรากลัว และสร้างความไม่แน่นอนขึ้นภายในประเทศของเรา เราจะโจมตีใส่อย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นอีก ต้องไม่มีอาชญากรรมที่กระทำต่อประชากรพลเรือนของเราแม้แต่ครั้งเดียวซึ่งจะหลุดรอดไปได้โดยไม่ถูกลงโทษ”
รัสเซียยังได้ปล่อยโดรนแบบชาเฮดจำนวนราว 90 ลำข้ามเข้าไปโจมตียูเครนในวันจันทร์
ปูตินกล่าวหาพวกชาติตะวันตกว่ากำลังใช้ยูเครนในการเล่นงานรัสเซีย ขณะที่เขาประกาศว่าจะต้องตอบโต้เอาคืน เขาก็ยืนกรานว่ารัสเซียจะพุ่งเป้าเล่นงานแต่เฉพาะพวกโครงสร้างพื้นฐานทางทหารในยูเครนเท่านั้น ถึงแม้ยูเครนรายงานการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนจากการโจมตีของรัสเซียอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
(ที่มา: เอพี, เอเอฟพี)