เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - รัฐบาลไทยยุคเศรษฐา ทวีสิน วางแผนเอาตำรวจจีนเข้ามาประจำในไทยแก้ปัญหาจีนเทา เรียกเสียงวิจารณ์ไปทั่ว อ้างเล็งให้เดินตรวจการณ์ร่วมกับตำรวจไทยในจุดแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเรียกความมั่นใจจากนักท่องเที่ยวแดนมังกรกลับมา แต่ ผบ.ตร.ไทยชี้หวั่นเสียอธิปไตยชาติ ด้านโกลบอลไทม์สของจีนตีปี๊บ ถ้าโมเดลเดินตรวจการณ์ร่วมในไทยประสบความสำเร็จ จะเป็นโมเดลที่ปักกิ่งใช้โฆษณาชวนเชื่อประเทศอื่นๆ ในเอเชีย
หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์สของสิงคโปร์รายงานวานนี้ (13 พ.ย.) กลายเป็นเรื่องร้อนในประเทศเมื่อรัฐบาลไทยเสนอแนวคิดนำตำรวจจีนเข้ามาตรวจการณ์ในประเด็นช่วยแก้ปัญหาอาชญากรรมในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากบรรดานักท่องเที่ยวจีนให้กลับมา
แต่ทว่ามีคนเป็นจำนวนมากไม่เห็นด้วย รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ยืนกรานว่า การนำกองกำลังต่างชาติเข้ามาปฏิบัติการภายในราชอาณาจักรนั้นสุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงทางอธิปไตยของไทย
ความร่วมมือกับตำรวจจีนมีการหารือเกิดขึ้นวันอาทิตย์ (12) ระหว่างเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย และนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่ในเวลานี้กำลังอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ เพื่อร่วมการประชุมเอเปกในสัปดาห์นี้
เป้าหมายอ้างว่าเพื่อเรียกความมั่นใจจากนักท่องเที่ยวจีนให้เดินทางกลับมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ กล่าวว่า “พวกเราอยู่ระหว่างการเจรจากับสถานทูตจีนเกี่ยวกับโครงการลาดตระเวนในการนำตำรวจจีนมาไทย” และเสริมต่อว่า “นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าทางเราเร่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัยที่จะเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นต่อกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน”
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวเปิดเผยกับนักข่าววันอาทิตย์ (12) ว่า โครงการลาดตระเวนที่คล้ายกันนี้ประสบความสำเร็จในอิตาลีในอดีต
แต่ทว่าหนังสือพิมพ์สิงคโปร์ชี้ว่า อ้างอิงจากการเปิดเผยของ Safeguard Defenders กลุ่มสิทธิมนุษยชนที่มีฐานในสเปนออกมาเปิดเผยว่า ปักกิ่งแอบเปิดสถานีตำรวจลับนอกประเทศจีนใน 53 ประเทศทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในสหรัฐฯ
บีบีซี สื่ออังกฤษภาคภาษาไทยรายงานเรื่องการนำตำรวจจีนเข้าไทยนั้นเสี่ยงที่จะเกิดสถานีตำรวจลับจีนในประเทศขึ้นมา บีบีซียังตีแผ่คำกล่าวอ้างของฝ่ายไทยที่ชี้ว่า การเดินลาดตระเวนของตำรวจอิตาลีร่วมกับตำรวจจีนที่ประสบความสำเร็จนั้นแท้จริงแล้ว รัฐบาลอิตาลีตัดสินใจหยุดโครงการนี้ไปในปลายปี 2565 หลังทำมานาน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2559 และเว้นว่างไปในช่วงวิกฤตโควิด-19 เกิดระบาดไปทั่วโลก
บีบีซีไทยรายงานว่า รัฐบาลโรมหัวเสียอย่างหนักหลังพบหลักฐานว่าปักกิ่งแอบเปิดสถานีตำรวจลับจีนในประเทศมากที่สุดถึง 11 แห่งจากทั้งหมด 110 สถานีประจำ 53 ประเทศทั่วโลก
ซึ่งในเดือนพฤษภาคมก่อนหน้านายกรัฐมนตรีหญิงอิตาลี จอเจีย เมโลนี ยังเปิดเผยแผนว่าจะนำอิตาลีออกไปจากความร่วมมือโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีน
หนังสือพิมพ์สิงคโปร์เปิดเผยว่า ชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาลได้อ้างความจำเป็นที่ต้องนำตำรวจจีนเข้ามาในประเทศเพื่อแก้ปัญหาแก๊งจีนเทาเท่านั้น และยังอ้างเสียงแข็งว่าไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นเอกราชของไทยหรือความเป็นอธิปไตยของไทยแต่อย่างใด
