xs
xsm
sm
md
lg

ยังไงแน่? ‘ไบเดน’ เปรยอาจไม่ลงชิงปธน.สหรัฐฯ สมัยที่ 2 หากไม่ได้แข่งกับ ‘ทรัมป์’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (5 ธ.ค.) ว่าตนอาจจะไม่ลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสมัยที่สองในปี 2024 หากคู่แข่งไม่ใช่ โดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมกล่าวหาอดีตผู้นำสายรีพับลิกันรายนี้ว่า “เป็นภัยคุกคาม” ต่อสหรัฐอเมริกา

“ถ้า ทรัมป์ ไม่ลงสมัคร ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าผมจะลงสมัครหรือไม่” ไบเดน กล่าวในงานระดมทุนหาเสียงเลือกตั้ง 2024 ที่ชานเมืองบอสตัน

“เราจะปล่อยให้เขาชนะไม่ได้เด็ดขาด” ไบเดน ระบุ

คำพูดในเชิงประเมินตนเองของ ไบเดน มีขึ้นท่ามกลางเสียงสะท้อนจากหลายฝ่าย รวมถึงในหมู่ฐานเสียงเดโมแครตเองที่มองว่าเขาอาจจะอายุมากเกินไปสำหรับการรั้งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ สมัยที่สอง

ไบเดน เพิ่งฉลองวันเกิดอายุครบ 81 ปีไปเมื่อเดือน พ.ย. และถือเป็นประธานาธิบดีในตำแหน่งที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

ทรัมป์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างปี 2017-2021 ออกมาตอบโต้ผ่านสื่อฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันอังคาร (5) ว่า “คงมีใครสักคนเสนอประเด็นให้เขาพูด ซึ่งพวกเขาคิดว่ามันคงฟังดูดี”

หลังจากนั้นไม่นาน ไบเดน ได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่ทำเนียบขาว โดยยืนยันว่าตนไม่ได้มีความคิดที่จะถอนตัวจากศึกเลือกตั้ง

“ไม่ ยังไม่ใช่ตอนนี้” ไบเดน ให้คำตอบ หลังถูกสื่อจี้ถามว่าจะ “วางมือ” หรือไม่หาก ทรัมป์ วัย 77 ปี เลิกล้มความคิดที่จะกลับมาทวงบัลลังก์ทำเนียบขาว

“ฟังนะ เขาลงสมัคร ดังนั้นผมเองก็ต้องลงแข่งด้วย” ไบเดน กล่าว

เมื่อนักข่าวถามอีกว่า ต่อให้ ทรัมป์ ไม่ลงแข่งขันก็จะยังเดินหน้าหรือ? ไบเดน ก็ตอบว่า “ผมหวังเช่นนั้น”

ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งในปี 2020 ไบเดน มักจะพูดเสมอว่าที่ตัดสินใจลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ก็เพราะรับไม่ได้กับการจัดการปัญหาต่างๆ ของรัฐบาลทรัมป์ในขณะนั้น รวมถึงกรณีเหตุนองเลือดระหว่างการชุมนุมประท้วงของพวกชาตินิยมผิวขาวที่เมืองชาร์ล็อตต์สวิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย ในปี 2017

เวลานี้ ไบเดน ซึ่งแทบจะไร้คู่แข่งในศึกชิงตัวแทนพรรคเดโมแครต เริ่มกลับมาชูวาทกรรมกล่าวหา ทรัมป์ ว่าเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง ขณะที่ ทรัมป์ ซึ่งโดนฟ้องคดีอาญาจากความพยายามล้มผลเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ก็กล่าวโจมตี ไบเดน เช่นกันว่าเป็น “เผด็จการที่อันตราย” (dangerous autocrat)

ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดพบว่า ทรัมป์ เริ่มมีคะแนนนิยมแซงหน้า ไบเดน ทั้งในบรรดารัฐที่เป็นสมรภูมิชี้ขาดผลเลือกตั้งหรือ “สวิงสเตท” รวมถึงในระดับประเทศด้วย

ที่มา: รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น