xs
xsm
sm
md
lg

ของมันต้องมี! ยูเครนวอนสหรัฐฯ ส่ง ‘เครื่องบิน F-18 – ระบบ THAAD’ ช่วยสู้ศึกรัสเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐบาลยูเครนยื่นบัญชีรายชื่อระบบอาวุธต่างๆ ของสหรัฐฯ ที่อ้างว่าจำเป็นต้องใช้ในการทำสงครามต่อต้านรัสเซีย ในจำนวนนี้รวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ซับซ้อน เครื่องบินขับไล่ F-18 อากาศยานไร้คนขับ เฮลิคอปเตอร์โจมตีอาปาเช่ และเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก

รอยเตอร์อ้างถึงข้อมูลในเอกสารที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมยูเครนได้ส่งบัญชีรายชื่อ “ระบบอาวุธที่กองกำลังป้องกันยูเครนมีความจำเป็นต้องใช้” ระหว่างการประชุมหารือแบบปิดลับที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันพุธ (6) ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ และผู้บริหารในอุตสาหกรรมกลาโหมเข้าร่วมรับฟังด้วย

สิ่งที่รัฐบาลยูเครนร้องขอนั้นบางส่วนก็เป็นอาวุธที่พวกเขามีใช้งานอยู่แล้ว เช่น รถถังเอบรามส์ และกระสุนขนาด 155 มม. เป็นต้น แต่ก็รวมถึงระบบอาวุธอื่นๆ ที่เคยขอไปแต่ยังไม่ได้รับ เช่น เครื่องบินขับไล่ F-16 อากาศยานไร้คนขับชนิดต่างๆ และระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีของกองทัพบก (Army Tactical Missile System - ATACMS)

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยูเครน “ลิสต์” มานั้นยังรวมถึงยุทโธปกรณ์ล้ำสมัยที่มีสนนราคาแพงอย่างเครื่องบินลำเลียง C-17 Globmaster และเฮลิคอปเตอร์โจมตีอาปาเช่จากค่ายโบอิ้ง, เครื่องบิน C-130 Super Hercules ที่ผลิตโดยล็อกฮีดมาร์ติน และเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กที่ผลิตโดยบริษัทไซกอร์สกี เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านั้น เอกสารยังระบุว่ายูเครนต้องการเครื่องบินขับไล่ F-18 ‘ฮอร์เน็ต’, โดรน 3 ประเภทที่ผลิตโดยบริษัท เจเนอรัล อะตอมมิกส์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ MQ-9B Sky Guardian และระบบป้องกันทางอากาศในบรรยากาศชั้นสูง (Terminal High Altitude Area Defense – THAAD) ที่ผลิตโดยล็อกฮีดมาร์ติน

รัฐบาลยูเครนรู้แน่แก่ใจว่า พวกเขาต้องพยายามเรียกร้องขออาวุธจากตะวันตกเพิ่มเติมให้ได้เพื่อที่จะต้านทานการบุกของรัสเซีย และทวงคืนดินแดนที่สูญเสียไปตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา

กระนั้นก็ตาม ร่างกฎหมายงบประมาณของสหรัฐฯ ที่จัดสรรความช่วยเหลือให้แก่ยูเครนและอิสราเอลหลายพันล้านดอลลาร์ยังคงถูกเตะสกัดในชั้นวุฒิสภา เนื่องจากฝ่ายรีพับลิกันเรียกร้องให้ต้องเพิ่มมาตรการคุมเข้มพรมแดนเพื่อสกัดผู้อพยพที่หลั่งไหลมาจากเม็กซิโก

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน มองว่าชัยชนะของยูเครนคือหนึ่งในเป้าหมายด้านนโยบายต่างประเทศที่ต้องทำให้สำเร็จ ระหว่างเดินหน้าหาเสียงเพื่อรั้งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ อีกสมัยในเดือน พ.ย. ปี 2024

ที่มา: รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น