รัฐบาลมาเลเซียกำหนดมาตรการแบนเรือสินค้าติดธงอิสราเอลไม่ให้เข้าเทียบท่าเรือทุกแห่งในประเทศ เพื่อการประท้วงปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลต่อฉนวนกาซาที่มาเลเซียเห็นว่าละเลย “หลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน”
นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย ระบุในคำแถลงวันนี้ (20 ธ.ค.) ว่า เรือสินค้าทุกลำที่จะมุ่งหน้าไปอิสราเอลจะถูกห้ามไม่ให้ขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือของมาเลเซียด้วย โดยมาตรการนี้มีผลบังคับทันที
ผู้นำเสือเหลืองอ้างถึง ZIM ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งทางเรือรายใหญ่ที่สุดของอิสราเอล โดยก่อนหน้านี้ทางบริษัทเคยได้รับอนุญาตจากคณะรัฐมนตรีมาเลเซียให้นำเรือสินค้าเข้าจอดเทียบท่าได้ตั้งแต่ปี 2002 ทว่าการอนุญาตดังกล่าวจะถูกยกเลิกตามคำสั่งล่าสุดของ อันวาร์
“รัฐบาลมาเลเซียตัดสินใจห้ามและเพิกถอนการอนุญาตให้ ZIM ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือของอิสราเอลนำเรือเข้าจอดที่ท่าเรือทุกแห่งของมาเลเซีย” อันวาร์ กล่าว
“มาตรการคว่ำบาตรนี้มีขึ้นเพื่อตอบโต้การกระทำของอิสราเอลซึ่งไม่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศด้วยการสังหารหมู่และใช้ความป่าเถื่อนต่อชาวปาเลสไตน์อย่างไม่หยุดหย่อน”
ผู้นำมาเลเซียระบุด้วยว่า รัฐบาลของเขา “ตัดสินใจที่จะไม่อนุญาตให้เรือที่ติดธงอิสราเอลเข้าจอดเทียบท่าในประเทศ และเรือทุกลำที่จะมุ่งหน้าสู่อิสราเอลจะไม่สามารถขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือมาเลเซียได้”
มาเลเซียไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล และ อันวาร์ ยืนยันว่ามาตรการแบนเรือสินค้าครั้งนี้จะไม่กระทบต่อการค้าของมาเลเซียอย่างแน่นอน
สงครามครั้งนี้เริ่มปะทุขึ้นจากการที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีภาคใต้ของอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบ และสังหารผู้คนไปราว 1,200 คนเมื่อวันที่ 7 ต.ค. อีกทั้งยังจับชาวอิสราเอลและต่างชาติไปเป็นตัวประกันอีกราว 250 คน
รัฐบาลอิสราเอลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ได้เริ่มใช้ปฏิบัติการทางทหารทิ้งระเบิดโจมตีดินแดนกาซาควบคู่ไปกับปฏิบัติการภาคพื้นดินตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือนมาแล้ว ซึ่งทำให้พลเรือนกาซาเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 19,667 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซา
ที่มา: เอเอฟพี