xs
xsm
sm
md
lg

เริ่มแบไต๋?? ‘เนทันยาฮู’ยันเงื่อนไขสันติภาพกาซาต้องไม่มีฮามาส พูดแพล็มๆอยากให้ชาวปาเลสไตน์อพยพหลบหนีไป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทหารอิสราเอลจิบเครื่องดื่ม ขณะอยู่ในยานสายพลลำเลียงพลหุ้มเกราะที่แล่นอยู่ใกล้ๆ ชายแดนอิสราเอล-กาซา ในภาคใต้ของอิสราเอล เมื่อวันจันทร์ (25 ธ.ค.)
“เนทันยาฮู”ยังคงประกาศกร้าว สันติภาพในกาซาจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อฮามาสถูกถอนรากถอนโคน กาซากลายเป็นเขตปลอดทหาร และสังคมปาเลสไตน์ปลอดจากลัทธิหัวรุนแรง ขณะที่องค์การอนามัยโลกเผยเรื่องราวสุดรันทดของหลายครอบครัวชาวปาเลสไตน์ซึ่งเสียชีวิตทั้งหมด จากการที่กองทัพรัฐยิวถล่มโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยที่กาซาในวันคริสต์มาสอีฟ

การโจมตีแบบไม่มีหยุดพักของอิสราเอลทำให้ดินแดนปาเลสไตน์พังพินาศย่อยยับ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน อย่างไรก็ดี แม้ทั่วโลกกดดันหนักขึ้นให้หยุดยิงในกาซา แต่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยังคงยืนกรานผ่านบทความพิเศษของเขาซึ่งเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อคืนวันจันทร์ (25 ธ.ค.) ว่า สันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ในกาซามีเงื่อนไขเบื้องต้น 3 ข้อคือ ฮามาสต้องถูกถอนรากถอนโคน กาซาต้องกลายเป็นเขตปลอดทหาร และสังคมปาเลสไตน์ต้องปลอดจากลัทธิหัวรุนแรง

เขาอธิบายว่า เขตปลอดทหารหมายความถึงการกำหนดเขตความมั่นคงชั่วคราวรอบฉนวนกาซา และในอนาคตอันใกล้อิสราเอลจะเข้ารับผิดชอบความมั่นคงในกาซา

ก่อนหน้านั้น เนทันยาฮูได้เดินทางเข้าไปยังกาซา และหลังจากเดินทางกลับได้บอกกับพวกสมาชิกพรรคลิคุดของตนว่า อิสราเอลจะไม่หยุด แต่จะโจมตีหนักขึ้นอีกในไม่กี่วันข้างหน้านี้

ในวันจันทร์ (25) ผู้อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย อัล-มากาซี บางคนกลับไปดูที่พักของพวกตนที่พังพินาศจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ (24) และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 คน โดยผู้รอดชีวิตบางคนยืนยันว่า อิสราเอลไม่มีการเตือนให้อพยพก่อนการโจมตี

ในอีกด้านหนึ่ง เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ พูดถึงเรื่องราวสะเทือนใจที่คณะเจ้าหน้าที่ WHO ได้รับฟังจากบุคลากรทางการแพทย์และเหยื่อ ระหว่างเดินทางไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่รักษาผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีค่ายอัล-มากาซี

“เด็กคนหนึ่งสูญเสียสมาชิกครอบครัวทั้งหมด พยาบาลคนหนึ่งในโรงพยาบาลแห่งนั้นก็เช่นกัน”

ฌอน เคซี ผู้ประสานงานทีมแพทย์ฉุกเฉินของ WHO ที่เดินทางไปยังโรงพยาบาลดังกล่าวด้วย เล่าเรื่องของเด็กชายวัย 9 ขวบคนนั้นที่อยู่ระหว่างการรักษาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดก่อนที่จะเสียชีวิต เนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งรวมถึงที่สมอง จากกระสุนลูกปรายและซากปรักหักพังหล่นทับ ขณะที่โรงพยาบาลขาดแคลนยาและอุปกรณ์การแพทย์ที่จะรักษา

“เด็กชายคนนั้นกำลังเดินข้ามถนนหน้าค่ายผู้อพยพที่สมาชิกครอบครัวทั้งหมดพักอยู่ในนั้น และอยู่ๆ อาคารด้านข้างก็ระเบิด”

นอกจากนั้น เจมมา คอนเนลล์ ผู้นำทีมเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในกาซานานหลายสัปดาห์ ก็กล่าวถึงสถานการณ์ “กระดานหมากรุกมนุษย์” ที่ผู้คนชาวกาซานับพันนับหมื่นต้องโยกย้ายที่อยู่อาศัยมาแล้วหลายรอบ ตามคำสั่งให้อพยพของกองทัพอิสราเอล ทว่าในตอนนี้ก็ยังถูกสั่งให้หลบหนีไปยังที่อื่นต่อไปอีก โดยไม่มีหลักประกันว่า จุดหมายปลายทางข้างหน้าจะปลอดภัยจริงๆ

ทางด้านโฆษกกองทัพอิสราเอลยังคงอ้างว่า พวกเขาปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งรวมถึงการดำเนินการขั้นตอนที่เป็นไปได้เพื่อลดอันตรายที่จะเกิดกับพลเรือนให้เหลือน้อยที่สุด พร้อมกล่าวหานักรบฮามาสใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์

ในวันจันทร์ ระหว่างประชุมกับสมาชิกพรรคลิคุด เนทันยาฮูยังกล่าวว่า พร้อมให้การสนับสนุนการอพยพออกจากฉนวนกาซาโดยสมัครใจ และสำทับว่า ปัญหาของอิสราเอลไม่ใช่เรื่องที่ว่า จะอนุญาตให้อพยพหรือไม่ แต่อยู่ที่ประเทศใดจะยินดีรับผู้อพยพเหล่านั้น

ท่าทีเช่นนี้ดูจะเป็นหลักฐานยืนยันข้อกล่าวหาของปาเลสไตน์และชาติอาหรับที่ว่า จุดมุ่งหมายแท้จริงประการหนึ่งของอิสราเอล ก็คือการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา เพื่อฮุบดินแดนนี้เป็นของตน อย่างเดียวกับที่เคยทำในตอนก่อตั้งรัฐอิสราเอลขึ้นมา

ทางฝ่ายฮามาสตอบโต้ว่า แผนการดังกล่าว “ไร้สาระ” และยืนยันว่า ชาวปาเลสไตน์จะไม่ย้ายออกไปจากดินแดนของตนเอง

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น