รอยเตอร์/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - เมื่อวานนี้(13 ธ.ค.) สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯลงมติด้วยเสียง 221-212 ให้เริ่มต้นกระบวนการสอบสวนอย่างเป็นทางการในการถอดถอนผู้นำสหรัฐฯออกจากตำแหน่งเพื่อหาว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ผลประโยชน์ทางการเงินในการดีลธุรกิจต่างประเทศของลูกชาย ฮันเตอร์ ไบเดน วัย 53 ปีหรือไม่ วันพุธ(13 ธ.ค)ลูกชายไบเดนออกมาแถลงยืนยันความบริสุทธิ์ของพ่อตัวเองพร้อมยืนกรานไม่เข้าให้การแบบปิดลับ แต่โดนสว.คนดังพรรครีพับลิกันคนดัง จิม จอร์แดน เย้ยช่วยได้มากสร้างความเปลี่ยนแปลงมหาศาลในการแถลงอ้าง “พ่อไม่เกี่ยว”
รอยเตอร์รายงานวานนี้(13 ธ.ค)ว่า สภาล่างสหรัฐฯที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวันพุธ(13)ได้ออกเสียงตามแนวทางพรรคลงมติ 221 – 212 เพื่อไฟเขียวให้เปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการในการขับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตออกจากตำแหน่ง
เป็นการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงว่าประธานาธิบดีไบเดนได้รับผลประโยชน์จากการดีลธุรกิจต่างประเทศของบุตรชายวัย 53 ปี ฮันเตอร์ ไบเดน (Hunter Biden) หรือไม่
เกิดขึ้นในวันเดียวกันกับที่ฮันเตอร์เปิดตั้งไมค์สู้หน้าเดอะแคปิตอล ฮิลล์ (The Capitol Hill) หรือสภาคองเกรสสหรัฐฯ แถลงป้องความบริสุทธิ์พ่อพร้อมกับยืนกรานตัวเองจะไม่ยอมให้ความร่วมมือเข้าให้ปากคำแบบปิดลับ ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่เขามีกำหนดต้องเข้าให้การกับสภาคองเกรสสหรัฐฯ
รอยเตอร์ชี้ว่า เป็นความความพยายามร่วมกันของทางพรรคีพับลิกันจนประสบความสำเร็จถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะยังต้องหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดก็ตาม
ทำเนียบขาวออกมาแถลงโต้การผ่านมติเพื่อเปิดการดำเนินการสอบสวนไบเดนโดยชี้ไปว่า เป็นการสอบสวนที่ไม่มีข้อเท็จจริงสนับสนุนและอีกทั้งขับเคลื่อนด้วยแรงจูงใจทางการเมืองเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กำลังอยู่ระหว่างการหาเสียงเพื่อชิงศึกนัดล้างตาเลือกตั้งปีหน้ากับคู่แข่งคนเดิม อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันที่มีคดีความทางกฎหมายจำนวนมากขณะนี้
ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกในประวัติศาสตร์ที่โดนถอดถอนจากตำแหน่งถึง 2 หนแต่รอดมาได้ ท่ามกลางยุคสภาคองเกรสสหรัฐฯสมัยใหม่มีความตกต่ำอย่างน่าละอายที่มีโอกาสได้เห็นสมาชิกจาก 2 พรรคใหญ่ทั้งสองถูกพบการทำความผิดขั้นอุกฉกรรจ์เป็นต้นว่า ส.ว รัฐนิวเจอร์ซีย์จากพรรคเดโมแครต บ็อบ เฮอร์นานเดซ (Bob Hernandez) โดนข้อหาคอร์รัปชันและเป็นเอเยนต์ที่ไม่จดทะเบียนให้กับรัฐบาลอียิปต์ ค้นพบทองคำก้อนหนัก 1 กิโลกรัมจำนวนหนึ่งซุกในบ้านพักในรัฐนิวเจอร์ซีย์ อ้างอิงจากเอพีรายงานเมื่อวันที่ 27 ก.ย ก่อนหน้า
