การสู้รบในฉนวนกาซากลับมาทวีความรุนแรงต่อเนื่องวันนี้ (2 ธ.ค.) เป็นวันที่สอง หลังจากการเจรจาเพื่อขอขยายเวลาพักรบที่ใช้มานาน 1 สัปดาห์ไม่เป็นผล ขณะที่ผู้เจรจาไกล่เกลี่ยชี้ว่าการทิ้งระเบิดอย่างหนักของกองทัพอิสราเอลยิ่งเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการโน้มน้าวให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาหยุดยิง
ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พื้นที่ทางตะวันออกของเมืองข่านยูนิส (Khan Younis) ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ถูกอิสราเอลทิ้งบอมบ์อย่างหนักหลังข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลงในเช้าวันศุกร์ (1) ซึ่งทำให้ชาวบ้านต้องหอบหิ้วทรัพย์สินหนีไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยกว่าทางด้านตะวันตกของเมือง
อิสราเอลระบุว่า กองกำลังภาคพื้นดิน อากาศ และนาวีได้ยิงทำลายเป้าหมายก่อการร้ายมากกว่า 200 จุดในกาซา ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกาซาออกมาให้ข้อมูลในเย็นวันศุกร์ (1) ว่าปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลคร่าชีวิตผู้คนไป 184 คน ทำลายบ้านเรือนกว่า 20 หลัง และทำให้มีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 589 คน
ทั้งอิสราเอลและฮามาสต่างกล่าวโทษว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นต้นเหตุทำให้ข้อตกลงหยุดยิงล่ม ด้วยการปฏิเสธเงื่อนไขปล่อยตัวประกันรายวันเพื่อแลกกับนักโทษปาเลสไตน์ในเรือนจำอิสราเอล
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตือนว่า การสู้รบจะยิ่งกระพือสถานการณ์ฉุกเฉินด้านมนุษยธรรม และ “กาซากำลังกลายเป็นขุมนรกบนดินอีกครั้ง”
“วันนี้แค่ผ่านไปไม่กี่ชั่วเมือง มีรายงานคนถูกสังหารและบาดเจ็บนับร้อยๆ คน ครอบครัวถูกสั่งอพยพอีกครั้ง ความหวังทั้งหมดพังทลายลง” มาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการสหประชาชาติด้านการประสานงานกิจการมนุษยธรรมกล่าว พร้อมชี้ว่าทั้งเด็ก ผู้ชาย และผู้หญิงในกาซา “ไม่มีสถานที่ปลอดภัยที่จะหนีไปพึ่งได้ และเหลือปัจจัยยังชีพน้อยเต็มที”
ข้อตกลงพักรบเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 พ.ย. และถูกขยายเวลามา 2 ครั้ง โดยอิสราเอลประกาศว่าพร้อมที่จะหยุดยิงต่อไปหากฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลไม่ต่ำกว่า 10 คนต่อวัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อผ่านมาถึงวันที่ 7 ซึ่งกลุ่มตัวประกันที่เป็นผู้หญิง เด็ก และชาวต่างชาติถูกปล่อยออกมาเกือบหมดแล้ว คณะผู้เจรจากลับไม่สามารถตกลงเงื่อนไขใหม่เพื่อปล่อยตัวประกันมากขึ้นได้
อิสราเอลกล่าวหาฮามาสว่าไม่ยอมปล่อยผู้หญิงทั้งหมดที่จับไป ขณะที่เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์คนหนึ่งบอกว่า เหตุที่ข้อตกลงพักรบไปต่อไม่ได้ก็เพราะติดปัญหาเรื่อง “ทหารหญิงอิสราเอล”
รัฐบาลกาตาร์ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระบุว่า แม้การเจรจายังคงดำเนินอยู่ ทว่าการที่อิสราเอลกลับมาถล่มฉนวนกาซาอีกครั้งก็ทำให้การแก้ไขปัญหายุ่งยากขึ้น
เจ้าหน้าที่อิสราเอลในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ย้ำว่าสิ่งที่รัฐบาลยิวให้ความสำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือการช่วยเหลือตัวประกันออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“และหากตกลงเงื่อนไขกันได้ อิสราเอลก็เต็มใจที่จะขยายเวลาพักรบ” เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าว แต่ก็เสริมด้วยว่า “เราสามารถเจรจาไป-สู้ไปได้”
สหรัฐฯ โทษฮามาสว่าเป็นต้นเหตุทำให้เกิดการสู้รบใหม่ เนื่องจากไม่สามารถแจ้งรายชื่อตัวประกันที่พร้อมจะปล่อยตัวเพิ่มเติม ในขณะที่ฝ่ายฮามาสก็ออกมาตราหน้าอเมริกาว่า “เปิดไฟเขียว” ให้อิสราเอลทำสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
“วันนี้พวกเขาได้เผยแพร่ซ้ำคำโกหกของพวกไซออนิสต์ ซึ่งโทษว่าฮามาสเป็นต้นเหตุทำให้สงครามเดินหน้าต่อ และไม่ขยายเวลาหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม” ฮามาสระบุในถ้อยแถลง
สภาเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ระบุว่า กองทัพอิสราเอลได้สั่งระงับการส่งความช่วยเหลือทั้งหมดเข้าไปยังกาซาผ่านทางด่านราฟาห์ที่ติดกับอียิปต์ ในขณะที่ COGAT ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสราเอลที่ทำหน้าที่ประสานงานด้านพลเรือนกับปาเลสไตน์ระบุว่า ความช่วยเหลือที่ตกลงกันตามเงื่อนไขหยุดยิงถูกระงับแล้วก็จริง แต่ยังมีรถบรรทุกน้ำ อาหาร และอุปกรณ์ทางการแพทย์อีกสิบกว่าคันได้รับอนุญาตให้เข้าไปถึงกาซาได้ตามคำขอของสหรัฐฯ
แม้จะมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มเกือบ 800 คนภายในวันเดียว แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ยืนยันว่า รัฐบาลยิวกำลังทำงานร่วมกับสหรัฐฯ และยูเอ็นเพื่อลดความสูญเสียต่อพลเรือน โดยใช้สิ่งที่เรียกว่า “กลไกระงับความขัดแย้ง” (deconfliction mechanism)
“เราศึกษาบทเรียนจากปฏิบัติการในตอนเหนือของกาซา และนำมันมาปรับใช้” เขากล่าว
ที่มา : รอยเตอร์
