เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ โรซาลีนน์ คาร์เตอร์ เสียชีวิตในวัย 96 ปี บ่ายวันอาทิย์ (19 พ.ย.) ที่บ้านพัก โดยมีอดีตผู้นำสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์อยู่ข้างเตียง เคยเดินทางมาไทยพร้อมสามีสร้างบ้านให้ผู้ประสบภัยสึนามิปี 2006
เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานวานนี้ (19 พ.ย.) ว่า มูลนิธิคาร์เตอร์ เซ็นเตอร์ (Carter Center) ประกาศข่าวการจากไปของอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ โรซาลีนน์ คาร์เตอร์ (Rosalynn Carter) ซึ่งเสียชีวิตในวัย 96 ปี ที่บ้านพักในเมืองเพลนส์ (Plains) รัฐจอร์เจีย ในเวลา 14.20 น.ของวันอาทิตย์ (19) โดยมีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์ และครอบครัวอยู่ข้างเตียงในวาระสุดท้าย
อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ โรซาลีนน์ คาร์เตอร์ ในช่วงที่ยังมีชีวิตขึ้นชื่อว่าเป็นนักรณรงค์ด้านสุขภาพจิตของสหรัฐฯ และยังเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรี แต่นางคาร์เตอร์ติดตามเคียงข้างสามีทั้งในระหว่างดำรงตำแหน่งและหลังหมดสมัยไปยังที่ต่างๆ ในโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ (Habitat for Humanity) ของตระกูลคาร์เตอร์
บนเว็บไซต์ได้ขึ้นคำอาลัย “ขอขอบคุณ คุณนายคาร์เตอร์” โดยโครงการนี้สร้างที่อยู่อาศัยเพื่อประชาชนรายได้ต่ำทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก โดยมีการก่อตั้ง Habitat for Humanity Thailand ขึ้นในปี 1998 โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้นด้วยการให้คนไทยมีบ้านเป็นของตัวเองด้วยการสร้างที่อยู่อาศัยและเปลี่ยนให้กลายเป็นชุมชนขึ้นมา
ซึ่งโครงการนี้นอกจากจะสร้างบ้านแล้วยังช่วยส่งเครื่องบรรเทาทุกข์ในวิกฤตครั้งสำคัญของไทยมาแล้ว รวมไปถึงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2011 ส่งเครื่องบรรเทาทุกข์ไปให้ 11 จังหวัด และสร้างบ้าน 1,400 หลัง และซ่อมแซมโรงเรียนอีก 32 แห่งใน จ.อยุธยา อ้างอิงจากเว็บไซต์ Habitat for Humanity
พบว่านางคาร์เตอร์ เคยติดตามอดีตประธานาธิบดี จิมมี คาร์เตอร์ เดินทางมาเยือนไทยในปี 2009
NBC News รายงานวันที่ 16 พ.ย. ปี 2009 พบว่า อดีตผู้นำสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์ และโรซาลีนน์ คาร์เตอร์ รวมอยู่ในกลุ่มอาสาสมัคร 3,000 คนจาก 25 ประเทศทั่วโลกทำงานร่วมกับ Habitat for Humanity เพื่อช่วยก่อสร้างและปรับปรุงบ้านตามลุ่มแม่น้ำแม่โขงในไทย เวียดนาม จีน กัมพูชา และลาว โดยมีภาพอดีตผู้นำสหรัฐฯ ร่วมอยู่ในการก่อสร้าง
และก่อนหน้านั้นในปี 2004 เป็นที่จดจำไปทั่วสำหรับหลายคนในไทยที่ได้เห็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คาร์เตอร์ และสุภาพสตรีหมายเลข 1 นางคาร์เตอร์ เดินทางมาเยือนไทยในวิกฤตภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
อ้างอิงจากมูลนิธิคาร์เตอร์ เซ็นเตอร์ พบว่าอดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์ได้กล่าวว่า
