เกิดเหตุแผ่นดินไหวความแรง 6.2 เขย่ามณฑลกานซู่ของจีนเมื่อกลางดึกวันจันทร์ (18 ธ.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 127 คน บาดเจ็บอีกนับร้อย ขณะที่ปฏิบัติการกู้ภัยต้องเผชิญความยากลำบากจากอากาศที่หนาวเย็นติดลบ
สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี) รายงานว่า บ้านเรือนกว่า 155,000 หลังในกานซู่ ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ และเป็นมณฑลที่ยากจนที่สุดของจีน ได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.59 น. วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นของจีน โดยจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร ขณะที่จุดศูนย์กลางเหนือแผ่นดินไหวอยู่ที่ตำบลหลิ่วโกว ห่างจากที่ตั้งของอำเภอปกครองตนเองจีสือซาน กลุ่มชาติพันธุ์เป่าอัน ตงเซียง และซาลา ในแคว้นปกครองตนเองหลินเซี่ย กลุ่มชาติพันธุ์หุย ของกานซู่ราว 8 กิโลเมตร บริเวณนี้ยังอยู่ห่างจากเขตแดนระหว่างมณฑลกานซู่กับมณฑลชิงไห่ 5 กิโลเมตร ทั้งนี้แรงสั่นสะเทือนซึ่งเกิดขึ้นรับรู้ไกลถึงมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของประเทศที่อยู่ไกลออกไปถึง 1,000 กิโลเมตร
ทางการจีนได้ส่งหน่วยรับมือเหตุฉุกเฉินจำนวนมากไปยังสถานที่ประสบภัย หลังจากแผ่นดินไหวทำให้ถนนและโครงสร้างพื้นฐานเสียหาย รวมทั้งเกิดดินถล่ม ทว่า ปฏิบัติการกู้ภัยต้องเผชิญความท้าทายจากอุณหภูมิหนาวยะเยือก หลังจากทั่วประเทศจีนเพิ่งเผชิญอากาศหนาวเย็นสุดขั้วช่วงสั้นๆ ก่อนหน้านี้
แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติในหลายพื้นที่ของประเทศจีน รวมทั้งเขตมณฑลกานซู่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต ที่แผ่นเปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลง โดยเหตุแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษของจีนเกิดขึ้นในปี 2008 ที่มณฑลเสฉวน วัดความแรงได้ 8.0 และมีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายกว่า 87,000 คน ซึ่งรวมถึงเด็กนักเรียน 5,335 คน
เฉพาะที่กานซู่ แผนดินไหวครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 113 คน และบาดเจ็บ 536 คน ขณะเดียวกันก็พบผู้เสียชีวิตในเขตมณฑลชิงไห่อย่างน้อย 14 คน และบาดเจ็บ 198 คน นอกจากนั้นยังมีผู้สูญหาย 20 คน
ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เรียกร้องเมื่อเช้าวันอังคารให้เจ้าหน้าที่ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดเพื่อค้นหาและกู้ภัย
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า เจ้าหน้าที่ราว 2,200 คนของฝ่ายดับเพลิงในมณฑลกานซู่ และอีก 900 คนจากหน่วยงานป่าไม้ ตลอดจนเจ้าหน้าที่กู้ภัยมืออาชีพ 260 คน ทหารและตำรวจอีกหลายร้อยนาย ถูกส่งไปยังพื้นที่ประสบภัยแล้ว
มณฑลกานซู่ยังจัดสรรเงิน 20 ล้านหยวน (2.8 ล้านดอลลาร์) ให้แก่รัฐบาลท้องถิ่นเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งจัดส่งข้าวของเครื่องใช้จำเป็น เช่น เต็นท์ 2,600 หลัง, เตียงพับ ผ้าห่ม และที่นอน10,400 ชุด และเตา 1,000 ชุดไปมอบให้ผู้ประสบภัย
เจ้าหน้าที่ของอำเภอจีสือซานที่มีประชากรราว 260,000 คน บอกว่า รัฐบาลท้องถิ่นขาดแคลนทรัพยากรและต้องพึ่งพิงรัฐบาลของกานซู่
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เนื่องจากพื้นที่ประสบภัยตั้งอยู่ในที่สูงซึ่งอากาศหนาวเย็น ความพยายามในการกู้ภัยจึงต้องคำนึงถึงการป้องกันภัยพิบัติที่อาจเกิดตามมาจากปัจจัยต่างๆ นอกเหนือจากแผ่นดินไหว
ทั้งนี้ อุณหภูมิที่หลินเซี่ย ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดแผ่นดินไหว ติดลบราว 14 องศาเซลเซียสเมื่อช่วงเช้าวันอังคาร
นอกจากนั้นแม้ช่วงเวลา 72 ชั่วโมงหลังแผ่นดินไหวเป็นช่วงเวลาที่มีแนวโน้มช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้มากที่สุด ทว่า สภาพอากาศที่รุนแรงลดทอนให้ระยะเวลาดังกล่าวสั้นลง ส่งผลให้ผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ในที่เกิดเหตุมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
ระบบประปา ไฟฟ้า ขนส่ง และการสื่อสาร ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ได้รับความเสียหายบางส่วน เช่นเดียวกับทางหลวงและถนนในชนบทหลายสายที่เกิดเหตุดินถล่ม แม้ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็ตาม
สื่อของทางการจีนรายงานว่า หลังจากแผ่นดินไหวแล้ว ยังตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกอย่างน้อย 32 ครั้งในช่วงชั่วโมงแรกหลังแผ่นดินไหว โดยที่ 9 ครั้งมีระดับความรุนแรง 3.0 ขึ้นไป 2 ครั้งในจำนวนนี้มีความรุนแรงอย่างน้อย 4.0
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)