อิสราเอลประกาศปักหลักรบในกาซาจนกว่าจะทำลายฮามาสสิ้นซาก แม้นานาชาติเรียกร้องดังขึ้นให้หยุดยิง และพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดอย่างอเมริกาเริ่มทำตัวถอยห่างก็ตาม
สงครามในกาซาล่วงเข้าสู่เดือนที่ 3 นับจากระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. จากการบุกโจมตีอิสราเอลของนักรบฮามาสที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,200 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขกาซาที่ปกครองโดยฮามาส ระบุตัวเลขล่าสุดในวันพฤหัสบดี (14 ธ.ค.) ว่า มีชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารไปแล้วอย่างน้อย 18,787 คน บาดเจ็บอีก 50,897 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
กระทรวงสาธารณสุขกาซายังเผยว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อเช้าวันพฤหัสฯ (14 ธ.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 คนทั่วกาซา
ชาวบ้านในเมืองราฟาห์ ทางใต้สุดของกาซาที่อยู่ติดกับพรมแดนอียิปต์ เล่าว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศเมื่อคืนวันพุธ (13) ขณะที่ผู้สื่อข่าวเอพีรายงานว่า เห็นร่างผู้เสียชีวิต 27 คนถูกนำส่งโรงพยาบาลท้องถิ่นเมื่อเช้าวันพฤหัสฯ
ส่วนที่เวสต์แบงก์ ซึ่งสถานการณ์ก็ร้อนระอุขึ้นมานับจากวันที่ 7 ต.ค. เช่นเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์เผยว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คนในเมืองเจนิน จากการโจมตีของอิสราเอล
ในวันพุธ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของอเมริกาที่เป็นประเทศผู้จัดหาความช่วยเหลือทางทหารให้อิสราเอลมากที่สุดเป็นมูลค่านับหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ได้ออกมาประณามอิสราเอลครั้งรุนแรงที่สุดนับจากสงครามกาซาปะทุขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคมว่า การทิ้งระเบิดถล่มกาซาแบบไม่เลือกที่ กำลังบ่อนทำลายการสนับสนุนของนานาชาติที่เคยมีให้อิสราเอล
ขณะที่ในวันพฤหัสฯ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน มีกำหนดเดินทางยังเยรูซาเล็มเพื่อหารือกับเนทันยาฮูและคณะรัฐมนตรีสงครามของเขา
ก่อนออกเดินทาง ซัลลิแวนให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า เขาจะหารือเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการยุติสงคราม รวมทั้งจะเรียกร้องให้ผู้นำอิสราเอลเปลี่ยนไปสู่เฟสอื่นที่ไม่ใช่ปฏิบัติการโจมตีหนักหน่วงอย่างที่เกิดขึ้นทุกวันนี้
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่า อิสราเอลจะรบต่อจนกว่าจะได้ชัยชนะ และ เอลี โคเฮน รัฐมนตรีต่างประเทศ ขานรับว่า การสู้กับฮามาสจะดำเนินต่อไปไม่ว่านานาชาติจะสนับสนุนหรือไม่ก็ตาม
เนทันยาฮูสำทับว่า มีความเห็นแตกต่างจากทางวอชิงตันเกี่ยวกับวิธีปกครองกาซาหลังจากการสู้รบขัดแย้งยุติลง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาส ประกาศเมื่อวันพุธว่า การดำเนินการใดๆ ในกาซาหรือที่เกี่ยวกับปาเลสไตน์โดยไม่มีฮามาสหรือฝ่ายต่อต้านอิสราเอล ถือเป็นอาการหลงผิด และสำทับว่า ฮามาสพร้อมเจรจาที่จะนำไปสู่แนวทางการเมืองที่รับประกันสิทธิ์ของชาวปาเลสไตน์ในการสถาปนารัฐเอกราชโดยมีเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวง
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นที่ศูนย์ปาเลสไตน์เพื่อการวิจัยด้านนโยบายและการสำรวจความคิดเห็นเผยแพร่เมื่อวันพุธพบว่า ฮานิเยห์ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน 78% ในดินแดนปาเลสไตน์ สูงขึ้นมากจากระดับ 58% ในช่วงก่อนสงคราม
ขณะเดียวกัน นานาชาติกดดันอิสราเอลมากขึ้นให้เพิ่มความพยายามปกป้องพลเรือน โดยเมื่อวันอังคาร (12 ) สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ลงมติท่วมท้นสนับสนุนการเรียกร้องหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในกาซาทันที
แม้วอชิงตันโหวตคัดค้านญัตตินี้ ทว่า ออสเตรเลีย แคนาดา และนิวซีแลนด์ลงมติสนับสนุน อีกทั้งยังออกคำแถลงร่วมแสดงความกังวลกับพื้นที่ปลอดภัยที่ลดลงสำหรับพลเรือนในกาซา
ซีเอ็นเอ็นรายงานเมื่อวันพุธโดยอ้างอิงข่าวกรองของอเมริกาว่า กระสุนจากอากาศสู่พื้นดินเกือบครึ่งหนึ่งที่อิสราเอลใช้ในกาซานับจากวันที่ 7 ต.ค. เป็นกระสุนที่ไม่นำวิถีซึ่งอาจเป็นอันตรายมากขึ้นต่อพลเรือน
วันเดียวกันนั้น ฟิลิปเป ลาซซารินี ข้าหลวงใหญ่สำนักงานบรรเทาทุกข์ผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ของยูเอ็น ระบุว่า ชาวกาซากำลังเผชิญช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดในประวัติศาสตร์
นอกจากการสู้รบแล้ว ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อวันพุธยังทำให้ชาวกาซาใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมากขึ้นในเต็นท์ชั่วคราว ขณะที่อาหาร น้ำดื่ม ยา และเชื้อเพลิงขาดแคลน และระบบโรงพยาบาลล่มสลาย เจ้าหน้าที่ฮามาสยังเผยว่า วัคซีนสำหรับเด็กขาดแคลน พร้อมเตือนเกี่ยวกับผลกระทบต่อเนื่องด้านสุขภาพที่ร้ายแรง
ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลกำลังเผชิญความกดดันมากขึ้นให้จำกัดการสูญเสียกำลังพลและช่วยเหลือตัวประกัน
เฉพาะวันอังคารอิสราเอลสูญเสียทหาร 10 นาย ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดนับจากปฏิบัติการภาคพื้นดินเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 27 ต.ค.
วันพุธ ครอบครัวตัวประกันเผยว่า ได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีอธิบายทันที หลังจากสื่อท้องถิ่นรายงานว่า รัฐบาลอิสราเอลปฏิเสธข้อเสนอให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปกาตาร์เพื่อเจรจาปล่อยตัวประกันรอบสอง
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)