เอเจนซีส์ - กลายเป็นฝันร้ายสำหรับเดโมแครตหลังผลโพลสำรวจโดยวอลล์สตรีทเจอร์นัลล่าสุด ชี้ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน แพ้คู่แข่งคนสำคัญจากพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ 4 จุดที่ 47% ต่อ 43% สร้างความวิตกให้เดโมแครต ขณะที่มีบางส่วนให้เลี่ยงโรคโพลบ้า (mad poll disease) ท่ามกลางเสียงลือเดโมแครตกำลังแอบซุ่มเตรียมผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แกวิน นิวซอม มือจัด APEC ปีนี้มาเป็นตัวสำรองหากไบเดนเกิดมีปัญหา
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวานนี้ (9 ธ.ค.) ว่า โพลสำรวจที่จัดทำโดยวอลล์สตรีทเจอร์นัลซึ่งเปิดเผยต่อสาธารณะในวันเสาร์ (9) แสดงให้เห็นว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน โจ ไบเดน กำลังตกที่นั่งลำบากโดยมีคะแนนความนิยมต่ำที่สุดอยู่ที่ 37% ถือเป็นคะแนนต่ำสุดของการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ของเขา อ้างอิงจากสื่อโพลิติโกของสหรัฐฯ
โพลวอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า ไบเดนได้คะแนนไป 43% แพ้คู่แข่งอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ 4 จุด โดยทรัมป์ได้ไปที่ 47% สร้างความวิตกให้หลายคนในพรรคเดโมแครตที่หวั่นว่า เกรงจะกลายเป็นโรคโพลบ้าระบาด
เป็นครั้งแรกที่ทรัมป์นำไบเดนถึง 4 จุด โดยโพลวอลล์ตรีทเจอร์นัลแสดงให้เห็นว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันเจ้าของสัญลักษณ์หมวกแดง MAGA (Make America Great Again) นั้นเป็นที่นิยมมากกว่าในการแข่งแบบตัวต่อตัวในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปีหน้าที่จะเป็นการกลับมารีแมตช์อีกครั้งของคนทั้งสอง วอลล์สตรีทเจอร์นัลด์กล่าว
ตามผลโพลที่ออกมาพบว่า และเมื่อรวมเข้ากับ 5 ผู้สมัครคนสำคัญจากพรรคที่ 3 และเหล่าผู้สมัครอิสระทั้งหลายส่งผลทำให้ให้เกิดการสนับสนุนแบบรวมอยู่ที่ 17% ยิ่งทำให้ทรัมป์นำโด่งทิ้งห่างไบเดนไปที่ 6 จุดอยู่ที่ 37-31
โพลวอลล์สตรีทเจอร์นัลออกมาหลังจากบุตรชายผู้นำสหรัฐฯ ฮันเตอร์ ไบเดน (Hunter Biden) โดนดำเนินคดีทางกฎหมายในวันพฤหัสบดี (7) ใน 9 ข้อหา ยิ่งสร้างความลำบากต่อการกลับมาอีกครั้งในสมัย 2 ของไบเดน และปัญหาเผือกร้อนสงครามอิสราเอล-ฮามาส ซึ่งล่าสุดหนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษออกมาวิพากษ์วิจารณ์ทำเนียบขาวในวันเสาร์ (9) หลังสหรัฐฯ วีโตในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติขวางมาตรการหยุดยิงเพื่อการบรรเทาทุกข์ในกาซา ขณะที่ยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่ม 17,000 คน
หนังสือพิมพ์อังกฤษชี้ว่า ขณะที่ทำเนียยขาวนั้นดูเหมือนที่จะเกลียดในการต้องออกมาแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาเหมือนเช่นเสียงนักวิจารณ์ที่ว่า 'อิสราเอล' กำลังละเมิดธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างประเทศด้วยการสังหารพลเรือนมากมายในการโจมตีโรงเรียน จุดข้ามแดน โรงพยาบาล และค่ายผู้ลี้ภัย
แต่ทว่าภาพที่ปรากฏออกมาจากกาซาที่มีประชากรอยู่ร่วม 2.3 ล้านคนนั้นในเวลานี้ส่วนใหญกำลังไร้บ้าน ซึ่งนั่นกลายเป็นสิ่งที่ยากจะเพิกเฉยไปได้