“ระหว่างสัปดาห์โรซาลีนน์ และข้าพเจ้าเดินทางไปเยือนเขตประสบภัยพิบัติสึนามิทางตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดีย และไปที่ จ.ภูเก็ต พร้อมกับบรรดาผู้บริหารธนาคารซิตีกรุ๊ป (Citigroup) และซีอีโอของโครงการ Habitat โจนาธาน เรคฟอร์ด (Jonathan Reckford)”
อ้างอิงจากสื่อไทยภาคภาษาอังกฤษรายงานในวันที่ 2 พ.ย. ปี 2006 ว่า ทั้งอดีตประธานาธิบดี จีมมี คาร์เตอร์ และอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ โรซาลีนน์ คาร์เตอร์ เดินทางไปเยือนพร้อมกับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำไทยในเวลานั้น ราฟ บอยซ์ (Ralph Boyce) ซีอีโอโครงการ Habitat โจนาธาน เรคฟอร์ด และ ดร.ชัยณรงค์ มณเทียรวิเชียรฉาย ประธานบอร์ดไทยของ Habitat for Humanity Thailand
ซึ่งในการเยือนระหว่างเวลา 11.30-13.30 น. พบว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯ ได้ไปตรวจสอบบางส่วนของบ้าน 96 หลังของโครงการ Habitat ที่สร้างให้คนเหล่านี้ พบว่าเขายังได้สนทนากับชาวประมงเกี่ยวกับรายได้และความรู้สึกของคนเหล่านั้นเกี่ยวกับบ้านใหม่ของตัวเอง
จิมมี คาร์เตอร์ได้กล่าวถึงการเยือนบ้านท่าฉัตรไชยที่บันทึกไว้โดยมูลนิธิคาร์เตอร์ เซ็นเตอร์ ว่า
"ที่บ้านท่าฉัตรไชยในประเทศไทย ประชาชนได้สร้างแนวคิดริเริ่มอย่างยิ่งใหญ่และสำเร็จด้วยตัวเองเป็นส่วนมาก คนเหล่านั้นแสดงความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากในการตกแต่งหมู่บ้านของพวกเขาด้วยของตกแต่งและดอกไม้"
ซึ่งภายในข้อเขียนพบว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯ ยังได้ระบุถึงความเป็นอยู่ของชาวประมงไทยอย่างน่าสนใจว่า เป็นต้นว่า ชาวประมงทำมาหากินด้วยการจับกุ้งตัวใหญ่โดยเฉลี่ยแล้ว 10 ตัวต่อวัน ซึ่งกุ้งแต่ละตัวมีราคาตกราว 65 เซนต์เท่านั้น
เดอะพีเพิลรายงานเพิ่มเติมว่า หลังการจากไปทั่วโลกต่างแห่แสดงความอาลัย
โดยทั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ มิเชล โอบามา ต่างกล่าวไว้อาลัยว่า “เธอจะอยู่ในหัวใจของพวกเราเสมอ”
ทั้งนี้ พบว่ามีการประกาศข่าวนางคาร์เตอร์เข้ารับการรักษาระยะสุดท้ายในวันศุกร์ (17) เกือบ 6 เดือนหลังได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยด้วยโรคสมองเสื่อม (dementia) และเสียชีวิตลงในวันอาทิตย์ (19)
หนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์รายงานว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันเสาร์ (18) บนเวทีหาเสียงรัฐไอโอวาได้ล้อเลียนจิมมี คาร์เตอร์ โดยกล่าวเปรียบเทียบว่า
“เมื่อเปรียบเทียบกับไบเดน จิมมี คาร์เตอร์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ฉลาดปราดเปรื่อง” ทรัมป์ประกาศ
เดอะพีเพิลรายงานว่า ทั้งประธานาธิบดีไบเดน และสุภาพสตรีหมายเลข 1 จิล ไบเดน ออกแถลงการณ์แสดงความไว้อาลัยแก่โรซาลีนน์ คาร์เตอร์ มีใจความว่า
"เธอถือเป็นแชมเปียนเพื่อสิทธิความเท่าเทียมและโอกาสสำหรับผู้หญิงและเด็กหญิง นักรณรงค์ตัวฉกาจด้านสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคน และเป็นผู้สนับสนุนต่อบรรดาผู้ดูแลที่มักจะมองไม่เห็นและไม่ได้รับการตอบแทนสำหรับเด็กๆ ของพวกเรา ผู้สูงอายุที่เป็นที่รัก และผู้พิการ"