เอเจนซีส์ – ศาลสูงอังกฤษรับฟังได้ว่าเจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ทรงไม่ได้รับการปฎิบัติอย่างเท่าเทียมในการอารักขาเมื่อเทียบกับเหล่าสมาชิกราชวงศ์พระองค์อื่นระหว่างพระองค์ประทับในอังกฤษ
สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานวันนี้(5 ธ.ค)ว่าเจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ทรงฟ้องดำเนินคดีทางกฎหมายต่อกระทรวงมหาดไทยอังกฤษต่อการตัดสินใจเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 ที่ส่งผลให้พระองค์จะไม่ได้รับการอารักขาในระดับเดียวกันกับเหล่าราชวงศ์พระองค์ระหว่างทรงกำลังประทับในอังกฤษ
คำสั่งนี้ออกมาจากคณะกรรมาธิการบริหารด้านการอารักขาสมาชิกราชวงศ์และบุคคลสำคัญ VIP ที่มีชื่อย่อว่า Ravec (Executive Committee for the Protection of Royalty and Public Figures)
ชาฮีด ฟาติมา เคซี (Shaheed Fatima KC) ทนายความประจำพระองค์ได้แถลงว่า “Ravec สมควรที่ต้องพิจารณาโดยเฉพาะถึงผลกระทบต่อชื่อเสียงของอังกฤษของการโจมตีที่ประสบความสำเร็จต่อผู้อ้างสิทธิ์”
ทั้งนี้ทนาย ชาฮีด ฟาติมา เคซี ถือเป็นทนายความหญิงชาวมุสลิมที่มีชื่อเสียงและการันตีจากรางวัลที่เธอเคยได้รับมาซึ่งเคยว่าความให้กับองค์กร NGO รวมไปถึงรัฐบาลต่างๆมาแล้ว
ทนายประจำพระองค์แถลงต่อว่า จากฐานะของเจ้าชายแฮร์รีนั้นยิ่งถือว่า “พระองค์” สมควรที่จะได้รับการถวายการอารักขาจากรัฐจากภัยคุกคามและความเสี่ยงที่อาจเกิด” พร้อมยังแย้งต่อศาลว่า พระองค์ทรงไม่ได้รับการปฎิบัติอย่างเท่าเทียมเมื่อเปรียบเทียบกับสมาชิกราชวงศ์พระองค์อื่น” อ้างอิงจากการแถลงเป็นรายลักษณ์อักษรต่อศาลที่สกายนิวส์ชี้ว่าเต็มไปด้วยการเซ็นเซอร์มากมาย
สื่ออังกฤษชี้ว่า เจ้าชายแฮร์รีทรงไม่ได้เสด็จมาที่ศาลสูงอังกฤษด้วยพระองค์เอง และจะมีการพิจารณาแบบปิดลับตลอด 3 วันก่อนคำพิพากษาคาดว่าจะออกมาในวันหลังจากนั้น
เซอร์ เจมส์ เอดี เคซี (Sir James Eadie KC) ตัวแทนทางกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยอังกฤษได้แถลงเป็นลายลักษณ์ต่อศาลว่า เจ้าชายแฮร์รีทรงได้รับการถวายการอารักขาที่ออกแบบมาเป็นพิเศษชอบด้วยกฎหมาย
“เนื่องมาจากข้อเท็จจริงที่ว่าพระองค์ไม่ได้ทรงเป็นสมาชิกราชวงศ์ทรงงานอีกต่อไป และได้เสด็จประทับอยู่ในต่างแดนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ฐานะของพระองค์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม”
และในการแถลงยังระบุว่า “ในสถานการณ์เหล่านั้นทำให้การถวายอารักขาจะไม่อยู่ในระดับเดียวเหมือนในอดีต แต่อย่างไรก็ตาม พระองค์โดยนเฉพาะและในสถานการณ์พิเศษจะได้รับการจะได้รับการถวายอารักขาเมื่อเสด็จประทับในอังกฤษ”