เรดิโอฟรีเอเชียของสหรัฐฯ ชี้ว่า แต่ทว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าเขาไม่เห็นด้วยโดยกล่าวว่า
“ผมไม่เห็นด้วยกับการนำตำรวจจีนเข้ามาดูแลนักท่องเที่ยวตัวเอง เป็นการละเมิดอธิปไตย ตำรวจไทยมีศักยภาพในการดูแลพลเมืองไทยและนักท่องเที่ยวจีนปลอดภัย” ผบ.ตร.แถลงวันจันทร์ (13) หลังประชุมคณะกรรมาธิการด้านกิจการตำรวจประจำรัฐสภา
เรดิโอฟรีเอเชียรายงานว่า โฆษกรัฐบาลไทยอ้างเหตุการที่ต้องนำตำรวจจีนเข้ามาทำงานในประเทศเป็นเพราะแก๊งจีนเทาไม่กลัวตำรวจไทยแต่หวาดกลัวต่อตำรวจจีน และยืนยันต่อว่าไม่ได้เป็นการเดินลาดตระเวนแต่แค่ให้ข้อมูลเฉยๆ
นักธุรกิจไทย กวิน ศิลปสกุล (Kavin Silpasakul) วัย 37 ปี ออกมาแสดงความเห็นกับ BenarNews ในเรื่องนำตำรวจจีนมาลาดตระเวนในไทยว่า
“โดยส่วนตัวผมไม่มีปัญหากับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการให้ตำรวจจีนมาเดินรวจการณ์ที่นี่” พร้อมกันนี้ยังกล่าวเหมือนกับ ผบ.ตร. โดยชี้ว่า “เราอาจได้เห็นว่ามันเป็นเหมือนการละเมิดอธิปไตยของเรา” เรดิโอฟรีเอเชียรายงาน
สเตรทไทม์สของสิงคโปร์รายงานว่า บรรดานักท่องเน็ตไทยต่างพากันโจมตีในข้อเสนอนำตำรวจจีนเข้าประเทศ โดยต่างกล่าวว่าวิตกกันว่าไทยจะกลายเป็นอีกจุดหนึ่งของโลกที่ปักกิ่งออกปฏิบัติการลับเพื่อไล่ล่ากลุ่มต่อต้านรัฐบาลปักกิ่งนอกประเทศจีน
โกลบอลไทม์สของจีนรายงานในเรื่องไทยต้องการให้ตำรวจจีนเข้าไปลาดตระเวนในประเทศโดยอ้างความเห็นผู้เชี่ยวชาญจีน ซู ลีปิง (Xu Liping) ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำสถาบันจีนด้านวิทยาศาสตร์สังคม ที่ได้แสดงความเห็นด้วยในข้อเสนอนี้ว่า
หากแผนการใช้ตำรวจจีนเดินหน้าขึ้นจริง การเดินตรวจการณ์ของตำรวจจีนจะเป็นแรงจูงใจสำหรับนักท่องเที่ยวแดนมังกรที่กำลังลังเลในการเข้ามาเยือนประเทศไทย
บรรดาผู้เชี่ยวชาญจีนทั้งหลายต่างอ้างว่า การใช้บริการตำรวจจีนจะถือเป็นข่าวดีต่อทั้งนักท่องเที่ยวจีนและบุคลากรอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเอง
โกลบอลไทม์รายงานว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยหมายมั่นไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนให้เข้าไปเยือนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวอย่างล่าช้าหลังโควิด-19 ซึ่งแหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เปิดเผยชื่อแสดงความเห็นว่า หากโครงการตำรวจจีนลาดตระเวนร่วมกันเป็นไปได้ด้วยดีและประสบความสำเร็จ “ไทย” จะกลายเป็นโมเดลที่ถูกปักกิ่งโปรโมตสำหรับการตรวจการณ์ร่วมในประเทศอื่นๆ ในเอเชียต่อไป
ประเทศหมู่เกาะโซโลมอนใกล้ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เปิดเผยต่อสาธารณะว่า อนุญาตให้กองกำลังตำรวจจีนเข้าไปในปฏิบัติการภายในประเทศ ซึ่ง VOA ชี้ว่า โซโลมอนอ้างว่า ตำรวจจีนที่นำเข้ามาเพื่อสนับสนุนอาชญากรรมทางไซเบอร์ และความปลอดภัยของชุมชนของพลเมืองทั้งหมดราว 700,000 คนเท่านั้น
เกิดขึ้นหลังทั้ง 2 ฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงในความร่วมมือทางการบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคงกลางปีนี้ หลังโซโลมอนประกาศตัดความสัมพันธ์จากไต้หวัน และหันมาซบปักกิ่งในปี 2019 เพื่อต้องการรับการสนับสนุนทางการเงินจากปักกิ่ง โดยได้รับเงินกู้ 66 ล้านดอลลาร์จากธนาคาร EXIM แบงก์ของจีนสำหรับการตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือของบริษัทหัวเว่ยของจีน
และได้หัวเว่ยชนะโครงการวางเคเบิลใต้ทะเลรวมไปถึงโซโลมอนยังร่วมโครงการโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง