เอเจนซีส์ – กลุ่มติดอาวุธฮามาสวานนี้(28 พ.ย)ออกแถลงการณ์เชื้อเชิญ 'อีลอน มัสก์' มหาเศรษฐีเบอร์ 1 สหรัฐฯ ให้เดินทางเข้าไปในเขตฉนวนกาซาเพื่อดูความเสียหายและการเสียชีวิตของพลเรือนปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์ หลังเข้าไปดู kibbutz Kfar Aza พร้อมกับผู้นำอิสราเอลเมื่อวันก่อนแล้วออกมาประณามฮามาส ด้าน โมซาบ ฮัสซาน ยูเซฟ ( Mosab Hassan Yousef) ลูกชายของ ชีค ฮัสซาน ยูเซฟ (Sheikh Hassan Yousef) ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มฮามาส เรียกร้องให้เทลอาวีฟเดินหน้าทำลายฮามาสทพร้อมสังหารพ่อของเขา หากว่าตระบัดสัตย์ไม่ยอมปล่อยตัวประกัน
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้(28 พ.ย)ว่า โอซามะ ฮัมดาน( Osama Hamdan )เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาสกล่าวผ่านแถลงการณ์ที่กรุงเบรุต วันอังคาร(28)ถึงการเชื้อเชิญ อีลอน มัสก์ ให้เดินทางเข้ามาดูความเสียหายในกาซาว่า
“พวกเราได้เชิญเขาเพื่อมาเยือนกาซาในการได้เห็นขอบเขตของการสังหารหมู่และการทำลายที่กระทำต่อประชาชนกาซาซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของภววิสัยและความน่าเชื่อถือ”
การส่งเทียบเชิญของมัสก์จากฮามาสเกิดขึ้นหลังจากที่ อีลอน มัสก์ เจ้าของเทสลาซึ่งก่อนหน้ามีปัญหาการสนับสนุนข้อความที่เป็นการต่อต้านยิวส่งผลทำให้บรรดาบริษัทชั้นนำจำนวนมากรวม นายกเทศมนตรีกรุงปารีส แอนน์ อีดัลโก (Anne Hidalgo) ตัดสินใจถอนตัวเลิกใช้บริการทวิตเตอร์หรือชื่อแพลตฟอร์ม X ในปัจจุบัน ได้บินเข้ากรุงเทลอาวีฟอย่างกะทัน
โดยในวันจันทร์(27) มีภาพปรากฎไปทั่วโลกที่มัสก์เดินทางไปเยือน kibbutz Kfar Aza ซึ่งตั้งห่างจากพรมแดนกาซาไปแค่ 3 ก.ม พร้อมกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู
โดยในการเยือนเขาได้รับการชี้ไปถึงฉากที่ประชาชนยิวโดนสังหารอย่างป่าเถื่อนและมีเปลเด็กอ่อนที่มีร่องรอยกระสุนตั้งอยู่ เดอะการ์เดียนรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตที่นี่ไม่ต่ำกว่า 50 คนในวันที่ 7 ต.คจากฝีมือ¬ของกลุ่มฮามาส
ทั้งนี้พบว่ามัสก์ได้แสดงความเห็นด้วยกับเนทันยาฮูเกี่ยวกับ “ฮามาส” บนแพลตฟอร์ม X ที่ผู้นำอิสราเอลยืนยันว่า เป็นสิ่งจำเป็นต้องจำกัดกลุ่มฮามาส
เดอะการ์เดียนรายงานว่า การเดินทางของมัสก์ไปเยือนอิสราเอลเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทั้งเทลอาวีฟและฮามาสอยู่ในช่วงเวลาหยุดยิงชั่วคราว โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตในฝั่งกาซามีไม่ต่ำกว่า 14,000 คน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงฮามาสกล่าวต่อในแถลงการณ์วันอังคาร(28)ว่า “ภายในแค่ 50 วัน อิสราเอลได้หย่อนระเบิดไปไม่ต่ำกว่า 40,000 ตันใส่บ้านเรือนชาวกาซาที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้”
และเขาได้กล่าวเรียกร้องต่อไปยังสหรัฐฯว่า “ผมขอให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ทำการทบทวนในความสัมพันธ์กับอิสราเอลและหยุดการป้อนอาวุธให้แก่พวกเขาทั้งหลาย”
การออกมาเชิญชวนมัสก์จากกลุ่มฮามาสเกิดขึ้นในวันเดียวกันกับที่ลูกชายของ ชีคฮัสซาน ยูเซฟ (Sheikh Hassan Yousef) ทวีตยืนยันวันอังคาร(28)ว่า เทลอาวีฟจำเป็นต้องตั้งเงื่อนเวลาสำหรับตัวประกันทุกคนต้องได้รับเป็นอิสรภาพ
ในการทวีตยูเซฟกล่าวยืนยันว่า หากว่าฮามาสไม่ยอมทำตามเทลอาวีฟจำเป็นต้องสังหารหมู่กลุ่มฮามาสภายในเรือนจำซึ่งรวมไปถึงพ่อของเขาเองโดยระบุชื่ออย่างชัดเจนบนทวิตเตอร์ เยรูซาเลมโพสต์ของอิสราเอลรายงาน
