เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์ เปิดเผยตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกที่พิธีศพภริยาอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ โรซาลีน คาร์เตอร์ ในคืนวันอังคาร(28 พ.ย)ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ความร่วงโรยของความสูงวัยของอดีตผู้นำสหรัฐฯบนรถเข็นวีลแชร์ที่ครั้งหนึ่งเคยนำพาประเทศระหว่างเกิดวิกฤตตัวประกันอิหร่านปี 1979 ยังคงแสดงความมุ่งมั่นต้องการกล่าวอำลาภริยาคู่ใจ อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ โรสซาลีนน์ คาร์เตอร์ ในพิธีศพที่มีแขกผู้มีเกียรติตั้งแต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนปัจจุบัน โจ ไบเดน และสุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ จิล ไบเดน รวมไปถึงอดีตผู้นำและอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯรวมตัวเพื่อแสดงการอำลาเป็นครั้งสุดท้าย
เดลีบีสต์ของสหรัฐฯรายงานวันอังคาร(28 พ.ย)ว่า เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กันยายนที่ผ่านมาประชาชนอเมริกันจะมีโอกาสได้เห็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์ ปัจจุบันอายุ 99 ปีที่เป็นที่จดจำไปทั่วว่าเขาเป็นคนที่กระฉับกระเฉงสามารถออกล่าไก่งวงได้สำเร็จในวัย 96 ปีอยู่ในสภาพร่วงโรยบนรถเข็นวีลแชร์ภายในพิธีศพอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ โรซาลีนน์ คาร์เตอร์ ในคืนวันอังคาร(28 พ.ย) ที่จัดขึ้นที่โบสถ์ Glenn Memorial United Methodist Church ในคืนวันอังคาร(28)
เพจ อเล็กซานเดอร์ (Paige Alexander) ซีอีโอมูลนิธิคาร์เตอร์เซ็นเตอร์(Carter Center) กล่าวคล้ายกับกลั้นน้ำตาว่า อดีตผู้นำสหรัฐฯมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าในการที่จะต้องเดินทางมาร่วมพิธีศพภริยาเป็นครั้งสุดท้ายถึงแม้ว่าเขาจะเข้ารับการรักษาครั้งสุดท้ายที่บ้านก็ตาม
“เขาไม่ต้องการที่จะห่างจากเธอ” อเล็กซานเดอร์อธิบายและเสริมต่อว่า “นี่ถือเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของเธอและอาจเป็นของเขาเช่นกัน” ซีอีโอหญิงกล่าวโดยชี้ไปที่ความสูงวัยของคาร์เตอร์เอง
เดลีบีสต์รายงานว่า อดีตผู้นำสหรัฐฯนั่งอยู่บนรถเข็นไม่ห่างจากที่นั่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนปัจจุบัน โจ ไบเดน และสุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ จิล ไบเดน นอกเหนือจากนี้อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน และอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ ฮิลลารี คลินตัน นั่งร่วมกับอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ มิเชล โอบามา และอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ เมลาเนีย ทรัมป์
สื่อสหรัฐฯรายงานว่าชาวอเมริกันต่างรู้สึกใจหายที่ได้เห็นคาร์เตอร์ที่ร่วงโรยจากเหตุผลของกาลเวลานั่งอยู่บนรถวีลแชร์ที่มีผ้าห่มคลุมเข่าท่ามกลางลูกหลานภายในงาน ธิงแทงก์สถาบันยุทธศาสตร์ออสเตรเลีย Australian Strategic Policy Institute รายงานเมื่อวันที่ 23 ก.พ ต้นปีว่า จิมมี คาร์เตอร์ ถือเป็น "บุคคลแห่งมนุษยธรรมดำรง" เป็นผู้นำประเทศมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกระหว่างปี 1977– ปี 1981 ช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตตัวประกันอิหร่านและนำมาสู่การปฎิวัติอิหร่านโดยผู้นำจิตวิญญาณอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ รูฮอลเลาะห์ โคไมนี ในที่สุด
อ้างอิงจากเว็บไซต์ whitehousehistory นักการทูตอเมริกัน 52 คนถูกจับเป็นตัวประกันส่งผลทำให้เขาต้องแพ้การเลือกตั้งให้กับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่จากพรรครีพับลิกันคู่แข่ง โรนัลด์ เรแกน ที่ไม่เพียงแต่ช่วยตัวประกันที่ถูกจับนาน 444 วันออกมาได้สำเร็จแต่ยังสามารถทำลายกำแพงเบอร์ลินและยังทำให้อดีตสหภาพโซเวียตที่เป็นคู่แข่งต้องล่มสลาย
เดลีบีสต์กล่าวว่า ภายในพิธีคืนวันอังคาร(28)คาร์เตอร์นั้นดูมีความชราที่ร่วงโรยมากกว่าเดิมที่อาจทำให้ใครหลายคนต้องเสียน้ำตาแต่กระนั้นอดีตผู้นำสหรัฐฯยังคงดูสงบโดยที่มีบุตรชายชิป(Chip)และบุตรสาวเอมี(Amy)จับมือเขาไว้
หลานชาย เจสัน คาร์เตอร์(Jason Carter)ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สก่อนเริ่มพิธีว่า
“เขากำลังก้าวสู่วาระสุดท้ายและเขาอยู่ในสภาพร่างกายที่ซูบผอมลงไปมาก” และเสริมว่า “แต่ผมคิดว่าเขารู้สึกภูมิใจและเป็นสุขที่เขาสามารถได้มาอยู่ที่นั่นเพื่อเธอ(โรสซาลีนน์ คาร์เตอร์)จนกระทั่งวาระสุดท้าย และเขาจะไม่ยอมพลาดในสิ่งนี้”