เอเจนซีส์ - มีรายงานเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยื่นคำเตือนไปยังรัฐบาลอินเดียของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี หลังจาก FBI สามารถขวางแผนการลอบสังหารผู้นำแบ่งแยกดินแดนซิกข์สัญชาติแคนาดา-สหรัฐฯชื่อดัง กูร์ปาวานต์ ซิงห์ พานนัน (Gurpatwant Singh Pannun) เกิดขึ้นในอเมริกา เชื่อนิวเดลีมีส่วนเกี่ยวข้อง หลังผู้นำแบ่งแยกดินแดนซิกข์แคนาดา ฮาร์ดีป ซิงห์ นีจจาร์ (Hardeep Singh Nijjar) ในเดือนมิถุนายนถูกลอบสังหาร ส่งผลความร้าวฉานทางการทูตระหว่างออตตาวา และนิวเดลี
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันพุธ (22 พ.ย.) ว่า มีรายงานจากไฟแนนเชียลไทม์สวันพุธ (22) อ้างอิงจากแหล่งข่าวเปิดเผยว่า สหรัฐฯ ได้ส่งคำเตือนไปยังอินเดียต่อความวิตกในการเกี่ยวข้องของนิวเดลีในเหตุความพยายามลอบสังหารในดินแดนสหรัฐฯ ต่อผู้นำแบ่งแยกดินแดนซิกข์สัญชาติแคนาดา-สหรัฐฯ ชื่อดัง กูร์ปาวานต์ ซิงห์ พานนัน (Gurpatwant Singh Pannun) ที่ FBI สามารถขัดขวางได้ทัน
ไฟแนนเชียลไทม์สชี้ว่า แหล่งข่าวไม่ได้เปิดเผยว่าการประท้วงอินเดียต่อแผนการลอบสังหารนี้เนื่องมาจากแผนการนั้นเลิกล้มไปหรือเป็นเพราะ FBI ค้นพบ
ตามการรายงานระบุว่า การประท้วงต่ออินเดียถูกยื่นหลังจากนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี นั้นได้รับการต้อนรับจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ในการเยือนทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน
รายงานเกิดขึ้น 2 เดือนหลังจากนายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ออกมากล่าวหาว่านิวเดลีเกี่ยวข้องในการเสียชีวิตของผู้นำแบ่งแยกดินแดนซิกข์ชื่อดัง ฮาร์ดีป ซิงห์ นีจจาร์ (Hardeep Singh Nijjar) ที่ย่านชานเมืองแวนคูเวอร์ แต่ทว่านิวเดลีปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงนี้ และนำมาสู่ความระหองระแหงทางความสัมพันธ์
ไฟแนนเชียลไทม์สเปิดเผยว่า บุคคลที่ตกเป็นเป้าหมายในการลอบสังหารคือ กูร์ปาวานต์ ซิงห์ พานนัน (Gurpatwant Singh Pannun) ซึ่งพานนัน ไม่ได้เปิดเผยว่า เขารอดชีวิตมาได้เป็นเพราะเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ นั้นเตือนภัยเขาล่วงหน้าหรือไม่ แต่กล่าวเพียงว่า “เขาจะปล่อยให้รัฐบาลสหรัฐฯ จัดการต่อประเด็นภัยคุกคามที่มีต่อชีวิตของผมในแผ่นดินอเมริกาจากฝีมือของหน่วยปฏิบัติการอินเดีย”
ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า สหรัฐฯ ได้แชร์ข้อมูลของการขัดขวางแผนลอบสังหารกับกลุ่มพันธมิตรที่ใหญ่ขึ้นหลังแคนาดาออกมากล่าวหานิวเดลีในทางสาธารณะ และที่ผ่านมาออตตาวาทำงานใกล้ชิดกับหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ที่ว่าเอเยนต์ของนิวเดลีอาจเกี่ยวข้องในการเสียชีวิตของนีจาร์ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงแคนาดาเปิดเผยกับรอยเตอร์ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา