เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ค่ำวานนี้ (11 พ.ย.) ยืนยันอิสราเอลมาถูกทางแล้ว ถึงแม้ทั้งโลกจะโดดเดี่ยวแต่จะเดินหน้ากวาดล้างฮามาสแบบขุดรากถอนโคน ไม่ปล่อยให้รัฐบาลปาเลสไตน์ปกครองเขตฉนวนกาซา IDF จะควบคุมความมั่นคงหลังสงครามสิ้นสุด องค์การอนามัยโลกแถลงไม่สามารถติดต่อโรงพยาบาลอัล ชีฟา ขณะที่รถถังกองทัพอิสราเอลกำลังล้อมโรงพยาบาลแห่งนี้ เชื่อด้านใต้เป็นฐานที่มั่นใหญ่กลุ่มฮามาส
ไทม์สออฟอิสราเอลรายงานวันนี้ (12 พ.ย.) ว่า นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ค่ำวานนี้ (11 พ.ย.) กล่าวผ่านแถลงการณ์ร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล และรัฐมนตรี Benny Gantz ปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาประเทศที่แสดงความวิตกถึงพลเรือนจำนวนมากในเขตฉนวนกาซา รวมเด็กๆ ที่ต้องเสียชีวิตระหว่างสงครามอิสราเอล-ฮามาสของเนทันยาฮู
เนทันยาฮูยังโจมตีโต้กลับไปของประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง 1 วันก่อนหน้า พร้อมกับยืนยันว่าอิสราเอลจะต่อต้านการกลับมามีอำนาจเหนือกาซาของรัฐบาลปาเลสไตน์ PA หลังสงครามสิ้นสุดลง
ที่ตามรายงานนั้นเป็นเป้าหมายที่วอชิงตันต้องการบรรลุ โดยเขาประณาม PA ว่าสั่งสอนให้เด็กปาเลสไตน์ต้องการกำจัดอิสราเอล สนับสนุนการก่อการร้าย และ PA ยังไม่เคยออกมาประณามเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.ที่เทลอาวีฟถูกกลุ่มฮามาสโจมตี
เขายืนกรานว่าหลังสงครามแล้วกองกำลัง IDF จะยังคงอยู่ภายในกาซาต่อไปเพื่อควบคุมทางความมั่นคง
ไทม์สออฟอิสราเอลรายงานว่า มาครงในวันศุกร์ (10) เรียกร้องให้อิสราเอลใช้ข้อตกลงหยุดยิงเพื่อยุติการโจมตีฆ่าพลเรือนปาเลสไตน์ในกาซา โดยชี้ว่าไม่มีเหตุผลความชอบธรรมใดๆ มารับรองต่อสิ่งนี้
แต่ทว่าแหล่งข่าวการทูตแดนน้ำหอมในวันเสาร์ (11) ออกมาปัดว่า มาครงไม่ได้หมายความว่า เทลอาวีฟตั้งใจสังหารพลเรือนปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์เหล่านั้น และชี้ว่ามาครงได้กล่าวถึงการกระทำของฮามาสในการจับพลเรือนเป็นตัวประกันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถรับได้เช่นกัน
สกายนิว์ของอังกฤษ รายงานว่า เนทันยาฮูประกาศจะยอมหยุดยิงก็ต่อเมื่อกลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมดกว่า 200 ออกมาแล้ว
ทั้งนี้ อัลญะซีเราะฮ์ของกาตาร์รายงานวันอาทิตย์ (12) ว่า รถถังอิสราเอลกำลังล้อมโรงพยาบาลอัล-ชีฟาที่ฝ่ายเทลอาวีฟเชื่อว่าด้านใต้ของโรงพยาบาลเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของฮามาส
เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่องค์การอนามัยโลก WHO แถลงว่าไม่สามารถติดต่อโรงพยาบาลแห่งนี้ได้
สื่อกาตาร์รายงานว่า กองกำลังอิสราเอลเข้าปิดล้อมหลายโรงพยาบาลทางเหนือของกาซา ส่งผลทำให้สหประชาชาติและหลายชาติต่างออกมากดดันให้เนทันยาฮูสั่งยุติการโจมตีโรงพยาบาลทันที โดยชี้ว่า โรงพยาบาลได้รับการปกป้องภายใต้กฎหมายมนุษยธรรม
ผู้เสียชีวิตล่าสุดมีไม่ต่ำกว่า 11,078 คน รวมเด็ก 4,506 คน และผู้บาดเจ็บ 27,490 คน