“ปูติน”ยอมรับกับทีวีรัสเซีย ตัวเอง “อ่อนหัด” ตอนเข้าบริหารประเทศใหม่ๆ คิดว่า ตะวันตกจะสานสัมพันธ์อันดีหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต แต่กลับกลายเป็นว่า ตะวันตกวางแผนแบ่งแยกรัสเซียเป็นเสี่ยงๆ ประมุขวังเครมลินยังสำทับว่า มอสโกไม่มีเหตุผลแม้เพียงน้อยนิดในการเข้าโจมตีนาโต ซึ่งนาโตเองก็รู้ดี แต่ทั้งหมดเป็นความพยายามของ “ไบเดน” ที่ต้องการสร้างความชอบธรรมให้กับนโยบายเกี่ยวกับรัสเซียที่ผิดพลาดของเขาเอง
ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับพาเวล ซารูบิน ผู้สื่อข่าวชาวรัสเซีย ที่นำออกอากาศทางทีวีช่อง “รอสซิยา-1” ของทางการแดนหมีขาวเมื่อวันอาทิตย์ (17 ธ.ค.) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยอมรับว่า ตนเป็น “ผู้นำอ่อนหัด” ในช่วงต้นของเส้นทางการเมืองแม้มีภูมิหลังแน่นปึ้กด้านข่าวกรองในยุคโซเวียตก็ตาม
ประมุขวังเครมลินเสริมว่า เขาเชื่อว่าตะวันตกมีความเเข้าใจว่ารัสเซียเป็นประเทศที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงไปแล้วหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต และรัสเซียไม่มีความแตกต่างทางอุดมการณ์ที่บ่งชี้แนวโน้มการเผชิญหน้ารุนแรงกับฝ่ายตะวันตก โดยแม้เมื่อเห็นตะวันตกพยายามสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายและพวกแบ่งแยกดินแดนในรัสเซียเมื่อสองทศวรรษที่แล้ว เขายังโทษว่า เป็นเพราะความเฉื่อยชาทางความคิดของตะวันตกซึ่งยังคุ้นเคยกับการต่อสู้กับสหภาพโซเวียตมาก่อนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ปูตินบอกว่า จริงๆ แล้วตะวันตกจงใจทอนอำนาจรัสเซีย ด้วยการอดทนรอจังหวะแบ่งรัสเซียออกเป็นเสี่ยงๆ หลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย
ผู้นำรัสเซียสำทับว่า ตะวันตกไม่เห็นความจำเป็นที่จะปล่อยให้รัสเซียซึ่งเป็นประเทศใหญ่ที่สุดในโลกและมีประชากรมากมายจะต้องดำรงอยู่ต่อไป แต่จะเป็นการดีกว่าที่จะแบ่งแยกรัสเซียออกเป็น 5 ส่วนและเข้าควบคุมทีละส่วน อันเป็นการทำตามความเห็นของซบิกนิว เบรซซินสกี้ อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ซึ่งเผยแพร่อยู่ในบทความเมื่อปี 1997 ที่เขาแนะนำให้มอสโกละทิ้งความพยายามที่ไร้ประโยชน์ในการฟื้นสถานะความเป็นมหาอำนาจของโลก
เบรซซินสกี้ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2017 นั้น เป็นผู้กระตือรือร้นสนับสนุนให้เข้าปิดล้อมโซเวียต เขามองว่า การทำให้รัสเซียกลายเป็นสมาพันธรัฐแบบหลวมๆ ที่ประกอบด้วยรัสเซียในยุโรป สาธารณรัฐในไซบีเรีย และสาธารณรัฐในตะวันออกไกล จะช่วยส่งเสริมการสร้างสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน
ปูตินยังย้ำว่า ตะวันตกมีแผนแบ่งแยกรัสเซียออกเป็นหลายรัฐ พร้อมกับเตือนว่าประชาชนชาวรัสเซียจะไม่ดำรงคงอยู่อีกต่อไปหากสิ่งนี้เกิดขึ้นมา และสำทับว่าการที่รัสเซียเป็นเอกภาพอย่างต่อเนื่องต่อไป คือเงื่อนไขสำคัญสำหรับความสำเร็จของรัสเซีย
นอกจากนั้นเมื่อถูกขอให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพูดของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของอเมริกา เมื่อต้นเดือนนี้ที่ว่า มอสโกอาจโจมตีประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลตติกเหนือ (นาโต) หลังพิชิตยูเครนนั้น ปูตินวิจารณ์ว่า “เหลวไหล” และเขาคิดว่า ผู้นำสหรัฐฯ แค่ต้องการเล่นสำนวนเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับนโยบายเกี่ยวกับรัสเซียที่ผิดพลาดของตนเอง พร้อมย้ำว่า เขาไม่เชื่อว่ากระทั่งมอสโกประสบ “ความพ่ายแพ้ในทางยุทธศาสตร์” มันจะกลายเป็นผลประโยชน์ให้แก่อเมริกา
ประมุขรัสเซียร่ายต่อว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเขาเรียกว่า “นาย” ของนาโต รู้อย่างแน่นอนว่า รัสเซียไม่มีผลประโยชน์ทั้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ หรือการทหาร ในการทำสงครามกับนาโต และเสริมว่า รัสเซียไม่ได้อ้างกรรมสิทธิ์ใดๆ เหนือดินแดนของรัฐสมาชิกนาโตเลย รวมทั้งไม่มีข้อพิพาทใดๆ กับชาติเพื่อนบ้านในกลุ่มนอร์ดิก โดยที่การอ้างสิทธิ์ทางอาณาเขตหลังสุดนั้นได้รับการไกล่เกลี่ยตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงแล้ว
ปูตินกล่าวว่า รัสเซียกับพวกชาติเพื่อนบ้านในกลุ่มนอร์ดิกเคยมีความสัมพันธ์ที่ตรงไปตรงมาและจริงใจที่สุด แต่ตอนนี้กำลังจะมีปัญหาขึ้นมา เมื่อฟินแลนด์ตัดสินใจเข้าเป็นสมาชิกนาโต ดังนั้นรัสเซียจึงถูกกดดันให้ต้องสร้างเขตการทหารเลนินกราดและประจำการกองทหารบางหน่วยที่นั่น
ประธานาธิบดีรัสเซียยังบอกอีกว่า มอสโกไม่ได้ทะเลาะกับสมาชิกชาติอื่นๆ ของนาโต แต่ประเทศเหล่านั้นต่างหากที่พยายามสร้างปัญหากับรัสเซียเพราะไม่ต้องการให้มีรัสเซียซึ่งมีฐานะเป็นคู่แข่ง
(อาร์ที, เอเจนซีส์)