พระสันตะปาปาฟรานซิสเรียกร้องให้ยุติสงครามในกาซาและยูเครน ในพิธีมิสซาเฉลิมฉลองคริสต์มาส ขณะที่สงครามกวาดล้างฮามาสของอิสราเอลและการรุกรานยูเครนของรัสเซียทำลายบรรยากาศหนึ่งในเทศกาลวันหยุดที่สำคัญที่สุดของโลก
พระสันตะปาปาตรัสเมื่อวันอาทิตย์ (24 ธ.ค.) ระหว่างพิธีมิสซาในวันคริสต์มาสอีฟว่า ทรงคิดถึงผู้ที่ต้องทุกข์ทรมานจากสงคราม ทั้งชาวปาเลสไตน์ อิสราเอล และยูเครน และเสริมว่า หัวใจของชาวคริสต์รวมเป็นหนึ่งเดียวที่เบธเลเฮม ที่ซึ่งพระเยซูคริสต์ถูกปฏิเสธอีกครั้งจากตรรกะไร้ประโยชน์ของสงคราม การทำลายล้างด้วยอาวุธแม้แต่ในวันคริสต์มาสอีฟ และทำให้โลกนี้ไม่มีสถานที่สำหรับพระเยซู
ต่อมา ในวันจันทร์ (25) ณ พิธีมิสซาประจำปีเนื่องในวันคริสต์มาส ประมุขคริสตจักรคาทอลิกย้ำเรียกร้องให้ยุติสงครามทุกๆ สงคราม ซึ่งพระองค์ระบุว่าเป็นการเดินทางที่ไร้จุดมุ่งหมาย เป็นความพ่ายแพ้ที่ปราศจากผู้ชนะ เป็นความเขลาที่ไม่สามารถให้อภัยได้
ที่เมืองเบธเลเฮม ในเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์ที่ตกอยู่ใต้การยึดครองของกองทัพอิสราเอล เป็นสถานที่ซึ่งชาวคริสต์เชื่อว่า เป็นที่ประสูติของพระเยซูเมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน ปีนี้ได้ยกเลิกงานฉลองคริสต์มาสที่ปกติแล้วดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นพันเป็นหมื่นคน รวมทั้งงดการตกแต่งต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ การแสดงวงโยธวาทิต และฉากการประสูติของพระเยซู โดยมีกแต่การประดับไฟเล็กน้อยเท่านั้น
บริเวณกลางเมืองปรากฏธงปาเลสไตน์ขนาดใหญ่พร้อมป้ายที่มีข้อความว่า “ระฆังเบธเลเฮมกังวานก้องเรียกร้องการหยุดยิงในกาซา”
ปิเอร์บาตติสตา พิซซาบอลลา หัวหน้าบาทหลวงละตินแห่งเยรูซาเลม กล่าวว่า ไม่ได้สวดมนตร์ภาวนาให้มีการหยุดยิงในกาซาเท่านั้น แต่ยังขอให้หยุดยั้งการเป็นปฏิปักษ์เพื่อเริ่มต้นยุคใหม่ เพราะความรุนแรงรังแต่นำไปสู่ความรุนแรงเท่านั้น
ซิสเตอร์นาบิลา ซาลาห์ จากคริสตจักรคาทอลิกในกาซา ที่ผู้หญิงคริสเตียน 2 คนถูกพลซุ่มยิงอิสราเอลสังหารเสียชีวิตเมื่อต้นเดือนนี้ บอกกับเอเอฟพีว่า พิธีฉลองคริสต์มาสทั้งหมดถูกยกเลิก
“เราจะฉลองได้อย่างไรขณะที่รอบข้างมีแต่เสียงรถถังและระเบิด แทนที่จะเป็นเสียงระฆัง”
ส่วนที่ซีเรีย มีการจัดพิธีฉลองในโบสถ์แบบจำกัดเพื่อร่วมส่งกำลังใจให้ชาวปาเลสไตน์
ทั้งนี้ การจู่โจมบุกอิสราเอลของนักรบฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,140 คน และอีก 250 คนถูกจับเป็นตัวประกันกลับไปกาซา ซึ่งขณะนี้ยังเหลือตัวประกันที่ถูกคุมขังราว 129 คน
ทางด้านอิสราเอลได้ตอบโต้ด้วยการถล่มโจมตีทางอากาศและรุกรานภาคพื้นดินเข้าสู่กาซา ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 20,400 คนแล้ว
สำหรับที่ยูเครนที่ถูกรัสเซียรุกรานเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้ว ประชาชนฉลองคริสต์มาสกันในวันที่ 25 ธ.ค. เป็นครั้งแรก หลังทางการยูเครนยกเลิกการฉลองคริสต์มาสตามวันเวลาของนิกายออร์โธด็อกซ์แบบรัสเซียซึ่งจะอยู่ในวันที่ 7 ม.ค. และถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของพวกผู้นำเคียฟที่ต้องการตัดขาดความเกี่ยวข้องผูกพันซึ่งมีมาอย่างยาวนานกับรัสเซีย
ในส่วนของพวกประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสงคราม ผู้คนมากมากมายสวมหมวกซานตาฉลองอย่างรื่นเริงในรูปแบบต่างๆ เช่น วิ่งแข่งในกรุงสโกเปีย ของมาซิโดเนียเหนือ โต้คลื่นในฟลอริดา หรือดื่มฉลองที่ทะเลสาบเจนีวา ขณะที่เด็กๆ ทั่วโลกเข้าร่วมกิจกรรมติดตามการเดินทางของซานตา กวางเรนเดียร์ และรถลากเลื่อนหิมะ ด้วย “ความช่วยเหลือ” ของ “นอราด แทร็กส์ ซานตา” ซึ่งเป็นเว็บไซต์ 3 มิติระบบอินเตอร์แอกทีฟที่ดำเนินการโดยหน่วยงานติดตามตรวจสอบทางทหารของอเมริกา-แคนาดา
ที่ตอนใต้ของตุรกีซึ่งเกิดแผ่นดินไหวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50,000 คนในตุรกีและอีกกว่า 5,000 คนในซีเรียนั้น ชาวคริสต์บางคนร่วมทำพิธีมิสซาหน้าซากโบสถ์ในเมืองอันทาเคีย
เช่นเดียวกับที่ชายฝั่งในเขตซามานดา มีการประดับไฟบนต้นไม้หน้าโบสถ์เซนต์อิลยาสที่รอดพ้นจากแผ่นดินไหว
บาทหลวงยูมูร์ตากล่าวว่า หลังแผ่นดินไหว ชุมชนที่มีประชากร 400 ครอบครัวถูกทำลายหมดสิ้น “เราปรารถนาให้ทุกคนเกิดใหม่ และเราปรารถนาในความรัก ความสุข และสันติภาพ เราต้องก้าวต่อไปเพื่อฟื้นฟูชีวิตใหม่”
(ที่มา: เอเอฟพี, MGRออนไลน์)