ส่วนส.ส รัฐนิวยอร์ก จอร์จ แซนโตส (George Santos) จากพรรครีพับลิกันโดนไป 23 ข้อหารวมฟอกเงิน ฉ้อโกงธุรกรรมทางการเงินทางอิเล็กทรอนิก โกหกรัฐสภาสหรัฐฯ โดนโหวตขับออกแต่ยังสามารถหาลู่ทางการทำเงินได้ โดยสื่อฟอร์จูนรายงานวันที่ 5 ธ.ค ล่าสุดว่า อดีตส.สแซนโตสหัวใสหาอาชีพใหม่ให้ตัวเองได้ด้วยการขายวิดีโอคลิปสนนราคา 200 ดอลลาร์ให้กับสาวก
รอยเตอร์วิเคราะห์ว่า แต่เชื่อว่าความพยายามในการโค่นไบเดนจากการถอดถอนนั้นเชื่อว่าคงจะไม่ประสบความสำเร็จถึงแม้ว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯที่มีพรรครีพับลิกันคุมอยู่จะโหวตขับออกจากตำแหน่ง แต่ทว่าวุฒิสภาสหรัฐฯที่มีพรรคเดโมแครตคุมเสียงข้างมากจะต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของทั้งหมดในการโหวตขับ ซึ่งเกือบไม่มีความเป็นไปได้เพราะพรรคมีเสียง 51 – 49 ในนั้น
เอพีรายงานว่าในวันพธ(11)ซึ่งเป็นวันที่เขาต้องมาให้การต่อคณะกรรมาธิการสภาคองเกรสสหรัฐฯ แต่ทว่าเขากลับตั้งไมค์และโพเดียมที่หน้าสภาแถลงท้าทายคำสั่งเรียกให้ขึ้นให้การแบบปิดห้องลับต่อคณะกรรมาธิการ ในคำแถลงเขาอ้างว่า จะให้การก็ต่อเมื่อเป็นการเปิดต่อสาธารณะเท่านั้นเพราะกลัวว่าคำพูดของเขาจะถูกนำไปตีความในทางที่ผิด
และเกิดขึ้นในวันเดียวกันกับที่สภาล่างสหรัฐฯที่อยู่ด้านในเดอะ แคปปิตอล ฮิลล์ ลงมติโหวตอนุมัติให้เดินหน้าเปิดกระบวนการสอบสวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโจ ไบเดนผู้พ่อ
ลูกชายไบเดนแถลงว่า "ไม่มีหลักฐานในการสนับสนุนข้อกล่าวหาที่ว่าพ่อของผมมีความเกี่ยวข้องทางการเงินในธุรกิจของผม เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้น"
ฟ็อกซ์นิวส์ชี้ว่า การแถลงฟ้าผ่าของฮันเตอร์ส่งผลทำให้ประธานคณะกรรมาธิการด้านยุติธรรมสภาล่างสหรัฐฯ จิม จอร์แดน (Jim Jordan) ได้ออกมาเยาะเย้ย "ฮันเตอร์ ไบเดน" ว่า ได้สร้าง "ความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง" ด้วยการพูดว่าพ่อของเขา "ประธานาธิบดีไบเดน ไม่เกี่ยวข้องทางการเงินในการตกลงทางธุรกิจของเขา
รอยเตอร์ชี้ว่า ฮันเตอร์เป็นบุตรชายที่สร้างปัญหาให้กับผู้นำสหรัฐฯและต้องผจญกับการสอบสวน ล่าสุด CNN ของสหรัฐฯรายงานวันพฤหัสบดี(7)ว่า บุตรชายประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนสั่งดำเนินคดีทางกฎหมายในคดีเลี่ยงภาษี 9 กระทง ซึ่งเป็นคดีอาญาที่ 2 ของเขาภายใต้การสอบสวนอัยการพิเศษสหรัฐฯ เดวิด ไวซ์ซ( David Weiss )
ฮันเตอร์แถลงในวันพุธ(13)ว่า "จากการติดยาเสพติดอย่างหนักของผม ผมขาดความรับผิดชอบทางการเงินขั้นร้ายแรง แต่ในการชี้ว่าสิ่งนี้เป็นสาเหตุสำหรับการสอบสวนเพื่อการถอดถอนนั้นมันเกินเลยกว่าความบ้าคลั่งไปแล้ว มันน่าละอาย"