สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ของเดนมาร์ก กษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในยุโรป ทรงประกาศในวันอาทิตย์ (31 ธ.ค.) ว่าจะสละราชสมบัติ และพระราชสถานะองค์พระประมุขแห่งประเทศเดนมาร์ก ในวันที่ 14 มกราคม และส่งต่อให้แก่เจ้าชายเฟรเดอริค พระโอรสองค์โตพระชนมายุ 55 พรรษา
สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 พระชนมายุ 83 พรรษา ทรงครองราชย์มาอย่างยาวนาน 52 ปี และเป็นเพียงราชินีพระองค์เดียวของยุโรปที่มีพระราชสถานะองค์พระประมุขของประเทศ ตามหลังการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระประมุขแห่งสหราชอาณาจักร
พระองค์ได้รับการยกย่องสำหรับการปรับเปลี่ยนราชวงศ์เดนมาร์กอย่างพิถีพิถันให้มีความร่วมสมัย ในช่วงที่ทรงครองราชย์นานกว่าครึ่งศตวรรษ
คำประกาศอันน่าประหลาดใจของพระองค์ เกิดขึ้นระหว่างที่ทรงพระราชทานพรแก่พสกนิกรชาวเดนมาร์กผ่านสถานีโทรทัศน์ เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ โดยอ้างถึงพระชนมายุและปัญหาทางสุขภาพ "ในอีก 2 สัปดาห์ ข้าพเจ้าจะเป็นราชินีแห่งเดนมาร์กเป็นเวลา 52 ปี" พระองค์ตรัส
"ข้าพเจ้าตัดสินใจแล้วว่า นี่คือเวลาที่เหมาะสมแล้ว" สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานแก่พสกนิกรชาวเดนมาร์กในโอกาสขึ้นปีใหม่ซึ่งมีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ (31 ธ.ค.) และตอนหนึ่งของพระราชดำรัส ตรัสว่า เวลาผ่านมาเนิ่นนานและพระอาการประชวรก็มีมากมาย ทรงไม่สามารถรับมือกับสิ่งที่เคยทำได้เหมือนเมื่อครั้งอดีต
"ในวันที่ 14 มกราคม 2024 หรือ 52 ปี หลังจากข้าพเจ้าครองราชย์ต่อจากพระราชบิดาอันเป็นที่รักของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะสละราชสมบัติในฐานะสมเด็จพระราชินีนาถ ข้าพเจ้าจะส่งมอบราชสมบัติแก่มกุฎราชกุมารเฟรเดอริค"
ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 เคยตรัสซ้ำๆ ว่าไม่มีแผนสละราชสมบัติ แต่หลังเข้ารับการผ่าตัดพระปฤษฎางค์ (หลัง) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ได้ทำให้พระองค์ขบคิดเกี่ยวกับอนาคต ว่า ณ ตอนนี้ถึงเวลาเหมาะสมแล้วหรือไม่ที่จะส่งผ่านความรับผิดชอบสู่รุ่นถัดไป
นายกรัฐมนตรี เมตเต เฟรเดริกเซน ระบุในแถลงการณ์ว่า ในนามของประชาชนชาวเดนมาร์ก รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระราชินี ที่ทรงอุทิศพระองค์และทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อประเทศชาติมาโดยตลอด พระองค์คือแบบอย่างของชาวเดนมาร์ก
สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอ ทรงเป็นที่รักของชาวเดนมาร์ก เป็นที่รู้กันว่า พระองค์ชอบสูบบุหรี่ ปฏิเสธโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต เพราะมีความสุขมากกว่าหากไม่มีสิ่งเหล่านี้ พระองค์มักเสด็จตามถนนในกรุงโคเปนเฮเกน โดยที่แทบไม่มีการอารักขาใดๆ เลย ชาวเดนมาร์กยังชื่นชมพระปรีชาสามารถด้านภาษา และดีไซเนอร์ เรียนภาษาฝรั่งเศสและอังกฤษตั้งแต่ทรงพระเยาว์ และเรียนภาษาสวีเดนจากพระมารดา ทรงศึกษาธรณีวิทยา ปรัชญา รัฐศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งในกรุงโคเปนเฮเกน และเมืองออฮุส ในเดนมาร์ก และที่เคมบริดจ์
(ที่มา : เอเอฟพี)