ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) พบสัญญาณบ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือเริ่มเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ตัวที่ 2 ที่โรงงานยองบยอน (Yongbyon) บ่งบอกว่าโสมแดงจะมีแหล่งผลิต “พลูโตเนียม” สำหรับใช้ทำอาวุธนิวเคลียร์ได้มากขึ้นอีก
IAEA ระบุในถ้อยแถลงวานนี้ (21 ธ.ค.) ว่าเกาหลีเหนือนำเชื้อเพลิงใช้แล้วจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาด 5 เมกะวัตต์ที่ยองบยอนมาใช้สกัดพลูโตเนียมเพื่อทำอาวุธนิวเคลียร์นานหลายปีแล้ว ทว่าน้ำที่ถูกปล่อยออกจากเตาปฏิกรณ์น้ำมวลเบา (light-water reactor - LWR) อีกตัวซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าบ่งชี้ว่ามันได้ถูกเปิดใช้งานแล้วเช่นกัน
“การปล่อยน้ำอุ่นเป็นตัวบ่งชี้ว่าเตาปฏิกรณ์ถูกเดินเครื่องจนถึงค่าวิกฤต (criticality) แล้ว” ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการ IAEA ระบุในคำแถลง ซึ่งหมายถึงปฏิกิริยาลูกโซ่นิวเคลียร์ภายในเตาปฏิกรณ์อยู่ในระดับที่ดำเนินไปด้วยตัวเองได้ (self-sustianing)
IAEA ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบกิจกรรมนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้อีกหลังถูกเปียงยางขับไล่ผู้ตรวจสอบออกมาในปี 2009 และปัจจุบันต้องใช้วิธีสังเกตการณ์จากระยะไกลด้วยภาพถ่ายดาวเทียมเป็นหลัก
เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้โดยตรง กรอสซี จึงย้ำว่า IAEA ยังไม่สามารถยืนยันสถานะของเตาปฏิกรณ์ตัวดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตาม IAEA ได้สังเกตพบว่า ระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์น้ำมวลเบาตัวนี้มีการปล่อยน้ำปริมาณมากออกมาตั้งแต่เดือน ต.ค. ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงการเดินเครื่อง และจากข้อบ่งชี้อื่นๆ ที่พบในระยะหลังก็ยืนยันได้ว่า น้ำที่ปล่อยออกมาเป็น “น้ำอุ่น”
“LWR ก็เหมือนเตาปฏิกรณ์ประเภทอื่นๆ ที่สามารถนำกากเชื้อเพลิงใช้แล้วที่ยังคงแผ่รังสี (irradiated fuel) มาใช้ผลิตพลูโตเนียมได้ โดยผ่านกระบวนการ reprocessing ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่น่ากังวล” กรอสซี กล่าว
เตาปฏิกรณ์น้ำมวลเบาตัวนี้ดูเหมือนว่าจะสร้างเสร็จสิ้นมาหลายปีแล้ว ทว่ายังไม่เคยถูกเปิดใช้งานจริงมาก่อน
ที่มา : รอยเตอร์