อัลญะซีเราะฮ์ ของกาตาร์เรียกการวีโตของสหรัฐฯ ครั้งนี้ว่า “สองมาตรฐาน” โดยในที่ประชุมสหรัฐฯ แสดงเหตุผลอย่างชัดเจนว่า “อิสราเอลจำเป็นต้องมีสิทธิในการป้องกันตัวเอง” แต่ทว่าทั่วโลก รวมกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายต่างออกมาเดินหน้าตำหนิเสียงวิจารณ์ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มฮิวแมนไรท์วอช กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน และกลุ่มแอมเนสตีสากล เป็นต้น
สื่ออังกฤษชี้ว่า ขณะที่โพลวอลล์สตรีทเจอร์นัลนั้นสร้างความแตกตื่นให้หลายคนในพรรคเดโมแครต แต่ยังมีอีกหลายคนเตือนว่าอย่าอ่านมากเกินไปในสิ่งที่บรรดานักสังเกตการณ์มองว่าเป็นปรากฏการณ์ “โรคโพลบ้า” (mad poll disease) ซึ่งความเครียดมาจากความเชื่อที่ว่าชุดของโพลแง่ที่เป็นลบแสดงให้เห็นว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น 1 ปีนับจากนี้ แทนที่จะเป็นการเปิดโอกาสในการลงมือ หรือการออกเสียง หรือการป้องกัน
และที่คล้ายกัน วอลล์สตรีทเจอร์นัลยังชี้ว่า ขณะที่ตัวเลขแสดงให้เห็นถึงเดโมแครตเป็นจำนวนมากนั้นไม่มีความพอใจอย่างกว้างขวางต่อไบเดนในเวลานี้ แต่ทว่าคนเหล่านี้ยังคงสนับสนุนเขาในวันเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากว่าทรัมป์จะกลายเป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกันเข้าชิง
โพลิติโกรายงานว่า โพลสำรวจวอลล์สตรีทเจอร์นัลนั้นจัดทำระหว่างวันที่ 29 พ.ย.-4 ธ.ค. โดยมาจากผู้ตอบแบบสอบถามทางโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์บ้าน และทางเว็บไซต์จำนวน 1,500 คน ที่เป็นผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง ค่าความผิดพลาดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ +-2.5%
การที่ไบเดนกำลังตกที่นั่งลำบากส่งผลทำให้มีกระแสลือออกมาว่าพรรคเดโมแครตได้เตรียมผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แกวิน นิวซอม (Gavon Newsom) ให้เป็นตัวสำรองลงชิงสู้ศึกหากว่าไบเดนไม่สามารถลงชิงได้ เดลเทเลกราฟ ของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า
พันธมิตรของนิวซอมออกมาแสดงความเห็นว่า การที่นิวซอมยอมก้าวขึ้นมาเพื่อแหกกฎเกณฑ์เพื่อพรรคเดโมแครตเพราะเขา “เป็นผู้ส่งสาร” ที่ดีกว่า โจ ไบเดน หรือกมลา แฮร์ริส และทำให้สื่อเดลีเทเลกราฟกำลังตั้งข้อสงสัยว่า นิวซอมกำลังทำแคมเปญหาเสียงเงาหรือไม่หลังจากที่เขาเข้าสู่ดีเบตเวลา 90 นาทีบนเวทีหยุดโลกเป็นการสู้กันที่จัดโดยสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ ‘The Great Red v Blue State Debate’
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า ผลการปะทะฝีปากที่เริ่มในเวลา 21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นช่วงไพรม์ไทม์ในอเมริกาพบว่า แกวิน นิวซอม วัย 56 ปี ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียจากพรรคเดโมแครตสามารถเอาชนะ รอน เด ซานติส (Ron De Santis) วัย 45 ปี ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาจากพรรครีพับลิกันไปได้
เดลีเทเลกราฟยืนยันว่า แหล่งข่าวภายในใกล้ชิดนิวซอม ยืนยันว่ามันเป็นแค่การดีเบตเท่านั้น ไม่ใช่จากที่นิวซอมวัย 56 ปี พยายามทำตัวให้ดูโดดเด่นขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกนอกเหนือจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน วัย 81 ปี ที่มีปัญหาในด้านความสูงวัยและเสียงวิจารณ์ด้านสุขภาพของเขาในการลงชิงปีหน้า