ศาลรัสเซียได้พิพากษาลงโทษจำคุกนักรบชาวยูเครนกว่า 200 คน นับตั้งแต่มอสโกเริ่มต้นปฏิบัติการรุกรานยูเครนเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน
สำนักข่าว RIA ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียในวันนี้ (31 ธ.ค.) โดย ลาฟรอฟ กล่าวว่า “ระบบศาลของสหพันธรัฐรัสเซียได้พิพากษาลงโทษจำคุกเป็นระยะเวลายาวนานต่อผู้แทนกองกำลังของยูเครนกว่า 200 คนที่ก่อความรุนแรง”
ทั้ง 2 ฝ่ายต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่ากระทำความรุนแรงป่าเถื่อนในสงคราม ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) พบหลักฐาน “อย่างต่อเนื่อง” ว่ากองกำลังรัสเซียได้กระทำการอันเข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม และละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น การทรมาน ข่มขืน และบังคับส่งตัวเด็กชาวยูเครนไปยังแดนหมีขาว
เมื่อเดือน มี.ค. ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ได้ออกหมายจับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ในข้อหา “ก่ออาชญากรรมสงคราม” จากการบังคับส่งตัวเด็กๆ ยูเครนไปยังดินแดนของรัสเซีย
“บนเส้นทางสู่ความยุติธรรมของเรา ผลลัพธ์หลักๆ ในปีนี้ก็คือหมายจับ ปูติน ที่ออกโดยศาล ICC” อันดรี กอสติน อัยการสูงสุดยูเครน ระบุในคำแถลงสรุปสถานการณ์ส่งท้ายปี 2023 เมื่อวันเสาร์ (30)
“นี่คือคำตัดสินครั้งประวัติศาสตร์ และเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย” เขากล่าว
สำนักงานอัยการสูงสุดยูเครนได้บันทึกการก่ออาชญากรรมรุกราน (crime of aggression) และอาชญากรรมสงครามโดยรัสเซีย รวมทั้งสิ้นกว่า 121,000 กรณี นับตั้งแต่สงครามเริ่มปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ปีที่แล้ว ตามข้อมูลบนเว็บไซต์
ขณะเดียวกัน ยูเอ็นก็พบว่ามีหลายกรณีเช่นกันที่ทางการยูเครนเป็นฝ่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนบุคคลที่พวกเขาเชื่อว่าสมคบคิดกับรัสเซีย
ลาฟรอฟ เผยกับ RIA ว่า คณะกรรมการสืบสวน (Investigatve Committee) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการสืบสวนหลักของรัสเซียได้ยื่นฟ้องเอาผิดทางอาญาราว 4,000 คดีกับพลเมืองยูเครนราว 900 คน
“ไม่ใช่แค่สมาชิกองค์กรชาตินิยมสุดโต่ง ผู้แทนหน่วยงานความมั่นคงยูเครน หรือพวกทหารรับจ้างเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวแทนของผู้นำฝ่ายการเมืองและทหารของยูเครน” รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าว
“สำหรับพวกที่ถูกตั้งข้อหาลับหลัง (charge in absentia) ยังถูกขึ้นบัญชีนานาชาติเป็นบุคคลที่ทางการรัสเซียต้องการตัวด้วย”
ที่มา: รอยเตอร์