น้ำมันขึ้น-ทองคำบวกแรงหลังดอลล์อ่อนค่า หุ้นสหรัฐฯ ปิดแคบ จับตาความเห็น จนท.เฟด

ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันอังคาร (28 พ.ย.) จากความเป็นไปได้ที่โอเปกพลัสจะขยายหรือปรับลดกำลังผลิตเพิ่มเติม และดอลลาร์อ่อนค่าลง ปัจจัยหลังนี้ผลักทองคำปิดบวก ขณะที่วอลล์สตรีททรงตัว นักลงทุนวิเคราะห์ความเห็นที่สวนทางกันของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

จากรายงานล่าสุดบ่งชี้ว่า ซาอุดีอาระเบีย ยักษ์ใหญ่ของโอเปก กำลังผลักดันสมาชิกอื่นๆ ให้ยอมรับการขยายมาตรการลดกำลังผลิต ในความพยายามพยุงราคาน้ำมัน รับมือกับความไม่แน่นอนทางอุปสงค์และการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีหน้า

แม้มีความเห็นต่าง แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว โอเปกพลัสจะได้ข้อตกลงบางอย่างเกี่ยวกับการขยายมาตรการลดกำลังผลิต

นอกจากแนวโน้มความเคลื่อนไหวของโอเปกพลัสแล้ว ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้น้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ที่อ่อนค่ายังผลักให้ราคาทองคำในวันอังคาร (28 พ.ย.) ปรับขึ้น 4 วันติด แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 27.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,060.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (28 พ.ย.) ปิดในกรอบแคบๆ นักลงทุนวิเคราะห์ความเห็นที่ขัดแย้งกันจากบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 83.51 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,416.98 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.46 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,554.89 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 40.73 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,281.76 จุด

เวลานี้พวกนักลงทุนเฝ้ารอความเห็นต่างๆ ของบรรดาคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ก่อนหน้าการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายครั้งถัดไปในเดือนหน้า

คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุในวันอังคาร (28 พ.ย.) ว่าเขามีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นว่า อัตรานโยบายของเฟดในปัจจุบันมีความเพียงพอ และถึงขั้นแย้งว่ามีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดดอกเบี้ยในหลายเดือนข้างหน้า หากว่าเงินเฟ้อยังคงขยับลงสู่ระดับเป้าหมาย 2% ของเฟด

ออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโก อวดอ้างถึงความก้าวหน้าในการฉุดเงินเฟ้อให้ลดต่ำลงในอัตราที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1950 อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่ง มิชาเอล โบว์แมน อีกหนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งมีความจำเป็นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนด

(ที่มา : รอยเตอร์)