อิสราเอลเดินหน้าถล่มดินแดนตอนใต้ของฉนวนกาซาทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินในวันอังคาร (5 ธ.ค.) ทำให้มีชาวปาเลสไตน์บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก แม้อเมริกาและยูเอ็นย้ำให้ปกป้องพลเรือนก็ตาม ขณะที่วอชิงตันยังคาดหวังว่า อิสราเอลจะไม่โจมตีพื้นที่ปลอดภัย ทว่า ชาวบ้านและนักข่าวภาคสนามยืนยันตรงกันว่า ยิวระดมโจมตีทางอากาศกาซาตอนใต้ รวมถึงพื้นที่ซึ่งกองทัพยิวสั่งให้ชาวปาเลสไตน์ไปหาที่หลบภัย นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่อิสราเอลยังยอมรับว่า มีพลเรือนปาเลสไตน์เสียชีวิตราว 2 คนสำหรับนักรบฮามาสทุก 1 คนที่ถูกสังหารในฉนวนกาซา
สตีเฟน ดูจาร์ริก โฆษกสหประชาชาติ แถลงเมื่อวันจันทร์ (4) ว่า อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการยูเอ็น กังวลอย่างยิ่งที่อิสราเอลกลับมาทำสงครามกับฮามาส และสำทับว่า พลเรือนที่ถูกอิสราเอลสั่งให้อพยพ ไม่มีที่ที่ปลอดภัยให้ไปพักอาศัย และมีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก กูเตียร์เรสยังเรียกร้องให้อิสราเอลหลีกเลี่ยงการกระทำที่ทำให้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซาเลวร้ายลง รวมทั้งขอให้ปกป้องพลเรือน
อิสราเอลนั้นเข้ายึดพื้นส่วนใหญ่ทางตอนเหนือของกาซาเมื่อเดือนที่แล้ว และเริ่มลุยลึกเข้าสู่ดินแดนตอนใต้หลังจากข้อตกลงหยุดยิงนานหนึ่งสัปดาห์สิ้นสุดลงเมื่อวันศุกร์ (1)
ขณะที่นักรบของกลุ่มอิสลามิกญิฮาด ที่เป็นพันธมิตรกับฮามาสเผยว่า ได้ปะทะดุเดือดกับทหารอิสราเอลทางเหนือและตะวันออกของข่านยูนิสซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของกาซา
พวกชาวบ้านเผยว่า รถถังอิสราเอลได้ข้ามแดนจากอิสราเอลเข้าสู่กาซา และแบ่งดินแดนยาวๆ แคบๆ แห่งนี้เป็นสองส่วนหลักระหว่างเหนือกับใต้ โดยเวลานี้กองทัพอิสราเอลระบุว่า ถนนจากข่านยูนิสมุ่งหน้าขึ้นเหนือกลายเป็นสนามรบและถูกปิดแล้ว
อิสราเอลแถลงวันอังคาร (5 ธ.ค.) ว่า ทหารฝ่ายตน 3 นายเสียชีวิตในกาซาเมื่อวันจันทร์ ซึ่งสถานีวิทยุของกองทัพระบุว่า เป็นวันที่มีการต่อสู้หนักหน่วงกับนักรบฮามาส โดยนับจากเปิดฉากบุกกาซาภาคพื้นดิน อิสราเอลสูญเสียทหารทั้งสิ้น 78 นาย
อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการกวาดล้างฮามาสเพื่อล้างแค้นที่นักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้บุกข้ามแดนเข้าไปโจมตีเมืองชายแดน ชุมชน และเทศกาลดนตรี โดยสังหารผู้คน 1,200 คน และจับตัวประกันกลับไปกาซา 240 คนเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์โจมตีนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ 75 ปีของอิสราเอล
ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขกาซาระบุว่า สงคราม 8 สัปดาห์ ได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วอย่างน้อย 15,899 คน ซึ่ง 70% เป็นผู้หญิงและเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และนับเฉพาะตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดมีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตราว 900 คน