“หลังจากความสำเร็จของการปล่อยตัวประกันกลุ่มเปราะบางมากที่สุดไป อิสราเอลต้องตั้งเงื่อนเวลาที่แน่นอนกับกลุ่มฮามาสในการปล่อยตัวประกันที่เหลือทั้งหมด หากว่าพวกเขาไม่ยอมทำตามอิสราเอลจำเป็นต้องสังหารหมู่ฆาตกรพวกฮามาสที่อยู่ในเรือนอิสราเอล โดยไม่มีข้อยกเว้น รวมไปถึง “ชีค ฮัสซาน ยูเซฟ” ”รายงานจากทวิตเตอร์ของลูกชายหัวหน้ากลุ่มฮามาส
ในรายงานสื่อยิวอ้างว่า ลูกชายหัวหน้ากลุ่มฮามาสเข้าใจจุดยืนเทลอาวีฟเป็นอย่างดีโดยในตอนหนึ่งเขากล่าวว่า กลุ่มฮามาสกำลังทำสงครามจิตวิทยาต่อมนุษยชาติ
และอ้างว่าเทลอาวีฟจำเป็นต้องปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์จำนวนมากที่อยู่ในเรือนจำอิสราเอลกลับลงสู่ถนนเพื่อแลกเปลี่ยนกับเชลยชาวอิสราเอล และยูเซฟยังกล่าวต่อว่าเป็นสิ่งที่อิสราเอลไม่สามารถอดทนได้เพราะจะกลายเป็นอันตรายต่อผู้บริสุทธิ์จำนวนมากไป เยรูซาเลมโพสต์รายงาน
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมีผู้บริสุทธิ์ปาเลสไตน์เป็นจำนวนมากอยู่ในเรือนจำอิสราเอล
บีบีซีของอังกฤษรายงานวันอังคาร(24)ว่า เด็กชายปาเลสไตน์วัย 14 ปีเป็นหนึ่งในนักโทษเรือนจำเทลอาวีฟที่ได้รับอิสรภาพตามข้อตกลงปล่อยตัวแลกเปลี่ยนตัวประกัน
สื่ออังกฤษชี้ว่า อาห์เหม็ด ซาเลย์มี (Ahmed Salayme )วัย 14 ปี อ้างชื่อจากอัลญะซีเราะห์ของกาตาร์ พบว่าเมื่อพฤษภาคมปีที่แล้ว อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ Middle East Eye ที่มีฐานอยู่ในอังกฤษระบุว่า ซาเลย์มีโดนเจ้าหน้าที่อิสราเอลจับกุมในข้อหาปาก้อนหินในเยรูซาเลมตะวันออก
เขาเปิดเผยหลังได้อิสรภาพกับอัลญะซีเราะห์ว่า เจ้าหน้าที่ผู้คุมยิวทำร้ายร่างกายนักโทษปาเลสไตน์และนักโทษหญิงปาเลสไตน์โดนทำร้ายด้วยเช่นกันในวันที่ 7 ต.ค ในวันที่กลุ่มฮามาสบุกข้ามพรมแดนสังหารชาวยิว
พร้อมกันนี้เปิดเผยว่า เด็กชายวัย 14 ปีได้รับคำสั่งไม่ให้ออกมาแสดงความยินดีต่อการปล่อยตัว ห้ามออกนอกบ้านพักหรือการชูป้ายข้อความประท้วงหรือพูดปราศรัยเด็ดขาด และหากฝ่าฝืนจะถูกนำตัวกลับไปเรือนจำยิวทันที
เยรูซาเลมโพสต์รายงานต่อว่า ยูเซฟยังเรียกร้องให้เทลอาวีฟกดดันให้กาตาร์สั่งแบนไม่ให้ฮามาสตั้งสำนักงานใหญ่ทางการเมืองในกรุงโดฮาอีกต่อไปหรืออนุญาตให้หัวหน้าฮามาสอยู่ในกรุงโดฮา หากว่าไม่ปฎิบัติตามเขาชี้ว่า อิสราเอลไม่จำเป็นต้องให้กาตาร์เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง
ทั้งนี้ลูกชายของชีคฮัสซาน ยูเซฟนั้นไม่ใช่ครั้งแรกที่ออกมาโจมตีกลุ่มฮามาสและพ่อของตัวเองและพบว่าเขาเคยไปออกรายการ "ฮานนิตี" ( Hannity) ทางสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ที่ห้องส่งในเมืองนิวยอร์ก ซิตี สหรัฐฯ
ฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐฯรายงานเมื่อวันที่ 11 พ.ย ที่ผ่านมา ยูเซฟได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับนักจัดชื่อดัง ณอน ฮานนิตี (Sean Hannity) ของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า เขาเดินออกมาจากกลุ่มฮามาสเมื่อ 25 ปีก่อนหน้าเพราะกลุ่มนี้มีแนวคิดสุดโต่งที่เป็นอันตราย
ลูกชายหัวหน้ากลุ่มฮามาสชี้ในรายการว่า กลุ่มติดอาวุธยังคงมีแนวคิดล้าหลังเหมือนอยู่ในศตวรรษที่ 7 ขณะที่โลกกำลังอยู่ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งจะว่าไปแล้วถือเป็นช่องว่างที่มีความห่างมาก