เอเจนซีส์ – พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงพระราชทานดำรัสเนื่องในวันคริสต์มาสแก่ผสกนิกรชาวอังกฤษ แสดงความชื่นชมการเสียสละของบรรดาอาสาสมัครแนวหน้าโดยชี้ว่า คนเหล่านี้เป็น “กระดูกสันหลังอังกฤษ” และตรัสเลยไปถึงสงครามยูเครนและความขัดแย้งอิสราเอลปาเลสไตน์ นำเหล่าสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงรวมเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเธอรีนพร้อมพระโอรสและพระธิดาเสด็จพระราชดำเนินไปยังโบสถ์ในซานดริงแฮมในเช้าวันคริสต์มาส ส่วนประชาชนแดนผู้ดีเตรียมรับช้อปมโหฬารวันบ็อกซิงเดย์ (Boxing Day) วันอังคาร(26 ธ.ค)
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันอังคาร(26 ธ.ค)ว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีพระราชดำรัสเนื่องในวันคริสต์มาสส่งออกไปยังประชาชนชาวอังกฤษและกลุ่มประเทศเครือจักรภพอังกฤษ 56 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ บาร์บาโดสและแอฟริกาใต้ เป็นต้น
โดยในปีนี้พระองค์ทรงให้ความสำคัญไปที่บรรดาอาสาสมัครทั้งหลาย โดยตรัสว่าทรงมีความปิติยินดีชื่นชมบรรดาเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจำนวนหลายร้อยคนและตัวแทนของพวกเขาที่เข้าร่วมพิธีบรมราชาภิเษกในวันที่ 6 พ.ค ปีนี้
พระองค์ทรงตรัสสรรเสริญอาสาสมัครอังกฤษว่า การปรากฏตัวของคนเหล่านี้ในงานแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพิธีในตัวมันเอง “และเหนือสิ่งอื่นใดเป็นเสียงเรียกร้องต่อพวกเราทั้งหมดให้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และแสดงความรักและการใส่ใจต่อทั้งหมด”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ในพระราชดำรัสวันคริสต์มาสปีนี้ พระประมุขแห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษยังกล่าวไปถึงสงครามยูเครโดยทรงชี้ปัญหาคนไร้บ้านที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศ และคนพลัดถิ่นเนื่องมาจากสงครามยูเครน โดยได้แสดงบทหนึ่งในคำภีร์ไบเบิลเพื่อชี้เป็นนัยถึงการแบ่งปันช่วยเหลือคนเหล่านี้ว่า เหมือนเมื่อครั้งที่โยเซฟและมารีย์ได้รับการช่วยเหลือให้ได้รับที่พักค้างคืนจากคนแปลกหน้า
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงพระราชทานพระราชดำรัสใกล้กับต้นคริสต์มาสที่สามารถนำกลับไปปลูกใหม่ได้เป็นที่ฮือฮาโดยในปีนี้พระเจ้ากรุงลอนดอนทรงย้ำถึงปัญหาภาวะโลกร้อนว่า “โลกจำเป็นต้องได้รับการปกป้องเพื่อลูกหลานของลูกๆของพวกเรา”
“ในช่วงชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีความปิติยินดีเป็นอย่างมากที่ได้เห็นการเติบโตของการตระหนักต่อการที่พวกเราจำเป็นต้องปกป้องดวงดาวของเราและโลกธรรมชาติของพวกเราในฐานะบ้านหลังเอกที่พวกเราทุกคนต้องอยู่ร่วมกัน”
ในพระราชดำรัส พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ยังได้ตรัสอย่างเป็นนัยไปถึงความขัดแย้งในกาซาและยูเครน
“ในช่วงเวลาที่มีความขัดแย้งที่โหดร้ายเพิ่มขึ้นทั่วโลก ข้าพเจ้าขอภาวนาให้พวกเราสามารถทำทุกสิ่งภายใต้อำนาจของพวกเราในการปกป้องซึ่งกันและกัน”