ฟิลิปเป ลาซซารินี ประธานสำนักงานบรรเทาทุกข์เพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ของยูเอ็น (UNRWA) กล่าวว่า การฟื้นปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลเป็นการทำซ้ำความสยดสยองของเมื่อหลายสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยการทำให้คนที่พลัดบ้านมาก่อนต้องทิ้งที่อยู่อีกครั้ง ผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล และการดำเนินการด้านมนุษยธรรมยิ่งบีบคั้นเนื่องจากมีสิ่งของบรรเทาทุกข์จำกัด และย้ำว่า ขณะนี้ไม่มีที่ปลอดภัยในกาซาอีกต่อไป แม้แต่ “พื้นที่ปลอดภัย” ที่กองทัพอิสราเอลกำหนด
วันจันทร์อิสราเอลสั่งให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากพื้นที่บางส่วนในข่านยูนิส และให้เดินทางไปยังชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและเมืองราฟาห์ที่อยู่ใกล้ชายแดนอียิปต์ เรื่องนี้กระตุ้นความสงสัยข้องใจที่ว่า แผนการแท้จริงของอิสราเอลคือการผลักดันขับไล่ให้ชาวปาเลสไตน์หลบหนีออกไปจากกาซา เพื่อเข้าไปเป็นผู้ลี้ภัยถาวรในชาติอาหรับอื่นๆ ซึ่งอยู่ติดกัน โดยเฉพาะแหลมไซนายของอียิปต์
อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า การที่อิสราเอลพยายามอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่เป้าหมายในขณะนี้ถือเป็นพัฒนาการที่ดี
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา เสริมว่า วอชิงตันคาดหวังให้อิสราเอลหลีกเลี่ยงการโจมตีพื้นที่ที่ระบุเป็นพื้นที่ “ห้ามโจมตี” ในกาซา และบอกว่า อเมริกาหารือกับอิสราเอลว่า สงครามกับฮามาสควรดำเนินต่อจนถึงเมื่อใด แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียด
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานโดยอ้างนายทหารอาวุโสของอิสราเอลหลายรายที่ออกมาแถลงข่าวกับพวกผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ กล่าวยอมรับว่า มีพลเรือนปาเลสไตน์เสียชีวิตราว 2 คนสำหรับนักรบฮามาสทุก 1 คนที่ถูกสังหารในฉนวนกาซา หลังจากสื่อตั้งคำถามเกี่ยวกับรายงานที่ระบุว่า มีนักรบฮามาสเสียชีวิตในสงครามครั้งนี้ 5,000 คน
หนึ่งในนายทหารอาวุโสเหล่านี้สำทับข้ออ้างเดิมของรัฐยิวที่ว่า การใช้โล่มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ของฮามาส และยังแสดงความหวังว่า สัดส่วนพลเรือนปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตจะลดลงในสงครามเฟสต่อไป
นายทหารอาวุโสเหล่านี้ซึ่งต่างขอสงวนนาม ยังพูดเรื่องที่เวลานี้กองทัพอิสราเอลได้ใช้ซอฟต์แวร์การจัดทำแผนที่ไฮเทคเพื่อติดตามและอัปเดตข้อมูลการเคลื่อนย้ายของประชากรในฉนวนกาซา และออกคำสั่งอพยพประชากรในพื้นที่ส่วนต่างๆ ผ่านการส่งข้อความ การโทรศัพท์ การโปรยใบปลิว และการประกาศอื่นๆ รวมทั้งติดตามประสิทธิภาพของการเผยแพร่คำสั่งอพยพตามเวลาเรียลไทม์
ระบบดังกล่าวใช้โทรศัพท์มือถือและสัญญาณอื่นๆ การสอดแนมทางอากาศ และข้อมูลจากแหล่งข่าวในท้องถิ่น ตลอดจนถึงปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมของยูเอ็น (โอซีเอชเอ) ตั้งคำถามเกี่ยวกับประโยชน์ของเครื่องมือของอิสราเอล ในเมื่อพื้นที่ส่วนใหญ่ของกาซาเวลานี้มีปัญหาการเข้าถึงไฟฟ้าและบริการโทรคมนาคมขาดๆ หายๆไม่ต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนวันจันทร์ (4) เองบริษัทโทรคมนาคมหลักในฉนวนกาซาเผยว่า บริการมือถือและอินเทอร์เน็ตถูกตัดทั่วทั้งกาซา
(ที่มา: รอยเตอร์,เอเอฟพี)