เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - มหาเศรษฐีสหรัฐฯ ชื่อดังทั้ง ทิม คุก เจ้าของแอปเปิลและผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นเย็นวันพุธ (15 พ.ย.) ยอมเทกระเป๋าจ่ายค่าบัตรแพงหูฉี่ 40,000 ดอลลาร์ ร่วมโต๊ะเดียวกันกับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ในงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ในซานฟรานซิสโก หลังเจ้าหน้าที่จีนต้องใช้ผ้าแดงคลุมป้ายประท้วงข้างทางในเมืองต้อนรับ เว้น อีลอน มัสก์ ที่จ่ายค่าบัตรแค่ 2,000 ดอลลาร์ เรียกเสียงยี้หลังเห็นด้วยกับคนโพสต์ทฤษฎีสมคบคิดต้านยิวที่มีข้อความว่า “ยิวทำให้คนผิวขาวโดนเกลียดชังเพิ่มมากขึ้น”
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (16พ.ย.) ว่า กลายเป็นเรื่องเมื่อ "อีลอน มัสก์" บ่ายวันพุธ (15) ได้โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X ของตัวเองแสดงการสนับสนุนแนวคิดต่อต้านยิว ก่อนที่เขาจะเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี เมืองซานฟรานซิสโกในค่ำวันเดียวกันนั้น
โดยตามการรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ชี้ว่า ในบรรดามหาเศรษฐีอเมริกันหลายคน รวมผู้บริหารบริษัทแอปเปิล อิงค์ ทิม คุก ที่ต้องยอมควักกระเป๋าเทจ่ายค่าบัตรดินเนอร์ราคาแพง 40,000 ดอลลาร์ แต่มีรายงานว่า เจ้าของเทสลาจ่ายค่าบัตรแค่ 2,000 ดอลลาร์เท่านั้นในการที่จะมีโอกาสได้นั่งร่วมโต๊ะกับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง
โต๊ะของประธานาธิบดีจีนมีทั้งหมด 8 ที่นั่งด้วยกัน นอกเหนือจากประธานาธิบดีสีแล้ว พบว่ารัฐมนตรีพาณิชย์จีน หวังเหวินเทา (Wang Wentao) นั่งอยู่ข้างกาย
นิวยอร์กโพสต์เปิดเผยว่า มีรายงานว่าที่โต๊ะของผู้นำจีน รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ จีนา ไรมอนโด (Gina Raimondo) และเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำจีนได้ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย
นอกเหนือจากนี้ยังมีบรรดานักธุรกิจคนสำคัญของสหรัฐฯ คนอื่นๆ รวมผู้บริหารบริษัทยาไฟเซอร์ ซีอีโอบริษัทแบล็กร็อก ซีอีโอบริษัทแบล็กสโตน และตัวแทนบริษัทโบอิ้ง และ FedEx เข้าร่วมในงานกาล่าดินเนอร์ที่จัดขึ้นเป็นวันสุดท้ายของการประชุม APEC
เป็นการจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี ในย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองซานฟรานซิสโกค่ำวันพุธ (15) อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส
การเดินทางมาประชุมเอเปกครั้งนี้พบว่า ทางการจีนได้มีการเตรียมพร้อมการรับมือต้อนรับการประท้วงต้านในต่างแดนเหมือนเช่นที่กระทำภายในประเทศ เดลีเทเลกราฟของอังกฤษรายงานวันพุธ (15) ว่า พบว่าเจ้าหน้าที่จีนในวันอังคาร (14) ใช้ผ้าสีแดงผืนใหญ่ออกมาคลุมป้ายประท้วงที่มีข้อความต่อต้านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ด้านนอกศูนย์มอสโคน เซนเตอร์ (Moscone Centre) สถานที่จัดการประชุมเอเปกในซานฟรานซิสโกเพื่อไม่ให้เกะกะสายตาผู้นำจีน