และเทศกาลคริสต์มาสซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์แต่ทว่าในอังกฤษที่มีศาสนาหลากหลายรวม ศาสนาอิสลาม และศาสนาซิกข์ พระองค์ทรงแสดงความชื่นชมที่ว่า ทุกศาสนาได้ร่วมแบ่งปันอาหารและการเฉลิมฉลองในเทศกาลที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบบรรดาประชาชนของทุกศาสนาหรือผู้ที่ประกาศไม่นับถือศาสนาใดในการดูแลโลกธรรมชาติ
เดอะการ์เดียนรายงานว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงพระราชทานดำรัสวันคริสต์มาสจากห้องท้องพระโรงกลางภายในพระราชวังบักกิงแฮมที่นำไปสู่สิงหบัญชร(เฉลียงที่ออกว่าราชการของพระเจ้าแผ่นดิน)
สื่ออังกฤษรายงานว่า และเมื่อช่วงต้นของวันจันทร์(25) พระราชาและพระราชินีอังกฤษเสด็จพระราชดำเนินพร้อมกับสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงไปยังโบสถ์ภายในพระตำหนักซานดริงแฮมเพื่อประกอบพิธีวันคริสต์มาสตามหลักศาสนา
สองข้างทางมีประชาชนร่วม 1,000 คนคอยเข้าเฝ้ารับเสด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาที่ต่างทรงถือพระกลดโดยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงถือร่มสีดำขนาดใหญ่ ส่วนพระราชินีทรงถือร่มสีดำสลับขาว
เดอะการ์เดียนชี้ว่า ประชาชนที่เป็นจำนวนมากอาศัยอยู่ในละแวกนั้นต้องรอเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อจะมีโอกาสได้เห็นการเสด็จเช้าวันคริสต์มาส
ความครื้นเครงเกิดขึ้นเมื่อเจ้าชายลูอีขโมยซีนระหว่างทรงจับพระหัตถ์พระญาติในวัยไล่เลี่ย มีอา ทินดัลล์ (Mia Tindall)อย่างน่ารักระหว่างตามเสด็จเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์และพระชายา เจ้าหญิงแคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ที่เสด็จมาพร้อมกับเจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ล็อต
เดอะการ์เดียนรายงานในขบวนเสด็จมีโอกาสได้เห็น ซาราห์ ดัชเชสแห่งยอร์ก อดีตพระชายาในเจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์กร่วมอยู่ในขบวนเป็นสัญญาณการกลับมาอีกครั้งต่อสาธารณะและต่อราชวงศ์หลังห่างหายนานถึง 32 ปี พระสวามีเจ้าชายแอนดรูว์เสด็จร่วมขบวนพร้อมเจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี
เทศกาลคริสต์มาสซึ่งเป็นเทศกาลรื่นเริงของฝั่งตะวันตก ชาวอังกฤษหลายร้อยคนต่างแสดงความกล้าด้วยการกระโดดลงทะเลและทะเลสาบที่มีน้ำเย็นเฉียบในการเริ่มต้นการเฉลิมฉลอง
ขณะเดียวกันในวันถัดจากคริสต์มาสที่เรียกกันว่าวันบ็อกซิงเดย์(Boxing Day)ที่ตามธรรมเนียมชาวอังกฤษจะออกไปช้อปปิ้งท่ามกลางการลดราคามโหฬารไม่แพ้วันแบล็กไฟรเดย์ (Black Friday)ของสหรัฐฯ
แต่ทว่าเดลีเทเลกราฟรายงานว่าปีนี้ ห้างร้านยังคงปิดต่อในวันบ็อกซิงเดย์ถึงแม้คาดว่าจะโวลูมการขายเพิ่มเป็นจำนวนมาก
มีการคาดการณ์ว่านักช้อปอังกฤษจะใช้เงิน 253 ปอนด์/คนในการจับจ่ายสำหรับวันสำคัญสูงขึ้น 67 ปอนด์จากปี 2022 และผู้ชายอังกฤษคาดจะใช้เงินสูงกว่าผู้หญิง 90 ปอนด์ในการจับจ่าย อ้างอิงการวิจัยผู้บริโภคจากธนาคารบาร์เคลย์(Barclays)
ตามธรรมเนียมการช้อปปิ้งหลังวันคริสต์มาสจะเห็นชาวอังกฤษต่อแถวเข้าคิวเพื่อเข้าไปช้อปในร้านชื่อดังทั้งหลายที่มีการจัดแคมเปญลดถล่มทะลายถึง 50%
แต่ในปีนี่มีไม่กี่ร้านแบรนด์ดังพากันปิดร้านแต่หันไปพึ่งการจำหน่ายทางออนไลน์แทน โดยพบว่ามากกว่า 3 ใน 4 ของผู้บริโภคอังกฤษเลือกที่จะช้อปออนไลน์มากกว่า อ้างอิงจากข้อมูล
