เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ภาพโรงพยาบาลในจีนล้นไปด้วยคนป่วยโรคทางเดินหายใจและมีภาพพ่ออุ้มลูกวัยแบเบาะรอคิวการพบแพทย์อยู่ด้านนอก สร้างความวิตกไปทั่วโลกว่าการระบาดโรคติดต่ออาจกลับมา ปักกิ่งวันอาทิตย์ (26 พ.ย.) แถลงยืนยันว่า โรคระบาดเป็นเชื้อโรคเดิมไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ ส่งทีมชุดป้องกันชีงภาพลงทำความสะอาดถนนครั้งใหญ่ พ่อแม่ทั่วจีนวิตกรัฐบาลปักกิ่งปิดข่าวหลังเด็กจำนวนมากป่วยนิวมอเนีย
เดลีเมลของอังกฤษรายงานวานนี้ (27 พ.ย.) ว่า ภาพความโกลาหลภายในโรงพยาบาลทั่วจีนที่มีผู้ป่วยจำนวนมากต่างสวมหน้ากากอนามัยต่อการระบาดโรคนิวมอเนียปริศนาที่เกิดขึ้นในเด็กสร้างความตกใจให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก
รัฐบาลจีนวันอาทิตย์ (26) ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า การระบาดครั้งใหม่นี้เกิดมาจากโรคหวัดซึ่งเชื้อโรค "เป็นที่รู้จักอยู่ก่อนแล้ว"
โฆษกคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนกล่าวว่า การระบาดของโรคกลุ่มติดเชื้อทางหายใจที่ทำให้ผู้ป่วยเด็กล้นโรงพยาบาลทั่วประเทศนั้นเกิดมาจากเชื้อโรคที่เกิดมาจากไวรัสปกติ เช่น ไข้หวัด และ RSV ที่ผสมเข้ากับแบคทีเรียประเภทเชื้อไมโคพลาสมา (mycoplasma pneumonia)
โฆษกเสริมต่อว่า ทางกระทรวงจีนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้เปิดคลินิกโรคไข้หวัดเพิ่มมากขึ้น พร้อมกันกับการรณรงค์การรับวัคซีนในกลุ่มเด็กและกลุ่มผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ ยังได้เรียกร้องให้ประชาชนจีนสวมหน้ากากอนามัย พร้อมกับออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้ความสนใจในการป้องกันการระบาดในสถานที่มีคนอยู่อยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เป็นต้นว่า โรงเรียน และบ้านพักคนชรา
เจ้าหน้าที่จีนโทษการระบาดเกิดขึ้นเป็นเพราะภูมิคุ้มกันที่ต่ำของประชาชนเกิดขึ้นในฤดูหนาวปีแรกที่ไม่มีการใช้มาตรการโควิด-19 ที่เข้มงวด สื่ออังกฤษกล่าว
อ้างอิงจากนิวสวีกของสหรัฐฯ รายงานวันอังคาร (27) ว่า ภาพการปรากฏตัวของทีมจีนทำความสะอาดในชุด HAZMAT ในการป้องกันชีวภาพแบบปกปิดมิดชิดปรากฏตัวขึ้นซึ่งเป็นภาพที่โพสต์ทางโซเชียลมีเดียในวันอาทิตย์ (26) และวันจันทร์ (27) ซึ่งเกิดขึ้นที่มณฑลเหอเป่ยห่างจากกรุงปักกิ่งไปทางตะวันออกราว 50 ไมล์
สื่อทางการจีนไม่กี่วันที่ผ่านมาเปิดเผยว่าโรงพยาบาลจีนทั้งในกรุงปักกิ่งและที่เมืองเทียนจิน รวมไปถึงทางเหนือนั้นปฏิบัติการในระดับสูงสุดของความสามารถ
CNA ของสิงคโปร์เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลก WHO แถลงว่า อ้างอิงจากรายงานเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน พบว่า ทั่วประเทศจีนต่างมีเคสการป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่ม ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเด็ก
มีรายงานว่าผู้ป่วยประสบปัญหามีอาการไข้ เหนื่อยล้าและไอ แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
จีนรายงานจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัด 205 คนสำหรับสัปดาห์วันที่ 13 พ.ย. ซึ่งเป็นสัปดาห์เริ่มแรกที่พบเปรียบเทียบกับจำนวนผู้ป่วย 127 คนสัปดาห์ก่อนหน้า
การป่วยเพิ่มมากขึ้นส่งผลถึงโรงพยาบาลเด็กมีคนไข้ล้นที่กรุงปักกิ่ง เมืองเทียนจิน มณฑลเหลียวหนิง
CNA ชี้ว่าการที่ประชาคมโลกให้การสนใจต่อการระบาดในจีนเกิดมาจากในวันที่ 22 พ.ย. ระบบการเฝ้าระวังการระบาดของโลก ProMED ได้ขึ้นคำเตือนไปถึง “กลุ่มการระบาดของนิวมอเนียที่ยังไม่ได้ถูกตรวจพบ (Undiagnosed pneumonia) ในทางเหนือของจีน” โดยเป็นการอ้างอิงแหล่งข่าวจากสื่อไต้หวัน FTV News
สื่อสิงคโปร์ชี้ว่าซึ่งคำว่า “Undiagnosed pneumonia” นี้เป็นคำเดียวกันกับที่ระบบได้ขึ้นคำเตือนเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ปี 2019 ที่กลับกลายเป็นว่าเกิดโรคโควิด-19 ขึ้นมาทั่วโลกและทำให้ทั้งโลกต้องหยุดชะงักไปเกือบ 3 ปี
เดลีเมลของอังกฤษรายงานว่า WHO แถลงว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนในวันพฤหัสบดี (23) ได้มอบข้อมูลตามการร้องขอผ่านทางการประชุมเทเลคอนเฟอเรนซ์
ซึ่งในช่วงเริ่มต้นของการระบาดโรคโควิด-19 ทั้งองค์การอนามัยโลก WHO และปักกิ่งถูกกล่าวหาว่าไม่มีความโปร่งใส โดย WHO ถูกกล่าวหาว่าประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคระบาดระดับทั่วโลกช้าจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับการระบาดโรคปอดอักเสบในเด็กที่จีนครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ WHO กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จีนยืนยันว่า การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยไม่ทำให้ระบบโรงพยาบาลของจีนแบกภาระเกินขีดจำกัดความสามารถ
และเจ้าหน้าที่ WHO ยืนยันว่าคลื่นการระบาดไม่สูงเท่ากับเมื่อครั้งที่จีนเจอวิกฤตโควิด-19 และลามไปทั่วโลก
เดลีเมลรายงานว่า สื่อไต้หวัน FTV News ที่เป็นต้นตอการเตือนภัยการระบาดครั้งใหม่รายงานว่า โรงพยาบาลจีนเต็มไปด้วยคนไข้เด็กจนล้นโรงพยาบาล พร้อมเสริมว่า บรรดาพ่อแม่ต่างตั้งคำถามว่า “รัฐบาลปักกิ่งปกปิดข้อมูลการระบาดหรือไม่”
สื่อท้องถิ่นจีนรายงานสัปดาห์ที่แล้วว่า โรงพยาบาลต่างๆ ในกรุงปักกิ่งและที่เหลียวหนิงนั้นมีเด็กป่วยล้นโรงพยาบาลที่มีอาการผิดปกติ รวมไปถึงปัญหาปอดอักเสบ ไข้สูง แต่กลับไม่มีอาการไอ
สำนักงานความมั่นคงสุขภาพอังกฤษ UK HSA (UK Health Security Agency) แถลงยืนยันว่า อังกฤษจะยังคงเปิดกว้างต่อสาเหตุการระบาดของโรคนิวมอเนียลึกลับนี้ที่มีจำนวนมากอ้างไปถึงความไม่โปร่งใสของปักกิ่งในช่วงเริ่มต้นของการระบาดโรคโควิด-19 ที่ทำให้ชาวอังกฤษมีผู้เสียชีวิตมากถึง 232,112 คน อ้างอิงจากเวิลด์มิเตอร์
และประเทศโลกตะวันตกทั้งอังกฤษ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอิตาลี รวมเยอรมนีที่มีประชาชนต้องเสียชีวิตเป็นจำนวนมากยังต้องปิดประเทศและเกิดผลกระทบครั้งมโหฬารทางเศรษฐกิจตามมาหลังจากนั้นซึ่งถือเป็นฝันร้ายของตะวันตกและทั่วโลก