เดลีเทเลกราฟรายงานว่า หนึ่งในข้อความประท้วงที่เขียนด้วยลายมือเป็นภาษาอังกฤษอ่านมีใจความได้ว่า “พรรคคอมมิวนิสต์จีนประหารพ่อของฉันจนถึงแก่ความตาย ยึดบ้านฉันไป และทำร้ายครอบครัวฉันทั้งครอบครัว”
และพบว่านักข่าวของทางสถานีข่าวไต้หวันตามการรายงานของสื่อไต้หวันได้ถูกข่มขู่ระหว่างใช้กล้องถ่ายด้านนอกบริเวณโรงแรมที่พัก สื่ออังกฤษกล่าวว่า ตามรายงานระบุว่ามีชายพูดภาษาจีนกลางได้ออกคำสั่งให้ทีมข่าวไต้หวันออกไปพร้อมกับกำกับให้ต้องลบภาพที่ถ่ายให้หมดรวมไปถึงภาพเคลื่อนไหว
ด้าน CNN รายงานต่อว่า ในการโพสต์ต่อต้านยิวของอีลอน มัสก์ พบว่าเขาได้ออกมาแสดงการรับรองข้อความต่อการโพสต์ผู้ใช้รายหนึ่งบนแพลตฟอร์มที่กล่าวว่า
“ชุมชนชาวยิวต่างๆ ได้ผลักดันทำให้เกิดวาทะแสดงความเกลียดชังต่อชนผิวขาวที่คนเหล่านั้นอ้างว่าต่องการให้ผู้คนหยุดการใช้มัน (วาทะแสดงความเกลียดชัง) ต่อคนเหล่านั้น”
และการโพสต์ยังได้อ้างไปถึงการทะลักของชนกลุ่มน้อยไหลเข้าสู่ประเทศตะวันตกต่างๆ CNN ชี้ว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิดต่อต้านยิวที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
ซึ่งอีลอน มัสก์ได้ตอบกลับไปยังผู้โพสต์รายนี้โดยกล่าวว่า “คุณพูดข้อเท็จจริง”
สื่อสหรัฐฯ อธิบายว่า ทฤษฎีสมคบคิดดังกล่าวชี้ไปว่า ชาวยิวต้องการผลักดันให้ชนกลุ่มน้อยเข้าไปอาศัยภายในประเทศโลกตะวันตกทั้งหลายเพื่อทำให้ชนผิวขาวที่มีอยู่แต่เดิมนั้นกลายเป็นชนกลุ่มน้อยของประเทศเหล่านั้นไป
มัสก์ทวีตหลังจากนั้นว่า เขาไม่เชื่อว่าความเกลียดชังในผิวขาวนั้นจะเกิดขึ้นในทุกชุมชนของชาวยิว แต่มัสก์ได้กล่าวว่ากลุ่มสนับสนุนชาวยิว ADL (Anti-Defamation League) ที่มีฐานอยู่ในเมืองนิวยอร์ก ซิตี รัฐนิวยอร์กนั้นโจมตีอย่างไม่เป็นธรรมต่อส่วนใหญ่ของตะวันตกถึงแม้ว่าตะวันตกเป็นส่วนใหญ่จะสนับสนุนชาวยิวและอิสราเอลก็ตาม
มัสก์อธิบายต่อว่า เป็นเพราะพวกเขาไม่สามารถกระทำได้ เพราะตามหลักการของคนเหล่านี้ไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ชนกลุ่มน้อยที่เป็นภัยคุกคามหลักของพวกเขา แต่ CNN ชี้ว่าเป็นการยากที่จะเดาได้ว่าเจ้าของเทสลานั้นหมายความไปถึงสิ่งใด
และในการทวีตมัสก์ได้แสดงการไม่เห็นด้วยต่อ ADL โดยชี้ว่า สารหรือข้อความที่ออกมาจากทางกลุ่มเป็นการสนับสนุนให้เกิดความเกลียดชังขึ้นมา
“ผมรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากต่อการส่งสารของกลุ่ม ADL และกลุ่มอื่นที่ผลักดันแนวคิดกีดกันผิวขาวหรือคนเอเชียหรือการกีดกันประเภทใดๆ ก็ตาม” และเสริมต่อว่า “ผมรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับมัน ขอให้หยุดเดี๋ยวนี้”