มีชาวอเมริกากลายเป็นคนไร้บ้านเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมา ตามรายงานที่เผยแพร่โดยกระทรวงการเคหะและพัฒนาเมืองสหรัฐฯ (HUD) เมื่อวันศุกร์(15ธ.ค.) โดยกระทรวงฯแห่งนี้กล่าวโทษไปที่ ภาวเงินเฟ้อ ปัญหาขาดแคลนบ้านและการหมดอายุของมาตรการป้องกันการขับไล่ผู้อยู่อาศัยให้ออกจากพื้นที่เช่า ระหว่างโรคระบาดใหญ่โควิด-19
การนับจำนวนคนไร้บ้านชาวอเมริกาแบบรายปีของ HUD แตะระดับ 653,104 รายในเดือนมกราคม สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่หน่วยงานแห่งนี้ริเริ่มใช้ระบบปัจจุบันในการนับคนไร้บ้านในปี 2007 ตัวเลขนี้นับว่าเพิ่มขึ้น 12% จากการนับเมื่อปีก่อน
จากข้อมูลของ HUD พบว่าคนไร้บ้านครั้งแรกมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเพิ่มขึ้นถึง 25% ส่วนใหญ่มีแรงขับเคลื่อนจากค่าเช่าที่พุ่งสูงและการยกเลิกโครงการควบคุมค่าเช่าในยุคโรคระบาดใหญ่ และในขณะเดียวกัน รายงานระบุว่าเกือบ 1 ใน 3(30%) ของประชากรคนไร้บ้าน ไม่มีที่อยู่อาศัยมาเป็นเวลานานแล้ว
ท่ามกลางตัวเลขที่เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มประชากร รายงานของ HUD ระบุว่ากลุ่มคนในครอบครัวที่มีเด็กๆ เป็นกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายสุด โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 15.5% ของคนไร้บ้าน รวมแล้วเท่ากับ 28% ของประชากรคนไร้บ้านทั้งหมดในปี 2023
HUD ยอมรับว่าบ้านเช่าขาดแคลนผิดปกติในปี 2022 โดยเรียกมันว่าเป็นความท้ามายของตลาด แต่เน้นย้ำว่าโครงการก่อสร้างอันเฟื่องฟูที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ได้ช่วยคลี่คลายปัญหานี้
อย่างไรก็ตามวิกฤตด้านความสามารถในการเข้าถึงยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอัตราค่าเช่าบ้านมัธยฐานหรืออัตราค่าเช่ากลาง (median rental rate) เพิ่มขึ้นมาถึง 18.8% ระหว่างปี 2001 ถึง 2022 ปรับตามเงินเฟ้อ ขณะที่ค่ามัธยฐานของรายได้(ค่ากลางของรายได้) เพิ่มขึ้นเพียง 4.3% ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้รายงานฉบับหนึ่งที่เผยแพร่โดย Moody’s Analytics ก่อนหน้านี้ในปีนี้ พบว่าเกือบ 30% ในรายได้เฉลี่ยของแต่ละครัวเรือน ถูกนำไปใช้จ่ายในเรื่องของค่าเช่า
ตัวเลขคนไร้บ้านที่เลวร้ายลง มีขึ้น 1 ปีหลังจากรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน อ้างว่าสามารถ "ชะลอการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของคนเร่ร่อน" ขณะที่ประชากรคนไร้บ้านทรงตัวมาตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2022 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกฎหมายปกป้องคนเช่าบ้านมิให้ถูกไล่ออกจากบ้าน (eviction moratorium) ที่บังคับใช้ระหว่างโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ที่มาพร้อมกับวิกฤตเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่โครงการดังกล่าวหมดอายุลง คนส่วนใหญ่ที่ได้รับการปกป้องเหล่านี้ ถูกเทลงสู่สิ่งที่ทาง ไดแอน เยนเทล ทนายความด้านอสังหาริมทรัพย์ จากสมาพันธ์ที่อยู่อาศัยเพื่อประชากรรายได้ต่ำแห่งชาติ (The National Low Income Housing Coalition) เรียกว่าเป็น ตลาดบ้านเช่าหรือห้องเช่าที่โหดร้ายป่าเถื่อน ท่ามกลางค่าเช่าที่พุ่งทะยานและเงินเฟ้อพุ่งสูง
"หากปราศจากการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญและยั่งยืนของรัฐบาลกลาง ในการสร้างบ้านที่สามารถหาซื้อได้หรือบ้านสำหรับกลุ่มคนที่มีรายงานต่ำที่สุด วิกฤตที่อยู่อาศัยที่สามารถเอื้อมถึงได้และคนไร้บ้านในประเทศแห่งนี้ก็รังแต่จะเลวร้ายลง" เยนเทล ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์(15ธ.ค.)
การนับตัวเลขคนไร้ที่อยู่อาศัยของ HUD ในเดือนมกราคม 2023 ยังไม่นับรวมบุคคลที่พักอาศัยอยู่ชั่วคราวและอย่างไม่มีกำหนดกับครอบครัวหรือเพื่อน หรือตามสถานที่ต่างๆที่ไม่ถูกจัดว่าเป็นสถานพักพิง หรือกลุ่มคนที่อยู่ในกระบวนการถ่ายโอนสู่บ้านพักอาศัยถาวร วิธีการนับเช่นนี้ถูกฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์โต้แย้งว่าเป็นการฉายภาพเศษส่วนเล็กๆของปัญหาทั้งหมด
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)