กองทัพอิสราเอลถล่มพื้นที่ด้านใต้ของฉนวนกาซาเมื่อวันอังคาร (14 พ.ย.) หลังจากส่งรถถังกดดันหน้าประตูทางเข้าโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของกาซา ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า มีผู้ป่วยที่รวมถึงทารกหลายสิบคนเสียชีวิตจากการขาดแคลนเชื้อเพลิงและการต่อสู้อย่างหนัก ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง ผู้นำบราซิลประณามอิสราเอลโหดเหี้ยมไม่ต่างจากพวกฮามาส
เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขกาซาเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คนในเมืองข่านยูนิสทางตอนใต้ของกาซา ที่ยังคงตกเป็นเป้าหมายการถล่มโจมตีอย่างดุเดือดของอิสราเอล โดยในเวลาเดียวกันนั้น ทางด้านเหนือของฉนวนกาซา กองทัพยิวยังคงส่งขบวนรถถังไปจอดอยู่หน้าโรงพยาบาลอัลชีฟา ซึ่งเป็นศูนย์การแพทย์ใหญ่ที่สุดในเมืองกาซาซิตี้ โดยอ้างว่า ใต้โรงพยาบาลดังกล่าวมีเครือข่ายอุโมงค์ที่เป็นศูนย์บัญชาการของนักรบฮามาสที่ใช้ผู้ป่วยเป็นโล่มนุษย์ ซึ่งทางฮามาสปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง
กองทัพอิสราเอลบอกด้วยว่า กำลังประสานงานเพื่อลำเลียงตู้อบทารกไปยังกาซา ซึ่งเป็นไปได้ว่า เพื่ออพยพทารกแรกเกิดออกจากโรงพยาบาลอัลชีฟา
อัชราฟ อัล-กิดรา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขกาซาที่อยู่ในโรงพยาบาลดังกล่าว ระบุเมื่อวันจันทร์ (13) ว่า มีผู้ป่วย 32 คนเสียชีวิตในช่วง 3 วันก่อนหน้านั้น ซึ่งรวมถึงทารกแรกเกิด 3 คน ขณะที่ในโรงพยาบาลยังคงมีผู้ป่วยอีกอย่างน้อย 650 คน
ในวันจันทร์ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงความคิดเห็นครั้งแรกนับจากมีรายงานข่าวผู้ปวยเสียชีวิตในอัลชีฟา โดยเรียกร้องให้อิสราเอลปกป้องโรงพยาบาลและพลเรือน
วันเดียวกันนั้น กองทัพอิสราเอลเผยแพร่วิดีโอและภาพที่อ้างว่า เป็นอาวุธที่ฮามาสซ่อนไว้ที่ชั้นใต้ดินของโรงพยาบาลแรนทิสซี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเด็กที่เชี่ยวชาญการรักษามะเร็ง
ทว่า ฮามาสแถลงตอบโต้ผ่านทางแพลตฟอร์มเทเลแกรมว่า วิดีโอดังกล่าวเป็นการจัดฉากเพื่อให้สาธารณชนเข้าใจผิด และเป็นความพยายามที่ล้มเหลวของอิสราเอลในการสร้างความชอบธรรมในการโจมตีโรงพยาบาลในกาซา
กระนั้น ปีเตอร์ เลอร์เนอร์ โฆษกกองทัพอิสราเอล ยืนยันว่า อัลชีฟาเป็นศูนย์กลางการบัญชาการและการควบคุมของฮามาส แต่สำทับว่า กองทัพกำลังพยายามอพยพคนออกจากโรงพยาบาลดังกล่าวให้มากที่สุด
เลอร์เนอร์ยังอ้างว่า มีคนอยู่ในโรงพยาบาลอัลชีฟาแค่ไม่กี่ร้อยคน ขณะที่ยูสเซฟ อาบู ริช รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขฮามาสที่อยู่ในโรงพยาบาลแห่งนั้น บอกว่า มีพลเรือนราว 20,000 คนหลบภัยสงครามอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนสหประชาชาตินั้นเชื่อว่า อาจมีผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ และพลเรือนที่ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 10,000 คนติดอยู่ในอัลชีฟา ที่เวลานี้กลายเป็นสมรภูมิหลักในสงครามที่กาซาซึ่งยืดเยื้อมา 5 สัปดาห์แล้ว
นอกจากนั้นเมื่อวันอังคาร กองทัพอิสราเอลยังยืนยันการเสียชีวิตของโนอา มาร์เซียโน ทหารหญิงที่ถูกจับเป็นตัวประกัน หลังจากฮามาสเผยแพร่วิดีโอภาพทหารหญิงผู้นี้ขณะยังมีชีวิตอยู่ซึ่งบันทึกไว้เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ตามด้วยภาพถ่ายที่ระบุว่า เป็นศพของทหารหญิงผู้นี้ที่เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อวันพฤหัสฯ (9) ที่ผ่านมา
นับเป็นครั้งแรกที่อิสราเอลยืนยันการกล่าวอ้างของฮามาส ที่ก่อนหน้านี้ระบุว่า มีตัวประกันที่จับไประหว่างการบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เสียชีวิตหรือสูญหายจากสงครามในกาซา
ทั้งนี้ อิสราเอลเปิดศึกบดขยี้ฮามาสหลังจากนักรบอิสลามิสต์กลุ่มนี้ส่งนักรบข้ามแดนเข้าไปทางใต้ของอิสราเอลและสังหารผู้คนราว 1,200 คน และจับตัวประกันกลับไปกาซาอีก 240 คนเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่กาซาบอกว่า จนถึงตอนนี้ความขัดแย้งนี้ทำให้ชาวปาเลสไตน์ถูกฆ่าค่นไปแล้ว 11,240 คน ซึ่งราว 40% เป็นเด็ก
ขณะเดียวกัน กองกำลังอาวุธอัล-กัสซัม ซึ่งเป็นฝ่ายติดอาวุธของฮามาส โพสต์ข้อความเสียงบนเทเลแกรมระบุว่า พร้อมปล่อยตัวประกันผู้หญิงและเด็ก 70 คนแลกเปลี่ยนกับการหยุดยิง 5 วัน ซึ่งมีแนวโน้มว่า อิสราเอลจะปฏิเสธ โดยอ้างว่า การหยุดยิงจะทำให้ฮามาสมีเวลาระดมนักรบมาต่อสู้เพิ่ม
อย่างไรก็ดี อิสราเอลบอกว่าจะยินยอมให้มีการหยุดพักเพื่อมนุษยธรรมช่วงสั้นๆ เพื่อเปิดทางในการลำเลียงอาหารและสิ่งของจำเป็นอื่นๆ เข้าไปในกาซา และให้ชาวต่างชาติเดินทางออกจากกาซา
ด้าน เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วอชิงตันต้องการให้หยุดยิงเป็นวัน ไม่ใช่ชั่วโมง เพื่อให้มีการปล่อยตัวประกัน
วันจันทร์ ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวาของบราซิล กล่าวในพิธีต้อนรับชาวบราซิลและครอบครัวรวม 32 คนที่เดินทางกลับจากกาซาว่า อิสราเอลสังหารผู้บริสุทธิ์ในฉนวนกาซาโดยไม่เลือกเช่นเดียวกับฮามาส
ผู้นำประเทศใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกาแห่งนี้ยังกล่าวหาอิสราเอลทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลภายใต้ข้ออ้างว่า มีผู้ก่อการร้ายกบดานอยู่ และเสริมว่า เขาไม่เคยเห็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณต่อผู้บริสุทธิ์แบบนี้มาก่อน
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)